“ทักษิณ ชินวัตร” หน้าตาสดใส บอก กำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง ความสุขอยู่ที่บ้าน หลังครอบครัวพร้อมหน้า พร้อมแนะแก้ปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ เผย เย็นนี้พบ “เศรษฐา” หลังอดีตนายกฯ “สมชาย” เชิญร่วมรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน เมื่อเวลา ๑๒.๓๐ น. วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๗ ที่สุสานแม่ออน จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยลูกๆ หลานๆ และญาติพี่น้อง ประกอบด้วย นางเยาวเรศ ชินวัตร, นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์, นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล น้องสาวทั้ง ๓ คน พร้อมครอบครัว เดินทางมาไหว้สุสานของ นายเลิศ และนางยินดี ชินวัตร บิดาและมารดา ที่ อ.แม่ออน โดยมีการย้ายอัฐิจากวัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง มาไว้ที่สุสานแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคล จากนั้นมีการประกอบพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ และมีซินแสเป็นผู้นำพิธีระหว่างที่รอฤกษ์ไหว้บรรพบุรุษในเวลา ๑๓.๐๐ น. นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการ และถือว่าเป็นการเปิดใจครั้งแรกถึงการมาเดินทางมาไหว้อัฐิพ่อและแม่เป็นภาษาเหนือในทำนองว่า ตนมีความรู้สึกที่ดีกับพ่อแม่ ตนไม่เคยมาเลยเพราะอยู่ต่างประเทศ จากนี้ต่อไปก็จะมาทุกปีแน่นอน จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า วันนี้ลูกหลานมากันครบ พร้อมหน้าพร้อมตา ดูสีหน้านายทักษิณ มีความสุข ซึ่งนายทักษิณ กล่าวด้วยรอยยิ้มตอบว่า “ผลสุดท้ายความสุขอยู่ที่ครอบครัว คนทุกคนถ้าเข้าใจโลก ก็จะ Happinees is at home ซึ่งแปลว่า ความสุขอยู่ที่บ้าน ที่อื่นอาจจะเป็นสิ่งสมมติ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ Happinees is at home” กรณีที่หลายคนบอกว่ามาเชียงใหม่แล้วหน้าตาสดใสนั้น นายทักษิณ บอกว่า “เป็นเพราะกำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง” ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่าคำพูดนั้นเป็นของคนอื่น นายทักษิณ จึงได้หัวเราะ และกล่าวต่อไปถึงอาการเจ็บหลังวันนี้ว่า เพราะกล้ามเนื้อสะดุ้ง ซึ่งเป็นมาก่อนแล้ว หากเคลื่อนไหวผิดจังหวะก็จะปวด เพิ่งมีอาการเมื่อคืน คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่วันนี้มามีอาการอีกจึงต้องใส่สายรัดบล็อกหลัง ก่อนจะพูดหยอกว่า “ไม่มีเข็มขัดนะ เพราะไม่ได้ชกมวย” ส่วนอาการที่คอเป็นไปตามอายุ เมื่อเสื่อมก็ต้องคอยดู บางทีอาการปวดไปกดเส้นประสาท ขณะที่คำถามว่าจะกำหนดถอดเฝือกอ่อนพยุงคอเมื่อใด นายทักษิณ บอกว่า “ถอดออกถอดเข้าได้ แล้วแต่อาการ” ผู้สื่อข่าวถามต่อ มาเชียงใหม่ได้ทานอาหารอร่อยหรือยัง นายทักษิณ ยิ้มแล้วตอบว่า “ได้กินทุกอย่าง อยู่เมืองนอกก็ได้กิน แต่อร่อยไม่เหมือนกันเพราะมันแช่แข็ง ไม่เหมือนมากินสดๆ ส่วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้องไปกินร้านที้ไม่ติดแอร์ถึงจะอร่อย กินไปเหงื่อออกไป อร่อย” ส่วนที่ก่อนหน้านี้ไปตลาดวโรรส มีประชาชนมาต้อนรับและให้กำลังใจ นายทักษิณ เผยว่า รู้สึกดีใจที่เขายังไม่ลืม ไม่ลืมคนแก่คนหนึ่ง และขณะที่ พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ชมว่าหน้ายังไม่แก่นั้น นายทักษิณ ยิ้มแล้วตอบว่า “ก็เพราะผมมาอยู่กับครอบครัว จิตใจก็อิ่ม ไม่เหมือนตอนที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจ ที่จิตใจมันห่อเหี่ยวนิดหน่อย วัยผมเป็นวัยรักลูกหลงหลาน” เมื่อถามอีกว่าคิดถึงอะไรที่สุดในเชียงใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ภาพรวมทั้งหมดที่เคยเติบโตมา และเล่าให้ลูกฟังตามประสาคนแก่ว่า แต่ก่อนนี้ในช่วงอายุ ๑๒-๑๓ ปี ไม่มีของเล่น ก็ขี่จักรยานมาถ้ำแม่ออน สมัยก่อนชื่อถ้ำขี้นก ตอนนั้นไม่มีถนน บางช่วงต้องแบกจักรยานข้ามทุ่งนา ซื้อข้าวมาจากในเมืองมากินในถ้ำ ในถ้ำสมัยก่อนจะลงต้องใช้บันไดไม้ ขณะที่คำถามว่าจังหวัดเชียงใหม่เปลี่ยนไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า มีการกระจายตัวของเมืองมากขึ้น แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือความแห้งแล้ง เพราะมันเหลืองไปหมด จึงอยากให้ย้อนกลับไปเหมือนที่คนสมัยก่อนทำคือฝายแม้วกักน้ำเป็นขั้นบันได เพื่อให้น้ำชุ่มชื้น ป่าจะเขียว เป็นวัฏจักร ยกตัวอย่างดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศทะเลทราย เขาแข่งความร่ำรวยด้วยต้นไม้ หากบ้านไหนมีต้นไม้เยอะก็รวย เมื่อต้นไม้เยอะก็เขียวขจี ทำให้ฝนตกและเกิดน้ำท่วม เพราะเขาไม่มีท่อระบายน้ำ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีท่อระบายน้ำ ส่วนบ้านเราท่อระบายน้ำเต็มไปหมดแต่ไม่มีน้ำให้ระบาย มีแต่ความแห้ง ดังนั้น ต้องเพิ่มต้นไม้ เพิ่มความเขียวให้เกิดความชุ่มชื้น เวลาเห็นความแห้งแล้งใจเราจะเหี่ยวตาม คนที่อยู่ในสภาพแห้งแล้งก็จะเหี่ยวตาม วันนี้ใจสำคัญที่สุด อาจจะเป็นเพราะว่าตนเองแก่แล้วเลยพูดถึงใจบ่อย ทางด้านสถานการณ์ฝุ่น PM ๒.๕ ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ นายทักษิณ คิดว่าปัญหามี ๒ ส่วน โดยในประเทศ คือเกษตรกรที่มีต้นทุนสูงแต่กำไรน้อย เมื่อหมดฤดูกาลเกษตรแทนที่จะไถกลบก็ไม่มีเครื่องมือ เลยเผา เพราะคิดว่าง่ายดี ทั้งที่รู้ว่าเผานั้นไม่ดี ดังนั้น หน่วยงานราชการจึงต้องให้ความรู้และช่วยเรื่องไถกลบ ส่วนอีกเรื่องคือปัญหานอกประเทศ ที่มีคนไทยไปปลูกข้าวโพดประเทศเพื่อนบ้านเยอะ เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความคิดว่าควรห้ามนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด ถ้าหากยังเผา แบบนี้ก็ไม่จบ ตนเองคิดว่าควรจะต้องห้ามนำเข้าข้าวโพดทั้งหมดจนกว่าเขาจะเลิกเผา ซึ่งจะเป็นเรื่องดี เมื่อถามว่าเย็นนี้จะได้เจอ นายเศรษฐา ที่จะเดินทางมาตรวจราชการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า จะได้เจอเย็นนี้ เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เชิญมาร่วมรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่าวันนี้มี ๓ นายกฯ นายทักษิณ จึงระบุว่า เป็นอดีตนายกฯ ซึ่งจะต้องคอยให้กำลังใจนายกฯ คนปัจจุบัน เขาถามอะไร เรามีความรู้ก็ให้คำตอบไป อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีความแข็งแกร่งมากในสนามการเมือง ในฐานะที่เป็นคนสนับสนุนมาตลอด รู้สึกอย่างไรบ้าง โดยในขณะที่นักข่าวถาม นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต พูดแทรกขึ้นว่าได้ฤกษ์ทำพิธีแล้ว ต่อมา นายทักษิณ กล่าวตอบว่า “ผมเป็นคนตามใจ ไม่บังคับลูก ตามใจตลอด เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เลิกตามใจ ฉะนั้นก็แล้วแต่ใจลูก” ทั้งนี้ ระหว่างที่ นายทักษิณ กล่าวชื่นชม น.ส.แพทองธาร ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มีสีหน้ายิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีที่ที่สุสาน นายทักษิณ ได้แจกเหรียญสมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร) ให้แก่สื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวด้วย.