วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ไฟรั่วจากกุฏิวัดลงน้ำ ช็อตเด็กชายในหมู่บ้านดับสลดคาสระ ๔ ศพ

12 ธ.ค. 2023
84

เกิดเหตุสลดในหมู่บ้านที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เด็กๆ มาเล่นน้ำแล้วหายไป ๓ คน ปู่ทราบเลยมาหาจุดที่หลานลงเล่นน้ำ เป็นกุฏิกลางน้ำ ถูกไฟช็อตสะดุ้งโหยง รีบตะโกนบอกคนข้างบนอย่าลงมา แต่ช้าไป เด็กชายเป็นห่วงเพื่อนโดดลงสระ จมหายไปอีกคน สุดท้ายงมขึ้นมาได้ ๔ ศพ เสียชีวิตทั้งหมด คาดไฟรั่วจากกุฏิช็อตดับ ช่วงบ่าย วันที่ ๑๑ ธ.ค. ร.ต.อ.ณพชยกรธ์ โชติเนตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.น้ำยืน ได้รับแจ้งศูนย์ ๑๙๑ น้ำยืน มีเยาวชนจมน้ำสูญหาย ๔ ราย เหตุเกิดภายในหนองน้ำสาธารณะหนองแวง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลน้ำยืนและกู้ชีพใกล้เคียงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ ติดกับวัดหนองครก ตำบลโดมประดิษฐ์ มีกุฏิกลางน้ำ มีทางเดินทอดยาวออกไปยังตัวกุฏิ ด้านบนฝั่งพบชาวบ้านและพลเมืองดีช่วยกันงมร่างเยาวชนชาย ๔ คน ขึ้นมาจากน้ำและทำการปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งหมดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ นายธนากร หรือ บาส พิกุล อายุ ๑๕ ปี ด.ช.ณัฐพล หรือ เฟรม อุดทายศรี อายุ ๑๔ ปี ด.ช.สุพชัย กระชา ๑๒ ปี นายพงษ์พัฒ วินาโล อายุ ๑๖ ปี ทั้งหมดถูกนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลด้วยกันที่วัดหนองแวง ตำบลโดมประดิษฐ์ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปวัดหนองแวง พบชาวบ้านนำร่างทั้ง ๔ คนมาตั้งอยู่บริเวณศาลาเอนกประสงค์เมรุวัดหนองแวง พร้อมทั้งตกแต่งเตรียมสถานที่ และอาหาร เพื่อรับรองผู้ที่มาร่วมแสดงความเสียใจ ท่ามกลางความโศกเศร้าของชาวชุมชนหนองแวงที่ใกล้เคียง สอบถาม นางสาวประภาพร หรือ เนย ใจน้อย อายุ ๑๕ ปี เพื่อนนายบาส เปิดเผยว่า ตนเองและคนตายเป็น ญาติกัน เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. (๑๑ ธ.ค.) ได้นัดกันออกไปทานข้าวมันไก่ในหมู่บ้านใกล้เคียงก่อนจะกลับมาเล่นน้ำที่หนองน้ำจุดเกิดเหตุ เมื่อมาถึง นายธนากร ด.ช.ณัฐพล ด.ช.สุพชัย ได้ลงไปเล่นน้ำกันก่อน โดยที่ตนเองและ ด.ช.พงษ์ศักดิ์ กระชา อายุ ๑๕ ปี ไม่ได้ลงไปเล่นน้ำด้วย จากนั้นทั้ง ๓ คนได้ย้ายออกมาจากท่าน้ำที่ใช้ลอยกระทงขึ้นไปกระโดดบนสะพานที่เชื่อมไปยังกุฏิ แล้วทั้ง ๓ คนก็หายไป ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าทั้งหมดเล่นซ่อนแอบกัน ผ่านไปกว่า ๓๐ นาที ไม่เห็นเพื่อนๆ จึงได้โทรหาพ่อและปู่ออกมาตามทั้งหมดขึ้นจากน้ำ แต่ด้วยความไม่มั่นใจตนจึงได้กลับเข้าบ้านไปตามหาว่าทั้งหมดกลับมาหรือยัง แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น จึงได้กลับไปดูที่สระน้ำอีกครั้งพร้อมกับปู่ของนายบาส