ญาติเหยื่อโรงงานพลุนรกร่วมงานเผาศพ ๒ วัด รวม ๔ ศพ บรรยากาศเศร้าโศกร่ำไห้กันระงม บางรายหลังเสร็จพิธีเผาต้องไปรับศพญาติอีกรายมาทำพิธีสวดต่อ ส่วนพ่อเมืองสุพรรณฯ แจง ผลตรวจอัตลักษณ์บุคคลครบ ๒๓ ศพแล้ว ญาติทยอยมารับศพและลงทะเบียนเยียวยาครบสั่งปิดศูนย์ สธ.ส่งทีมเฝ้าระวัง พิเศษ ๖๙ ราย ขณะที่หลายจังหวัดคุมเข้ม จ.เชียงราย ผงะพบคลังพลุเปิดกลางตลาด เจ้าหน้าที่ตรวจยึดขนไว้ในที่ปลอดภัยทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจและตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเร่งตรวจอัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์โรงงานผลิตพลุบึมสนั่นในพื้นที่หมู่ ๓ ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี ตั้งอยู่กลางทุ่งนาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ๒๓ ศพ ส่งร่างคืนญาติไปแล้ว ๑๔ ศพ เหลือ ๙ ศพ อยู่ระหว่างดำเนินการ ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเร่งเยียวยาและช่วยเหลือญาติผู้สูญเสียความคืบหน้าเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๒๐ ม.ค. ที่วัดโรงช้าง ต.ศาลาขาว ตั้งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปเหตุการณ์และการช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ ทีมแพทย์ ตำรวจและ พฐ.แจ้งว่าการตรวจอัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตที่เหลือ ๙ ศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหน่วยงานอื่นๆ ลงทะเบียนญาติผู้เสียชีวิตครบทั้งหมด ๒๓ รายแล้ว ที่ประชุมมีข้อสรุปว่าหากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด หรือมีอะไรมาเพิ่มเติม นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี จะทำการปิดศูนย์ ในเวลา ๑๖.๐๐ น.ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่วัดโรงช้าง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการวัดติดตั้งเตาเผาศพเคลื่อนที่ แบบปลอดมลพิษเพิ่ม ๒ หลัง ได้รับการสนับสนุนจากบริษัททีมเทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง นำอุปกรณ์มาติดตั้งบริการให้ฟรีจนกว่าจะฌาปนกิจศพเสร็จสิ้น มีนายพรชัย ช้อยสามนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๔ ต.สระแก้ว อ.เมืองสุพรรณบุรี และนายนิกรณ์ น้อยชุมแพ มาช่วยเหลือชาวบ้านดำเนินการเรื่องพิธีกรรมเตรียมฌาปนกิจศพ จัดเตรียมสถานที่ทอดผ้าบังสุกุล และทอดผ้าป่าทำบุญให้ผู้วายชนม์ มีสามเณรบวชหน้าไฟให้แก่ผู้วายชนม์รวม ๘ รูป ญาติกำหนดทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ ๒๐ มกราคมเวลา ๑๕.๐๐ น.รวม ๓ ศพ ประกอบด้วยนางพเยาว์ บุญกล่อม เผาที่เมรุของทางวัดโรงช้าง ส่วนนายโสพล สวยค้าข้าว และนางรำไพ สวยค้าข้าว สองผัวเมียเผาที่เตาเคลื่อนที่ ส่วนในช่วงเวลา ๑๓.๓๐ น.ที่วัดขวาง ต.ศาลาขาว ญาติจะทำการฌาปนกิจศพนายวิชาญ บุญศรีวงษ์ต่อมาเวลา ๑๓.๐๐ น.ที่วัดขวาง ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม.เป็นประธานพิธีฌาปณกิจศพนายวิชาญ บุญศรีวงษ์ มีเจ้าหน้าที่ชุดเยียวยาจิตใจจากกระทรวงสาธารณสุข ดูแลญาติพี่น้องเพื่อคอยให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือ จากนั้นญาติทำพิธีทอดผ้าบังสุกุลอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ พร้อมนำถุงสิ่งของพระราชทานวางไว้ที่หน้าเครื่องตั้ง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานความห่วงใยแก่พสกนิกร ต่อมาเวลา ๑๓.๓๐ น. เริ่มพิธีเผา ญาติต่างร่ำไห้ด้วยความอาลัย หลังเสร็จพิธีญาติไปรับศพ น.ส.พรทิพย์ พันธุ์แตง ภรรยานายวิชาญที่เผาศพเป็นรายแรกมาที่ศาลาวัดขวาง เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาด้านคดีความ พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมนำเครื่องสูบน้ำระบายนํ้าออกจากร่องน้ำคันนา และในบ่อน้ำภายในโรงงาน เพื่อให้ พฐ.