วันอังคาร, 5 พฤศจิกายน 2567

สื่อนอกตีข่าว PM ๒.๕ ทำคนไทยป่วยถึง ๑๐.๕ ล้านคน ในปี ๒๕๖๖

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ปัญหา PM ๒.๕ ทำให้คนได้ป่วยถึง ๑๐.๕ ล้านคนในปี ๒๕๖๖ และจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกในปีนี้สำนักข่าว บีบีซี รายงานเมื่อวันพุธที่ ๖ มี.ค. ๒๕๖๗ อ้างข้อมูลซึ่งเปิดเผยโดย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ ‘สภาพัฒน์’ เมื่อปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา มีคนไทยถึง ๑๐.๕ ล้านคน ต้องเข้ารับการรักษาอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ ท่ามกลางปัญหาคุณภาพอากาศของไทยที่กำลังเลวร้ายลงผู้ป่วยดังกล่าว รวมถึงผู้ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังอย่าง มะเร็งปอด, หลอดลมอักเสบ, โรคหืด และโรคหัวใจ โดยโรคที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังเพิ่มขึ้น ๓๙.๑% พบมากที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา รองลงมาคือ โรคมะเร็งปอด เพิ่มขึ้น ๑๙.๗% พบมากที่สุดในกรุงเทพมหานครการเผานาเป็นวงกว้างและเหตุไฟป่า โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือของไทย มักก่อให้เกิดควันพิษในช่วงเริ่มต้นปี และปัญหานี้ยังเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๗ โดยในช่วง ๙ สัปดาห์แรกของปี มีจำนวนผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศถึง ๑.๖ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี ๒๕๖๖ กว่า ๓ แสนคนทั้งนี้ PM ๒.๕ คืออนุภาคอันตรายขนาดเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน ๒.๕ ไมโครเมตร สามารถเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางปอด และทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น แสบหรือคันบริเวณดวงตาและผิวหนัง, ไอ และแน่นหน้าอก มลพิษชนิดนี้ยังอาจไปทำให้อาการป่วยที่มีอยู่แล้วอย่างโรคหัวใจหรือปอด มีอาการหนักขึ้นด้วยเมื่อปี ๒๕๖๖ หลายจังหวัดในภาคเหนือของไทยติดอันดับท็อป เมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลก แพลตฟอร์มสังเกตการณ์สภาพอากาศอย่าง IQAir จัดให้จังหวัด เชียงใหม่, เชียงราย และลำปาง มีคุณภาพอากาศระดับ ‘ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ’ปัญหามลพิษทางอากาศในไทยมักรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งตามปกติจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม สาเหตุหลักมาจากการเผาอ้อยและตอซังข่าวของเกษตรกร เพื่อเคลียร์ที่ดิน ที่ยังแก้ไม่ได้มาจนถึงตอนนี้ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc