วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

เฮฉลองส่งท้ายปียันสว่าง “อนุทิน” ลงนามแล้ว ๑๕ ธันวาคมผับบาร์ปิดตี ๔ ประชาธิปัตย์เลือดไหลอีก

ประชาธิปัตย์เอฟเฟกต์ เลือดสีฟ้ายังไหลเป็นน้ำ ถึงคิว “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ไขก๊อกตีจากไปอีกหนึ่ง อ้างจิตวิญญาณเปลี่ยนไปกลายเป็นระบบพรรคพวก ตอก “ชัยชนะ” ให้ย้อนไปดูตัวเองทำพรรคยังไงคนเก่าแก่ถึงพร้อมใจกันสละเรือ “วิทเยนทร์ มุตตามระ” ฉะทำพรรคไร้อุดมการณ์เสมือนร่างที่ไร้จิตวิญญาณ เผยเลือดยังไหลโจ๊กไม่หยุด “ธนกร” ได้ทีฟุ้ง รทสช.ครองใจคนใต้ นายกฯจ่อแถลงแก้หนี้ทั้งระบบ พท.นัดหารือ สส.ปมทำประชามติ ชทพ.แนะชง ก.ม.นิรโทษกรรมในนามรัฐบาล หรืออีกทางตั้ง กมธ.ร่าง ก.ม.พิเศษ “หนู” ลงนามขยายเวลาสถานบันเทิงถึงตี ๔ ทั่วประเทศเฮส่งท้ายปีเก่ายันสว่างผลการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคประชาธิปัตย์ หลังที่ประชุมมีมติท่วมท้นเลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ยังคงส่งผลให้บรรดาแกนนำพรรค และสมาชิกพรรคคนสำคัญทยอยลาออกไม่ขาดสาย ล่าสุดนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง ๗ สมัย ทนไม่ไหวไขก๊อกไปอีกคนtt tt“สาทิตย์” ไขก๊อกตีจาก ปชป.อีก ๑เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. วันที่ ๑๑ ธ.ค. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “คิดหนักมา ๒ วัน แม้ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ แต่ในวันที่จิตวิญญาณประชาธิปัตย์มิอาจเปล่งประกาย หลังหารือทีมงานที่สู้ร่วมกันมากว่า ๒๘ ปี จึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยรักและผูกพัน สาทิตย์ วงศ์หนองเตย”อ้างเหตุจิตวิญญาณเปลี่ยนไปนายสาทิตย์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ถือเป็นการเปิดมิติใหม่คือลาออก แต่ไม่ไปอยู่ที่ไหน หรือสังกัดพรรคการเมืองใด ให้เหตุผลว่าหากอยู่ก็จะเป็นที่หวาดระแวงของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ (กก.บห.) มองเหตุผลคือต้องการเปิดพื้นที่ หรือเปิดทางให้ กก.บห.ชุดนี้ทำงานโดยไม่ต้องหวาดระแวงในตัวท่าน ส่วนการตัดสินใจของตน เกิดหลังจากที่เห็นกระบวนการตั้งกก.บห. มองว่ามันไปอย่างนี้ไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่มีตัวแทนจากทุกกลุ่มจนกลายเป็นระบบพรรคพวก ไม่ใช่จิตวิญญาณของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเป็น หรือที่พวกเรารู้จักมาตลอด ต้องลาออกมาก่อนเพื่อแสดงให้รู้ว่าเราต้องการจิตวิญญาณพรรคที่แท้จริง และชี้ให้เห็นว่าจิตวิญญาณแบบนี้มันไม่ได้ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจไปไหนหรือทำอะไรตอก “ชัยชนะ” ย้อนดูตัวเองก่อนนายสาทิตย์กล่าวว่า ลาออกมาเพื่อถอยมาตั้งหลัก และดูเหตุการณ์ว่าพรรคจะดำเนินการไปอย่างไรต่อไป เมื่อถามว่านายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค ปชป. ภาคใต้ ระบุว่า ถ้ารักพรรคจริงต้องอยู่ต่อเพื่อช่วยกันฟื้นฟูพรรค นายสาทิตย์ตอบว่า ขอย้อนกลับไปว่าหากรักพรรคจริง มันต้องไม่ทำกันแบบนี้ตั้งแต่ต้น จะเห็นว่าคนที่ลาออกไปหลายคนเป็นลูกหม้อของพรรค อยู่มายาวนานแล้วทั้งนั้น ตนเข้ามาอยู่กับพรรคตั้งแต่เป็นยุวประชาธิปัตย์ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการบริหารพรรคสาขาตรังตั้งแต่อายุครบเกณฑ์ จนมาลงสมัคร สส. ตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ ได้เป็น สส.ยาวนานตลอดมาทั้งหมด ๗ สมัย ร่วม ๒๘ ปี หากนับรวมๆแล้วอยู่กับพรรคมากว่า ๔๐ ปี เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่จะทยอยลาออกตามมาทำไมคนที่อยู่มานานถึงพากันทิ้งนายสาทิตย์กล่าวอีกว่า ขอฝากถึงคนที่อยู่กับพรรคต่อไปว่า ต้องตั้งคำถามให้หนักว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอะไร อย่าไปโทษคนอื่นว่าเขาไม่รักพรรค หรือไม่ห่วงพรรค ไม่ยอมไม่เข้ามาช่วยกันฟื้นฟู ต้องมองให้พ้นตัวเองออกไปว่าทำไมคนที่อยู่กับพรรคมายาวนาน จึงพร้อมใจกันคิดแบบนี้ หากจะมองในมุมของตัวเองเท่านั้น หรือมองไม่ผ่านจุดนี้ ก็ยากจะฟื้นฟูพรรคขึ้นมาใหม่อีกครั้งไร้อุดมการณ์คือร่างไร้วิญญาณนายวิทเยนทร์ มุตตามระ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ตั้งใจว่าวันที่ ๑๒ ธ.ค. จะส่งหนังสือลาออกไปที่นายทะเบียนพรรคปชป. สมัครเป็นสมาชิกพรรคเมื่อปี ๒๕๔๙ แบบไม่รู้จักใครไม่มีเส้นสาย ด้วยความเชื่อมั่นในอุดมการณ์และความเป็นสถาบันของพรรค เดินเข้าพรรคด้วย ความตั้งใจจะทำงานเพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ได้รับโอกาสจากพรรคให้ทำหน้าที่เลขานุการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในปี ๒๕๕๒-๒๕๕๔ และอื่นๆ ทั้งหมดเป็นประสบการณ์การเมืองที่มีค่า ภูมิใจและขอบคุณพรรคที่ให้โอกาส วันนี้ยังยึดมั่นในอุดมการณ์และจะมีชีวิตอยู่อย่างคนมีศักดิ์ศรีมีอุดมการณ์ไปตลอดชีวิต พรรคการเมืองต้องมีอุดมการณ์และจุดยืน หากไร้ซึ่งอุดมการณ์ก็เสมือนร่างที่ไร้จิตวิญญาณtt tt“มาร์ค” ประกาศรับใช้บ้านเมืองต่อต่อมาช่วงค่ำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงภาพขณะนายอภิสิทธิ์ไหว้สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมภายในที่ทำการพรรคฯ เมื่อช่วงบ่าย พร้อมระบุข้อความว่า “ผมไม่มีพรรคอื่น เป็นลูกพระแม่ธรณีที่จะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้บ้านเมืองต่อไป”เผยเลือดยังไหลโจ๊กออกไม่หยุดผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคสำเร็จ ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรค และยังมีสมาชิกทยอยลาออกตามมา อาทิ นายสุรันต์ จันทร์พิทักษ์ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต สส.กทม. นายธนวัช ภูเก้าล้วน อดีตผู้สมัคร สส.กระบี่ ล่าสุดมีสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง ทำหนังสือแสดงความจำนงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เช่น นายวิบูลย์ ศรีโสภณ ที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตลอดชีพมาตั้งแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม๒๕๔๑ ในหนังสือระบุถึงสาเหตุขอลาออกว่า ๑.อุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป เน้นใช้เงินสร้างพรรค และ สส. ๒.หัวหน้าพรรคตระบัดสัตย์ไม่รักษาคำพูด ไม่สามารถให้การเคารพได้อีกต่อไป และ ๓.หัวหน้าพรรคสร้างทัศนคติให้ สส.ในพรรคขาดความเคารพ กระด้างกระเดื่องกับอดีตหัวหน้าพรรค สร้างความแตกแยกในพรรคอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตลอด ๗๗-๗๘ ปี“ธนกร” ฟุ้ง รทสช.ครองใจคนใต้นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจว่าประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ยังคงให้การสนับสนุนและไว้วางใจพรรค รทสช.ให้ทำงานต่อเนื่อง เมื่อถามว่าล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์พรรคเก่าแก่ของภาคใต้ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ จากนี้การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ นายธนกรตอบว่า ไม่ขอวิจารณ์หรือแสดงความเห็นต่อพรรคอื่น แต่เชื่อว่าการแข่งขันทางการเมืองไม่ว่าจะพรรคใด ทุกพรรคย่อมมุ่งทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ท้ายสุดผลดีจะเกิดกับพื้นที่และประชาชนมากที่สุด มั่นใจว่าประชาชนดูออกและรับทราบดีว่าพรรคไหนทำงานจริงทำต่อเนื่อง ที่ผ่านมา รทสช.ทำงานอย่างเต็มที่ยึดมั่นในประชาชนและสถาบันหลักของชาติติว สส.รับมือเปิดประชุมสภานายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครทสช. กล่าวว่า มีการเรียกประชุม สส.วันที่ ๑๒ ธ.