“นายกฯเศรษฐา” ย้ำ แลนด์บริดจ์ ต้องฟังเสียงประชาชน-นักลงทุน ชี้พูดคุยกันอีกเยอะ พูดคุยกันอีกยาว คาดอาจใช้เวลากว่า ๑๐ ปี กว่าจะแล้วเสร็จ ลั่นรัฐบาลเลือกตั้งทำงานจริง ส่งต่ออนาคตลูกหลาน วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand ๒๐๒๔ The Great Challenge เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส” ตอนหนึ่งได้กล่าวถึง “โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน” หรือ “แลนด์บริดจ์” ว่าเป็นเมกะโปรเจกต์ ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้มีการถกเถียงในวงกว้าง ยืนยันว่ารัฐบาลรับฟัง ทุกเสียงของประชาชน ทั้งเสียงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชนพื้นเมือง ทุกๆ อย่างรัฐบาลรับฟัง และต้องรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนด้วย ว่าเขาอยากได้อะไร แล้วต้องเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องมากลั่นกรองว่า สิ่งที่เขาขอมา จะเป็นผลบวกหรือลบกับประชาชน โครงการดังกล่าวยังไม่ทราบเลยว่าจะมีท่อส่งน้ำมันหรือไม่ อาจจะเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่อยากให้เขามาลงทุนตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ ก็อยากรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาเพราะรัฐบาลจะได้ ดีไซน์หรือออกแบบว่าควรจะมีอะไรบ้าง เพราะฉะนั้น เรื่องแลนด์บริจด์ จะต้องมีการพูดคุยกันอีกเยอะ พูดคุยกันอีกยาว โดยเฉพาะเรื่องของการร่วมลงทุน แล้วที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลา คาดว่า จะต้องใช้เวลา กว่า ๑๐ ปี ถึงจะแล้วเสร็จทั้งหมด อย่างเช่นสนามบินหนองงูเห่า ซึ่งทุกคนได้ยินมาตั้งแต่เด็กจนรัฐบาลไทยรักไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯสร้างขึ้นมาเมื่อ ๒๐ ปี ที่ผ่านมา เราไม่อยากคิดว่าถ้าหากจะต้องพึ่งสนามบินดอนเมือง เพียงสนามเดียว ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ในวันนั้นลองฟังเสียงทัดทานดูว่ามีจำนวนมากขนาดไหน ซึ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เช่นนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกันในทุกมิติให้ดีแต่เรื่องของโอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญไม่อยากให้เรามาเสียโอกาสกันอีก เรื่องของสนามบินที่ได้ทำมาซึ่งในวันนี้ทุกคนก็ได้อานิสงส์กันไป นายเศรษฐา กล่าวว่า ในเรื่องจีโอ โพลิติกส์ (Geo politics) หรือภูมิรัฐศาสตร์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนใหญ่ๆ และจุดยืนการต่างประเทศ ที่เป็นกลางตลอดไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับประเทศใดๆ ส่วนตัวเชื่อว่าโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่จะทำขึ้น แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า ไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศและยินดี และเราจะสามารถสร้างอำนาจต่อรองให้กับทุกๆประเทศได้ เราตั้งใจจริงที่จะทำสิ่งต่างๆ แต่ปัญหาอุปสรรคก็มีเยอะ หลายอย่างก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ถูกปลดล็อกไปแล้วส่วนหนึ่ง เป็นที่น่าชื่นชมไปถึงทีมงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ราคาสินค้าเกษตรต่างๆ ก็เริ่มมีราคาสูงขึ้น เกิดจากการที่รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่จริง ทำงานจริง เพราะเราเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เราต้องพึ่งประชาชน ต้องเห็นใจประชาชน เรื่องราคาสินค้าเกษตรเป็นเรื่องสำคัญ เราพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปแทรกแซง อยากให้เกษตรกรทุกคนมีความภาคภูมิ ที่สินค้ามีราคาดี มีรายได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งรัฐบาล แต่เป็นที่รัฐบาลสร้างโอกาสให้ และมีหลายเรื่องที่ตนยังไม่ได้พูด ไม่ว่าจะเรื่องรัฐธรรมนูญ สิทธิในการเลือกเพศสภาพ ตนเชื่อว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เราไม่เคยทอดทิ้ง กฎหมายหลายฉบับก็เริ่มผ่านบ้างแล้ว เรื่องความท้าทายต่างๆ เราเชื่อว่าเราสามารถเผชิญกับมันได้ เรามีความตั้งใจจริง เราอยากจะเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น การสร้างโอกาสต่างๆ ที่ตนพูดไปทั้งหมด ตนเชื่อว่าจะเป็นการสร้างฐานรากที่ดี ให้ประเทศไทยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานของพวกเราทุกคนนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีที่ยังมีการคัดค้านการต่อต้านโครงการแลนด์บริดจ์ หลังการลงพื้นที่ จ.ระนอง ว่าคนที่สนับสนุนโครงการนี้ก็มีเยอะมาก แต่ก็รับฟังความเห็นต่าง
“เศรษฐา” คาด แลนด์บริดจ์ ต้องใช้เวลากว่า ๑๐ ปี จึงจะเสร็จ ย้ำต้องฟังทุกเสียง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง