“เขาคิชฌกูฏ” ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เปิดให้นักแสวงบุญขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาท ปีละ ๑ ครั้ง ในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓ ถึง วันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยปี ๒๕๖๗ เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๐ ก.พ. ถึง ๙ เม.ย. มีผู้คนหลั่งไหลด้วยพลังความเชื่อและศรัทธา เพื่อสักการะและขอพรสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เป็นจำนวนมากเหมือนเช่นทุกๆ ปี รอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ มีการเล่าขานสืบต่อกันมาว่าในปี ๒๓๙๗ ชาวบ้านพากันเดินเท้าขึ้นไปบนเขาเพื่อหาของป่า ก่อนพบสิ่งสร้างความงุนงงไม่สามารถกลับที่พักได้ เพราะเมื่อเดินๆ ไปก็มาเจอลานหินในจุดเดิมซ้ำๆ จนไปพบรอยเท้าขนาดใหญ่ของมนุษย์ หลังหยิบของมีค่าในบริเวณนั้นไป ทำให้เกิดความกลัวพากันขอขมารอยเท้า เพราะคิดว่าเป็นรอยเท้าของผู้มีฤทธิ์ และขอพรขอให้กลับที่พักได้อย่างไม่มีปัญหา กระทั่งเรื่องราวไปถึงหูหลวงพ่อเพชร เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี ไม่รอช้ารีบเดินทางพร้อมกับพระสงฆ์ขึ้นไปบนเขา ได้พบรอยเท้าขนาดใหญ่ มีหินก้อนใหญ่ตั้งเด่นตระหง่าน และต่างลงความเห็นว่าเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า ถือเป็นบุญและลาภของชาวจันทบุรีที่ได้สิ่งอันล้ำค่า ในเวลาต่อมาในปี ๒๕๑๕ หลวงพ่อเขียน หรือพระครูธรรมสรคุณ เจ้าอาวาสวัดกระทิง อ.เขาคิชฌกูฏ เป็นผู้บุกเบิกเปิดตำนานรอยพระพุทธบาทให้เป็นที่รู้จัก มีการพัฒนาเส้นทางขึ้นเขาให้สามารถนำรถยนต์ขึ้นไปได้ จนชาวบ้านขนานนามว่า “เทพเจ้าแห่งขุนเขาคิชฌกูฏ” ก่อนละสังขารจากอาการอาพาธโรคไตวายและโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เมื่อเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. วันที่ ๒๘ เม.ย. ๒๕๕๕ สิริอายุ ๘๒ ปี พรรษา ๖๒ พร้อมกับทิ้งคำสอนให้กับศิษยานุศิษย์ “เท้าของพระพุทธองค์ แม้ประดิษฐานอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตาม ถ้าเรามีความเชื่อมั่น เคารพกราบไหว้ด้วยใจอธิษฐานแล้ว ย่อมเกิดผลสำเร็จแก่ผู้นั้นทุกคน และเป็นสิริมงคลแก่ผู้นั้นตลอดไป แต่ต้องตั้งจิตอธิษฐานให้ดี ปรารถนาสิ่งใดที่ดีที่ชอบขอได้ตามความพอใจ กลับไปจะมีแต่ความปลอดภัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและเทพยดาที่รักษารอยพระพุทธบาทแห่งนี้ จะอำนวยอวยพรให้ท่านได้รับแต่ความสุขตามสมบูรณ์พูนผล ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป ส่วนพวกที่ไปด้วยไม่ศรัทธาจะถูกรุกขเทวดาที่ปกปักรักษารอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏลงโทษบ่อยๆ ทุกปี” หลวงพ่อเขียน ยังสร้างตำนานอภินิหารบนยอดเขาคิชฌกูฏ ขณะฝนตกหนักลมแรงช่วงเวลาบ่ายสองในปี ๒๕๔๘ จู่ๆ สายฟ้าดังเปรี้ยงก็ฟาดลงมาใส่ผู้คน ๑๑ รายแบบไม่ทันตั้งตัว และทันใดนั้นได้สั่งให้ศิษยานุศิษย์นำร่างผู้เคราะห์ร้ายมานอนบนสังกะสี นำผ้ามาห่มร่างกาย ก่อนหลวงพ่อเขียน ผู้มีวิชาอาคมอันแก่กล้า ทำการราดน้ำให้ชุ่มตัว จนทุกคนรอดตายอย่างปาฏิหาริย์รวมถึงยังใช้เวทมนตร์ สะกดพวกสัตว์ป่าไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน และใครก็ตามเดินทางมาบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาคิชฌกูฏ เชื่อกันว่าจะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ แม้หลวงพ่อเขียน ได้มรณภาพไปแล้วกว่า ๑๒ ปี ก็ยังมีพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้รูปปั้นจำลองหลวงพ่อเขียนอย่างไม่ขาดสาย.
๑๒ ปี หลวงพ่อเขียน เทพเจ้าแห่งขุนเขาคิชฌกูฏ ละสังขาร เมื่อปี ๒๕๕๕
เรื่องที่เกี่ยวข้อง