ค. เตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุมสภา วิปรัฐบาลเตรียมการนำร่าง พระราชบัญญัติฉบับต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียงลำดับความสำคัญร่างกฎหมาย สำหรับร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ถือเป็นกฎหมายเร่งด่วนที่ต้องเร่งพิจารณา คณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่าจะส่งเข้าสภาฯวันที่ ๔ มกราคม๒๕๖๗ สภาฯต้องเร่งพิจารณาให้เสร็จ และยังมีร่าง พ.ร.บสำคัญอีกหลายฉบับ ทั้งร่าง พระราชบัญญัติการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม หรือร่าง พระราชบัญญัติอื่นๆ ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในช่วงที่คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นกำลังพิจารณารายละเอียดในขั้นตอนการดำเนินการ อย่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ถือว่าสำคัญมาก ควรเร่งพิจารณา เพื่ออัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หรือร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ถือว่าสำคัญน้อยกว่า ยังไม่ควรนำมาพิจารณา เป็นต้น ควรพิจารณาเรียงลำดับความสำคัญtt ttนายกฯนำแถลงแก้หนี้ทั้งระบบผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง คิกออฟแคมเปญแก้ปัญหาหนี้สินเป็นวาระแห่งชาติ วันที่ ๑๒ ธันวาคมเวลา ๑๔.๐๐ น. นายเศรษฐาพร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันแถลงการจัดการหนี้ทั้งระบบ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล คาดว่าเป็นไปตามที่นายกฯเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนรายย่อย ทั้งหนี้ กยศ. หนี้ครู หนี้นอกระบบ หนี้เกษตรกร และหนี้สินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพท.นัดหารือปมทำประชามติวันเดียวกัน นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดประชุมพรรคเพื่อไทย วันที่ ๑๒ ธันวาคมว่า มีเรื่องที่พรรคจะเสนอร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่จะให้ตั้งเป็นคณะกรรมาธิการเหมือนที่เคยพูดไปและเรื่อง พระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม ที่กำลังรอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งกลับมา คาดว่าภายในเดือน ธันวาคมนี้น่าจะยื่นเข้าสภาฯได้ ส่วนที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ระบุจะหารือในที่ประชุมพรรคประเด็นการส่งเรื่องสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ กรณีปัญหาการจัดทำประชามตินั้น จะมีการหารือประเด็นนี้ด้วย นายภูมิธรรมจะมาชี้แจงว่าขอทำประชามติแค่ ๒ ครั้ง เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ เนื่องจากการทำประชามติแต่ละครั้งต้องใช้เงินจำนวนมาก ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ ล้านบาท เมื่อถามว่าจะได้ข้อยุติเลยหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า น่าจะเป็นการวางแนวทางเบื้องต้นก่อน แต่หากไม่มีความเห็นที่แตกต่างก็น่าจะจบแนะเสนอ ก.ม.นิรโทษฯนาม รบ.นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประกบร่างของพรรคก้าวไกลว่า ที่จริงจะเรียกว่าเสนอประกบไม่ได้ พรรคเพื่อไทยเองเดิมมีปัญหาเรื่องนิรโทษกรรม ทั้งที่เรื่องนั้นจบไปนานแล้ว เห็นว่าทำไมไม่เสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อประกาศอยู่แล้วว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลสมานฉันท์ แสวงหาความปรองดอง ที่เราสามารถทำได้ชั้นหนึ่งแล้วคือ สามารถนำพรรค การเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามมารวมกันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนในรูปธรรมเราก็มาดูแลเรื่องความขัดแย้งต่างๆที่มีอยู่ในสังคมไทย คำว่านิรโทษกรรมทุกคนแหยงๆอยู่แล้ว หากจะเรียกเป็นอย่างอื่นก็คงได้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในคำที่ถูกใช้กันมานานแล้วเป็นลบ เห็นว่าควรเสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน ในความเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ก้าวข้ามความขัดแย้งอย่างแท้จริงtt ttอีกทางตั้ง กมธ.