วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

“อนุชา” แสดงศักยภาพการเกษตรไทยในเวที FAO ยันพร้อมพลิกโฉมเพื่อการผลิตที่ยั่งยืน

“อนุชา นาคาศัย” กล่าวสุนทรพจน์ ยืนยัน ไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของ FAO พลิกโฉมระบบเกษตรและอาหาร เพื่อการผลิตที่ยั่งยืน อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศวันที่ ๒๐ ก.พ. ๒๕๖๗ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓๗ (The ๓๗th Session of the Regional Conference for Asia and the Pacific (APRC), Ministerial Session) พร้อมด้วย นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ด็อกเตอร์วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเวลา ๐๙.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงโคลัมโบ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมฯ โดยการประชุมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ท่านรนิล วิกรมสิงหะ ประธานาธิบดีศรีลังกา เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย ด็อกเตอร์ฉู ตงหยู ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ และนายมหินทา อมราวีระ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและอุตสาหกรรมการเพาะปลูกศรีลังกา ร่วมกล่าวเปิดการประชุมฯ โดยการประชุมในครั้งนี้มีรัฐมนตรีเกษตรจากทวีปเอเชียและแปซิฟิก จำนวน ๑๓ ประเทศเข้าร่วม และรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตร จำนวน ๑๑ ประเทศเข้าร่วมนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า ประเทศไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของ FAO ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกอย่างต่อเนื่องใน ๒ ปีต่อจากนี้ เพื่อพลิกโฉมระบบเกษตรและอาหาร เพื่อการผลิตที่ยั่งยืน และมีโภชนาการที่ดี รวมถึงการเร่งจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในชนบทอย่างครอบคลุมเพื่อระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน และสังคมชนบทที่เท่าเทียม และการสร้างระบบเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน และยืดหยุ่นของประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก เพื่อให้ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางอาหาร ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเป็นธรรม บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยประเทศไทยพร้อม และยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านเกษตรและอาหารที่ไทยมีศักยภาพแก่ประเทศสมาชิกอย่างต่อเนื่องต่อไปทางด้าน ประธานาธิบดีศรีลังกา และผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวชื่นชมศักยภาพของประเทศไทยด้านเกษตรและอาหาร ว่าสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีของภูมิภาค โดยหวังให้ประเทศไทยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตรให้แก่ประเทศสมาชิกในอนาคตต่อไป“ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินหน้าเจรจาการค้า ทำงานเชิงรุกขยายตลาดสินค้าการเกษตรของประเทศไทย ซึ่งไทย และศรีลังกา ได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับ FTA กับศรีลังกา ครอบคลุมความตกลงการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า กฎหมาย และความร่วมมือด้านต่างๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น ๐.๐๒% มูลค่า ๘๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งขยายการลงทุน และขยายมูลค่าการส่งออกของไทยไปศรีลังกา ทั้งนี้ในปี ๒๕๖๖ การค้าระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่า ๔๑๕.๓๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า ๒๙๑.๑๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ อัญมณี และเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูป ยาง ผ้าผืน ยางพารา และเคมีภัณฑ์” นายอนุชา กล่าวย้ำ.