วันอังคาร, 5 พฤศจิกายน 2567

โยนให้ "ประภัตร" แก้ตัวเอง นักการเมือง ป. อธิบดีกรมการข้าวเปิดปากยอมรับ

เผยนอกจากอธิบดีกรมการข้าวแล้ว ยังมีข้าราชการการเมืองอักษรย่อ ธ. ติดต่อขอเข้าแจ้งความ หลังโดนเรียกรับแบบเดียวกัน “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ แจ้งความเอาผิด ๓ พิธีกร ๑ นักข่าวช่องอมรินทร์ ฐานไม่ตรวจสอบการเสนอข่าว ขณะที่อธิบดีกรมการข้าวเปิดปากยอมรับที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ชื่อ “หมู” เป็นผู้พาไปพบ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ด้าน “วราวุธ ศิลปอาชา” หน.พรรคชาติไทยพัฒนา ระบุต้องให้ “ประภัตร โพธสุธน” อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ ชี้แจงด้วยตัวเอง หลังเจ้าตัวลาประชุมพรรคจากกรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. จับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน รวมทั้งจับกุมเจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม และน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หลังร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน จนมีกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำของทั้งหมดไม่น่าใช่การกระทำผิดครั้งแรก อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานขยายผลความคืบหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. วันที่ ๓๐ ม.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า คดีนี้นอกจากกรณีของอธิบดีกรมการข้าวแล้ว ยังมีข้าราชการการเมืองที่มีชื่อเสียงอักษรย่อ ธ.ติดต่อเข้ามา เพื่อจะแจ้งความหลังถูกกลุ่มของนายศรีสุวรรณเรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดแต่ประสานจะเข้าพบ ส่วนกรณีที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าวกังวลปมเจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม ถูกปลดจากคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ ๑๑ ของรองนายกฯ ตั้งแต่เดือน ธันวาคม๖๖ ไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขณะเรียกรับผลประโยชน์ จะทำให้ข้อหาอ่อนลงนั้น ยอมรับหากมีคำสั่งปลดก่อนเรียกรับผลประโยชน์จริง นายยศวริศจะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เบื้องต้นยังไม่เห็นคำสั่งปลดและก่อนออกหมายจับ ป.ป.ช.ยืนยันว่าเจ๋ง ดอกจิก มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในขณะกระทำความผิด“อย่างไรก็ตามขบวนการนี้มีคนที่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแน่ๆ ขณะเรียกรับผลประโยชน์ คือ น.ส.พิมณัฏฐา หรือตูน จิระพุทธิภาคย์ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ ๑๑ ของรองนายกฯ เมื่อเช้าวันที่ ๒๖ มกราคม๖๗ ก่อนมีการล่อซื้อที่บ้านนายศรีสุวรรณ ซึ่งเมื่อมีหนึ่งคนเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ร่วมขบวนการก็ต้องเข้าข่าย สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ตามกฎหมายจะต้องรับโทษ ๒ ใน ๓ ของระวางโทษ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวบ่ายวันเดียวกัน ที่บริเวณชั้นล่างอาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อนำเอกสารหลักฐานข้อความแชตสนทนาเกี่ยวกับคดีรีดเงินอธิบดีกรมการข้าวมามอบให้ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด เนื่องจากมีที่ปรึกษารัฐมนตรีอีกคนชื่อ “หมู” เป็นผู้พาภรรยาอธิบดีกรมการข้าวนำเงินไปจ่ายให้นายศรีสุวรรณก้อนแรกเมื่อวันที่ ๒๘ พ.ย.  เหตุการณ์ทั้งหมดทนายน้อย-นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เป็นผู้ยืนยันข้อมูลtt ttที่ สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เวลา ๑๔.๓๐ น. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สำเนียง โสธร รอง ผกก. (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง กรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาถูกสำนักข่าวอมรินทร์ทีวีในรายการข่าวอรุณอมรินทร์ รายงานภาพข่าวพาดพิงว่า ตนเป็น ๑ ในแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวนายธนดลเปิดเผยว่า เดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับพิธีกร ๓ คนที่ดำเนินรายการข่าวอรุณอมรินทร์ที่ออกอากาศเมื่อช่วงเช้า พร้อมผู้สื่อข่าว ๑ คนที่โทรศัพท์มาขอสัมภาษณ์ ไม่ได้แจ้งก่อนว่าจะนำเสียงสนทนาไปเผยแพร่ ขอยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่ “หมู” ตามที่มีการรายงานข่าวเพราะตนชื่อเล่น “ดล” แต่การที่ทางรายการเอาภาพ ชื่อ-นามสกุลตนไปทำภาพประกอบการเล่าข่าว ระบุว่าที่ปรึกษาชื่อหมู คือนายธนดล และเล่าข่าวว่าตนเป็นคนกลางที่พาอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาไปพบนายศรีสุวรรณที่บ้านพักใน จ.