และนายพงษ์พัฒ หรือ แหล่  เมื่อปู่มาถึงก็พยายามเรียก แต่ไม่มีใครตอบ ปู่จึงได้ลงน้ำไป เพราะคิดว่าทั้งหมดแกล้งตน ไม่ยอมขึ้นมา แต่เมื่อปู่ลงไปกลับถูกไฟดูด จึงตะโกนบอกนายแหล่ว่าอย่าลงมาไฟดูด แต่ไม่ทัน นายแหล่กระโดดลงน้ำแล้วจมหายไป ปู่ตั้งสติได้จึงรีบกลับขึ้นมา แล้วไปตัดไฟที่ศาลาพักญาติภายในวัด ก่อนจะตามชาวบ้านมาช่วยด้านนายใคร พิกุล อายุ ๖๗ ปี ปู่ของนายธนากร หรือ บาส เปิดเผยว่าตนได้รับโทรศัพท์จากพ่อของนางสาวประภาพร หรือ เนย ให้ออกมาตามหลานขึ้นจากน้ำ เพราะน้องเนยเรียกแล้วไม่ยอมขึ้น เมื่อตนไปถึงพยายามเรียก แต่ไม่มีใครตอบ จึงได้ลงไปในน้ำ เมื่อไปใกล้เสาของกุฏิตนรู้สึกชามือ แต่ยังไม่มาก เมื่อเดินลงไปอีกกลับถูกไฟดูดจมลงไปใต้น้ำ เมื่อตั้งสติได้ตนได้กลั้นใจดีดตัวออกมาห่างจากเสาถึงพ้นจากไฟดูด แล้วขึ้นไปปลดเบรกเกอร์ตัดไฟ ขณะที่ นายฉัตรชัย พิกุล อายุ ๓๖ ปี อาของนายบาส เล่าว่า หลังทราบว่าหลานได้หายไป จึงได้รีบมาช่วยค้นหา ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่ทราบว่ามีไฟดูด เห็นเพื่อนบ้านช่วยกันหา ตนคิดว่าปลอดภัยจึงได้ลงไปค้นหาทันที ไม่นานตนสามารถคว้าร่างของนายแหล่เป็นคนแรก และน้องเฟรม เป็นคนที่ ๒ ทั้งคู่อยู่ใกล้กัน ไม่ห่างจากเสาของกุฏิ ส่วนอีก ๒ ร่าง ชาวบ้านสามารถนำขึ้นมาได้ภายหลัง สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สลดครั้งนี้ คิดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าที่รั่วลงไปจากตัวกุฏิ เพราะถ้าจมน้ำปกติไม่น่าจะเสียชีวิตพร้อมกันแบบนี้ เด็กทุกคนเป็นคนว่ายน้ำแข็งทุกคนนายศราวุธ จิตสง่า อายุ ๒๓ ปี เป็นอีก ๑ คนที่นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา เล่าว่าทั้งหมดเป็นญาติของตนเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุตนตกปลาอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นหลานๆ มาเล่นน้ำตามปกติ จนกระทั่งเก็บเบ็ดกลับบ้าน มารู้อีกครั้งลุงมาบอกว่าหลานตกน้ำ จึงได้ออกไปดูพบมีการนำร่างของหลานขึ้นมาปั๊มหัวใจแล้ว ๒ คน เหลืออีก ๒ ร่างในน้ำ จึงได้ตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยงมร่างของน้องแฮตแทค ได้มาเป็นร่างสุดท้ายจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการลากสายไฟจากศาลาพักญาติของวัดหนองครกมาที่กุฏิกลางน้ำ ซึ่งไม่มีพระจำวัดมานานแล้ว สายไฟอาจจะขาดชำรุด ทำให้ไฟรั่วลงโครงเหล็ก ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรได้ชันสูตรเบื้องต้น ลงความเห็นว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากการจมน้ำ ส่วนจะมีไฟฟ้ารั่วหรือไม่ จะทำหนังสือให้เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเข้าตรวจสอบเช้าวันนี้ (๑๒ ธ.ค.) จากนั้นได้มอบร่างทั้ง ๔ ศพให้ญาติบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองแวงต่อไป