เข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดเพิ่มเติมค้นหาชิ้นส่วนและอวัยวะมนุษย์ เบื้องต้นพบชิ้นเนื้อเพิ่มอีก ๓ ชิ้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจสูบน้ำในคูและในบ่อน้ำออกหมดพบชิ้นส่วนท่อนขา ๑ ท่อน เศษเนื้อ และถังสารเคมี ๑ ถัง ถือว่าการค้นหาชิ้นส่วนร่างกายผู้เสียชีวิตและการเก็บพยาน หลักฐานครบถ้วนแล้วและจะนำไปตรวจพิสูจน์ต่อไป อย่างน้อยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งของร่างที่ไร้วิญญาณขาดหายไป ยืนยันว่าการตรวจพิสูจน์ร่างผู้เสียชีวิตด้วยการตรวจลายนิ้วมือและดีเอ็นเอดำเนินการด้วยความทุ่มเท ทีมงานของตำรวจนิติเวช และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ จนทราบแล้วว่าร่างผู้เสียชีวิตเป็นใคร ในช่วงบ่ายคณะกรรมการจะเร่งรัดพิจารณามอบศพให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลครบทุกรายด้านนายแพทย์รัฐพล เวทสรณสุธี นายแพทย์สาธารณสุข จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ทีมดูแลจิตใจจะมีเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงของญาติผู้เสียชีวิตแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มเอคือ ญาติสายตรงที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการสูญเสียที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยงของคนในชุมชนพบว่า ขณะนี้มีจำนวน ๖๙ รายที่ต้องดูแลอย่างใกล้ อีกกลุ่มคือกลุ่มบี เป็นกลุ่มประชาชนในพื้นที่โดยรอบ ๑๘๐ ราย ทีมให้คำแนะนำเรื่องของดูแลจิตใจ ที่สำคัญคือการให้ช่องทาง การติดต่อหากมีสิ่งที่ต้องการคำปรึกษาทางด้านจิตใจ นอกจากนี้ยังจัดทีมที่เรียกว่าทีม mcatt ที่มีหน้าที่คอยติดตามอย่างใกล้ชิดทุกครอบครัวที่มีการสูญเสีย โทร.ติดต่อทุกวันนพ.รัฐพลเผยอีกว่า ส่วนผลกระทบในด้านอื่นๆ พบว่า มีประชาชนที่พบอาการระคายเครื่องผิวหนังประมาณ ๑-๒ ราย รวมถึงปัญหาเรื่องหูอื้อ ๑ รายทั้งหมดได้รับการตรวจแล้ว พบว่าไม่มีอาการรุนแรงหรือน่าเป็นห่วง เน้นว่าที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในเรื่องการดูแลสภาพจิตใจคนในชุมชนที่มีผู้เสียชีวิตถึง ๒๓ ราย อีกส่วนที่สำคัญคือ เรื่องของการพิสูจน์อัตลักษณ์ ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้ระดมทีมร่วมกันในการทำงาน และสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ให้ญาติสามารถนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอฝากประเด็นเรื่องการสื่อสาร ขอให้เป็นไปในเชิงบวกไม่ตอกย้ำ ไม่ซ้ำเติม ความโศกเศร้าเสียใจ เน้นการให้กำลังใจและต้องระวังการใช้สื่อโซเชียลมีเดียล่าสุดเวลา ๑๖.๐๐ น. นายปภินวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุพรรณบุรี เป็นประธานกล่าวสรุปผลการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบว่า การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้วเสร็จทั้งหมด ๒๓ ศพ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่จะครบถ้วน ที่ประชุมมีมติปิดศูนย์ช่วยเหลือฯ ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตทยอยมารับศพไปบำเพ็ญกุศลจนครบ ๒๓ ศพแล้วนอกจากนี้ในหลายจังหวัดต่างเฝ้าระวังโรงงานผลิตพลุและการจำหน่ายส่วนผสมพลุ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รอง ผวจ.เชียงราย รับรายงานว่า มีร้านขายส่งวัตถุดอกไม้เพลิง เช่น โปแตสเซียมคลอไรด์ โปแตสเซียมคลอเรต ดินประสิวจำนวนมากที่ตึกแถว ๒ ห้อง หลังตลาดสดกลางชุมชุน อ.พาน จ.เชียงราย หวั่นเกิดอันตราย สั่งการให้นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดเชียงราย นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พ.ต.อ.จิตรกร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.พาน และทหาร มทบ.๓๗ ชุดอีโอดี นำหมายค้นศาลแขวงจังหวัดเชียงราย ที่ ค.๗/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๙ มกราคม๖๗ เข้าตรวจสอบตึกแถว ๒ คูหา หลังตลาดสด อ.พาน เลขที่ ๘๑๓/๑ หมู่ ๑ ต.เมืองพาน อ.พานจากการเข้าตรวจสอบภายในร้านเป็นที่เก็บพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิงหลายชนิดจำนวนมาก เป็นสารตั้งต้นที่ใช้ประกอบการทำวัตถุดอกไม้เพลิง เช่น โปแตสเซียมคลอไรด์ โปแตสเซียมคลอเรต จำนวน ๕ กระสอบ ดินประสิว กำมะถัน โซดาไฟ วางกองกันไว้ไม่มีการแยกประเภทมีโอกาสระเบิดเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.สุพรรณบุรี ตรวจสอบไม่พบมีใบอนุญาตประกอบกิจการซื้อขายพลุและดอกไม้ไฟตามกฎหมายสอบสวนนายสุนทร แพร่พาณิชวัฒน์ อายุ ๘๔ ปี เจ้าของร้าน ทราบว่า ประกอบกิจการขายส่งดอกไม้เพลิงหลายชนิดให้แก่ร้านค้าและชาวบ้านนำไปใช้ตามงานต่างๆ มากว่า ๓๐ ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจยึดและขนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย และคุมตัวนายสุนทรส่งดำเนินคดีที่ สภ.พานอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
เผาแล้วชุดแรก "๔ ศพ" เหยื่อโรงงานพลุ พิสูจน์ครบทั้ง "๒๓ ราย" ญาติร้องไห้ใจสลาย!
เรื่องที่เกี่ยวข้อง