ปทุมธานี และที่ตนให้เช็กสัญญาณโทรศัพท์เพราะต้องการให้ตรวจสอบเลยว่ามีเบอร์ของตนไปอยู่ในละแวกบ้านของนายศรีสุวรรณหรือไม่ ที่ต้องมาแจ้งความเพราะสำนักข่าวดังกล่าวไม่ให้ความเป็นธรรม ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนว่าคนที่ชื่อ “หมู” ชื่อจริง นามสกุลจริงอะไร คือใคร ยืนยันว่าไม่เคยพาอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาไปพบนายศรีสุวรรณแน่นอน ส่วนที่ปรึกษารัฐมนตรีท่านใดจะมีชื่อ “หมู” หรือไม่นั้น ขอให้ไปตรวจสอบเอาเองที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดใจครั้งแรกกับสื่อมวลชนหลังการซ้อนแผนจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน โดยกล่าวว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลร่วมกับภรรยาค่อนข้างนานพอสมควร จากนั้นเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี โดยไม่มีที่ปรึกษารัฐมนตรีคนใดทราบเรื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน๖๖ ตนพร้อมภรรยาชวนนายหมู ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ที่เป็นรุ่นพี่ไปหานายศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นรุ่นน้องสมัยเรียน ม.แม่โจ้ ถึงบ้าน โดยให้นายหมูไปเป็นพยาน ไม่ได้มีการจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว และไม่ได้ไปคุยเรื่องเคลียร์เงินแต่อย่างใด แต่ไปคุยว่าผลการสอบสวนการร้องเรียนโครงการต่างๆออกมาแล้ว ไม่ได้มีความผิดอะไร ขอให้ยุติการร้องเรียนในเรื่องที่ไม่มีมูลความจริง แต่หลังจากนั้นนายศรีสุวรรณออกมาแถลงข่าวร้องเรียนเรื่องฝนหลวงและไม่ได้พบกันอีก มีเพียงภรรยาที่ไปพบ ยืนยันว่าการให้เงินนายศรีสุวรรณทุกครั้ง เป็นการล่อซื้อหลังจากที่ได้หารือกับตำรวจแล้ว“ผมยืนยันได้ว่าโครงการต่างๆของกรมการข้าวนั้นตรวจสอบได้ทั้งหมด ไม่ทราบว่าทำไมผมถึงตกเป็นเป้า และไม่ทราบว่าเป็นการสกัดทางการเมืองหรือไม่ นายศรีสุวรรรณนำเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมายจนน่ารำคาญ แต่ที่ทราบว่ามีการร้องเรียนถึงตัวเองนั้น เพราะมีจดหมายร้องเรียนเข้ามาแต่จ่าหน้าซองผิด แทนที่จะเป็น รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ กลับจ่าหน้าเป็นชื่อของผม ทำให้รู้ที่มาที่ไปก่อนไปแจ้งความที่ สภ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา” นายณัฏฐกิตติ์กล่าวมีรายงานว่าระหว่างที่นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่นั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมกับพูดคุยกับสื่อมวลชนโดยระบุว่ากระทรวงอยู่ระหว่างการปัดกวาดเช็ดบ้านให้สะอาด หากมัวแต่มานั่งซัดคนเก่าก็ไม่ใช่สไตล์ของธรรมนัสที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ถึงกรณีที่มีการร้องเรียนการทุจริตต่างๆว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีได้มีการเน้นย้ำป้องกันการทุจริตมาโดยตลอด ตั้งแต่เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณรวมถึงเรื่องที่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น ต้องให้ความเป็นธรรมทุกๆฝ่ายด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพาดพิงถึงอดีตรัฐมนตรี ป. อาจหมายถึงนายประภัตร โพธสุธน อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรค ชทพ.ว่า ข่าวที่ออกมามีอักษรย่อมากมาย แต่ถ้าจะให้ชัดเจนที่สุด ก็ต้องฟังจากปากเจ้าตัว พรรคชาติไทยพัฒนาเน้นทำงานรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุขึ้นมา ถ้ายังไม่มีการชี้ชัด ก็เป็นหน้าที่ของบุคคลนั้นจะชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบต่อมาเวลา ๑๓.๔๐ น. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธให้สัมภาษณ์อีกครั้งก่อนประชุมพรรคว่า นายประภัตรขอลาประชุมพรรค เกี่ยวกับเรื่องนี้พรรคชี้แจงในรายละเอียดไม่ได้ ต้องให้เจ้าตัวชี้แจงเอง เพราะคนที่ตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดไม่ใช่หัวหน้าพรรคและไม่ใช่ใครทั้งนั้น พอเกิดข่าวลือแบบนี้คนที่ตอบได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นเจ้าตัว“เท่าที่ผมได้พูดคุยกันมา นายประภัตรยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง สมัยที่ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ นายประภัตรจะมาอัปเดตสถานการณ์ตลอด แต่ผมไม่เคยได้รับรายงานปัญหาเหล่านี้” นายวราวุธกล่าววันเดียวกัน นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ลงนามในหนังสือให้เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธาน กมธ.แล้ว เมื่อวันที่ ๓๐ ม.ค. ส่วน  น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส. พรรค รทสช.ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาประธาน กมธ. แต่ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว ทำให้กรรมการบริหารพรรคไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่