วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มข่าวกรองอิสราเอล

สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ยิงขีปนาวุธโจมตีในเมืองเออร์บิล เขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของอิรัก ใกล้กับสถานกงสุลสหรัฐฯ ในอิรัก รวมถึงโจมตีเมืองอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๔ ศพ บาดเจ็บอีก ๖ คน ทั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ในเคอร์ดิสถานไม่ได้รับความเสียหายใด ขณะที่ทางการเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานยังเผยด้วยว่า ได้ยิงสกัดโดรนติดอาวุธ ๓ ลำเหนือสนามบินเออร์บิล ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ และกองทัพนานาชาติประจำการในบริเวณเมืองเออร์บิลไออาร์จีซีแถลงโดยอ้างว่า กองกำลังไออาร์จีซีโจมตีสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นศูนย์บัญชาการหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลในอิรักเพื่อตอบโต้อิสราเอล หลังก่อนหน้านี้อิสราเอลสังหารผู้บัญชาการระดับสูงและสมาชิกของไออาร์จีซี รวมถึงแก้แค้นกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย ที่ยอมรับว่าเป็นฝ่ายก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองเคอร์มาน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน เมื่อ ๓ มกราคมที่ผ่านมา และไออาร์จีซีจะปฏิบัติการล้างแค้นต่อไปจนถึงที่สุด ส่วนนายนัสเซอร์ คันอานิ โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า การโจมตีของอิหร่านอยู่ภายใต้นโยบายการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศด้านรัฐบาลอิรักประณามการใช้ความรุนแรงของอิหร่าน เนื่องจากเป็นการคุกคามอธิปไตยของอิรักและความปลอดภัยของพลเรือนอิรัก รวมถึงเรียกตัวเอกอัครราชทูตอิรักประจำอิหร่านกลับประเทศ เพื่อหารือในประเด็นการโจมตีดังกล่าว ส่วนรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงสนับสนุนอิรักและเคอร์ดิสถาน รวมถึงประณามการยิงขีปนาวุธของอิหร่านว่าเป็นการโจมตีที่ประมาทและไร้ความแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพของอิรัก ขณะเดียวกัน สื่อการ์เดียนของอังกฤษยังรายงานด้วยว่า ใน ๒๔ ชม. ที่ผ่านมา กองทัพตุรกียังโจมตีทางอากาศ ๒๓ เป้าหมาย อาทิ อุโมงค์และคลังเก็บอาวุธของกองทัพเคิร์ดในทางตอนเหนือของอิรักและซีเรียเช่นกัน.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่