หญิงชราตาบอดที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ต้องรับภาระเลี้ยงดูเหลนวัย ๔ ขวบ ที่หลานชายมาทิ้งไว้ให้โดยลำพังนานกว่า ๒ ปี โดยแต่ละเดือนมีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนชราและผู้พิการเพียง ๑,๕๐๐ บาท ห่วงสิ้นลมไปแล้วเหลนจะอยู่ต่ออย่างไรวันที่ ๗ มี.ค. ๖๗ ผู้สื่อข่าวไปพบกับ คุณยายแดง คลองผักแว่น อายุ ๗๗ ปี หญิงชราผู้พิการทางสายตา อาศัยอยู่กับน้องแป้ง วัย ๔ ขวบ เพียงลำพัง ๒ คน ภายในบ้านเลขที่ ๓๙ หมู่ ๑๑ ต.สระตะเคียน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านกึ่งปูนกึ่งไม้ชั้นเดียว ที่ชำรุดทรุดโทรม พอคุ้มแดดคุ้มฝน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะผุพังลงเมื่อใดมานานกว่า ๒ ปีแล้ว โดยอาศัยเงินสวัสดิการจากทางภาครัฐ อย่างเบี้ยยังชีพคนชราและผู้พิการ รวมกันเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท เพื่อเลี้ยงชีวิตสองยายเหลน ที่แทบจะไม่เคยชนเดือน ต้องอาศัยหยิบยืมข้าวของจากร้านค้า รวมถึงเพื่อนบ้านรอบข้างที่พอมีน้ำใจแบ่งปันมาให้โดยตลอดคุณยายแดง เล่าว่า มีลูก ๓ คน คนโตเป็นผู้ชาย แม้ว่าตอนนี้จะอยู่บ้านใกล้กัน แต่ก็มีอาการป่วยจิตเวช ไม่สามารถหาเลี้ยง หรือมาดูแลได้ คนรองเป็นหญิงที่แต่งงานมีครอบครัวลูก ๓ คน แยกไปอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัด ส่วนคนสุดท้องเป็นผู้ชาย แยกไปอยู่กับภรรยา ไม่สามารถติดต่อได้มานานหลายปีแล้ว ส่วนน้องแป้งวัย ๔ ขวบที่อยู่ด้วยนั้น เป็นลูกสาวของหลานชายที่นำมาฝากเอาไว้ให้ดูแลเมื่อประมาณ ๒ ปีก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ติดต่อมาถามสารทุกข์สุกดิบเลยสักครั้ง ทำให้ตอนนี้คุณยายแดงต้องอาศัยอยู่กับเหลนเพียงลำพังอย่างที่เห็น คุณยายแดง เล่าให้ฟังว่า หลานชายซึ่งเป็นพ่อของน้องแป้งนั้น นำน้องแป้งมาฝากเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่น้องแป้งยังแบเบาะ จากนั้นก็เงียบหายไม่ติดต่อกลับมาเลย ทำให้ตัวเองต้องเลี้ยงน้องแป้งเพียงลำพังมาโดยตลอด แม้ว่าตาจะพิการมองเห็นเพียงแค่เงาดำๆ เท่านั้น โดยอาศัยเงินที่ได้รับจากเบี้ยยังชีพคนชราและผู้พิการ รวมกัน ๑,๕๐๐ บาท ซึ่งมันก็ไม่พออยู่แล้ว เพราะลำพังแค่ค่าน้ำค่าไฟก็หมดไปแล้วเกือบครึ่ง การดูแลเหลนนั้นก็ทำไปงตามอัตภาพ หุงหาอาหารก็ต้องใช้มือคลำเอา อาศัยจำว่าเครื่องไม้เครื่องมืออยู่ตรงไหน เวลาทำกับข้าวแม้ว่าจะกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ต้องจำใจทำ เพราะไม่ทำก็ไม่ได้กิน วันไหนเงินหมดก็ต้องไปขอยืมร้านค้าติดเงินเอาไว้ก่อน บางครั้งก็ได้เพื่อนบ้านหยิบยื่นมาให้เพราะรู้ว่าครอบครัวเราลำบาก คุณยายแดง บอกอีกว่า จะไปไหนมาไหนก็ได้น้องแป้งเป็นคอยจูงพากันไปสองทวดเหลน แม้ว่าน้องแป้งจะอายุเพียง ๔ ขวบ แต่ก็สามารถแป้งเบาภาระได้บ้าง ยิ่งทำให้ตัวเองรักและเป็นห่วงเหลนคนนี้ปานดวงใจ ส่วนลูกทั้ง ๓ คนนั้น คนโตก็ป่วยมีอาการทางจิตเวช คนรองก็แยกไปมีครอบครัวอยู่ไกล รายได้ก็ไม่ค่อยดี มีลูก ๓ คนต้องดูแล ส่วนคนสุดท้องนานๆ ครั้งจะติดต่อมาแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียอะไร แม้ว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวคนรองจะเคยขอร้องให้ไปอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ตนห็นว่าลูกนั้นภาระมากพออยู่แล้ว และยังมีเหลนอย่างน้องแป้งอีกคน จึงไม่อยากที่จะสร้างความลำบากใจให้กับลูกสาว “ตอนนี้น้องแป้งเป็นคนที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด อยากให้ได้เรียนหนังสือสูงๆ เพื่อให้มีความรู้ติดตัวสามารถดูแลตัวเองได้ยามเติบใหญ่ ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลน้องไปได้นานแค่ไหน เพราะแก่ชรามากแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งอดห่วงไม่ได้ว่า หากตัวเองสิ้นบุญไปแล้ว เหลนสาวคนนี้จะอยู่ต่อไอย่างไร ใครจะมาช่วยดูแล”สำหรับ น้องแป้ง ได้รับการดูแลจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสันติสุข สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลสระตะเคียน แม้ว่าวัยจะยังไม่ถึงเกณฑ์ก็ตาม เพราะทุกคนต่างทราบดีในความยากลำบากของครอบครัวนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้สอนผู้ดูแลแล้ว ทางครูศูนย์เด็กเล็กฯ ก็ยังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูแลน้องแป้งถึงบ้านแทบทุกวัน อาบน้ำ แต่งตัว รับส่ง หรือแม้กระทั่งซักผ้าให้ เพราะสงสารยายแดงที่ตามองไม่เห็น และอายุมาก สุขภาพร่างกายก็ไม่แข็งแรง นางโสภิณ โยกระโทก และ น.ส.จีรภา ชมนาวัง คุณครูผู้ดูแลเด็กภายในศูนย์เด็กเล็กสันติสุข กล่าวว่า คุณยายแดงนั้นมองแทบไม่เห็นเรียกว่าบอดเลยก็ได้ ตอนนี้จะคอยดูแลน้องแป้งเวลาที่มาอยู่ในศูนย์ฯ แบ่งเบาภาระด้วยการไปรับไปส่ง จัดอาหารที่เหลือจากที่เด็กกินฝากไปให้บ้างในบ้างครั้ง หากไม่มีก็จะลงขันกันซื้อหาไปให้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของคุณยายแดงให้ได้มากที่สุดคุณครูทั้ง ๒ บอกอีกว่า น้องแป้ง เป็นเด็กที่รักทวดมากๆ มาอยู่ที่ศูนย์แรกๆ จะอยากกลับบ้าน และบ่นคิดถึงเป็นห่วงทวดอยู่ตลอดเวลา ดูแล้วน้องน่าจะรักทวดมาก แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูอย่างเด่นชัด ขณะที่ไหวพริบปฏิภาณและการเรียนรู้ หากเทียบกับเด็กวัยเดียวกันแล้วถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก คาดว่าหากได้รับการดูแลบ่มเพาะอย่างถูกต้องและดีพอ น้องแป้ง จะเติบโตขึ้นมาเป็นอนาคตสำคัญของประเทศชาติได้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า น้องแป้ง จะมีโอกาสนั้นหรือไม่ ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคต น้องแป้ง จะมีโอกาสที่ดีมากกว่านี้ในสักวัน สำหรับท่านใดที่มีจิตศรัทธาต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่ม หรือให้ความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ น.ส.จีรภา ชมนาวัง หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๕-๒๖๘๔๘๓๗ หรือช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ชื่อบัญชี นางแดง คลองผักแว่น เลขที่บัญชี ๐๑๐๙๑๒๑๐๒๙๗.