จัดทำ ก.ม.พิเศษนายนิกรกล่าวต่อว่า อีกทางหนึ่งอาจเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาเรื่องการจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างความสามัคคี หรืออะไรทำนองนี้ เดิมเคยมีคนศึกษามาแล้ว อาจใช้คำว่าความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน โดยมีหลักการว่าผู้กระทำความผิดจากเหตุที่มีความเชื่อทางการเมืองจะใช้กฎหมายปกติไม่ได้ อาจต้องออกกฎหมายมาเป็นพิเศษ ในข้อเสนอดังกล่าวเห็นว่าต้องเว้นเรื่องที่อ่อนไหว ได้แก่ ความผิดมาตรา ๑๑๒ และความผิดกฎหมายอาญาที่รุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งใหม่ขึ้นมา เช่น ความผิดถึงแก่ชีวิตป้อง “ทักษิณ” ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชนอีกเรื่อง นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษาของรอง นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีผู้กล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิพิเศษรักษาพยาบาล โดยไม่ต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ว่า นายทักษิณเดินทางกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมรับโทษผ่าน กระบวนการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง เรื่องการพัก รักษาตัวถือเป็นสิทธิผู้ต้องขังหรือนักโทษที่กรมราชทัณฑ์ถือปฏิบัติมานานแล้ว มิใช่เป็นอภิสิทธิ์ชนตามที่กล่าวหา ในฐานะเคยเป็นนักโทษชายที่เรือนจำพัทยา คดีชุมนุมทางการเมืองปี ๒๕๕๒ มีโรคประจำตัวหลายโรค โดยเฉพาะโรคหัวใจ แพทย์ในเรือนจำตรวจดู อาการและให้อยู่ในการดูแลของสถานพยาบาลในเรือนจำ เคยมีอาการโรคหัวใจกำเริบ ต้องปั๊มหัวใจใน เรือนจำ แต่ไม่มีเครื่องมือแพทย์ ขาดแพทย์เฉพาะทาง จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง ที่ออกมาพูด เพื่อทำความเข้าใจว่าคนคุกมีความเสี่ยงและอันตรายต่อชีวิตมากน้อยเพียงใด การรักษาอาการป่วยเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แม้จะเป็นผู้ต้องขังหรือนักโทษ ต้องได้รับการรักษาพยาบาลถือเป็นหลักการสากล“หนู” ลงนามขยายเวลาถึงตี ๔ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการออกข้อกำหนด การเปิดปิดสถานบริการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้ยกร่าง กฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๖๖ เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ได้ลงนามในร่างกฎกระทรวงฯ เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอน ถัดไปจะเป็นการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะ ทันบังคับใช้ตามกรอบเวลาที่นายกฯ เคยประกาศว่า จะเริ่มในวันที่ ๑๕ ธ.ค. แน่นอนทั่ว ปท.เฮส่งท้ายปีเก่ายันสว่างน.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สาระสำคัญของกฎกระทรวงฯ เป็นการขยายเวลาให้สถานบริการใน ๕ จังหวัด หรือพื้นที่ดังต่อไปนี้เปิดให้บริการได้ถึงเวลา ๐๔.๐๐ น. ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่ สถานบริการในท้องที่กรุงเทพ มหานคร จ.ภูเก็ต จ.ชลบุรี จ.เชียงใหม่ และท้องที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการที่ตั้ง ที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ทั่วประเทศ สามารถเปิดบริการได้ถึง ๐๔.๐๐ น.เช่นกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามกฎกระทรวงฉบับนี้จะขยายเวลาให้สถานบริการในทุกท้องที่ทั่วประเทศสามารถเปิดบริการในคืนส่งท้ายปีเก่า (๓๑ ธ.ค.) ไปจนถึงเวลา ๐๖.๐๐ น. ของวันปีใหม่ (๑ ม.ค.)อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่