“เศรษฐา” เตรียมเป็นประธานคิกออฟ ๓๐ บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ ๒ วันที่ ๓๐ มีนาคมนี้ เดินหน้าอีก ๘ จังหวัด เป็นนโยบายที่รัฐบาลทำทันที “หมอชลน่าน” เผย ประชาชน ๔ จังหวัดนำร่องพอใจมาก ย้ำ ขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศในปี ๒๕๖๗วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๗ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมการขับเคลื่อนนโยบายยกระดับ ๓๐ บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ ๒ โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มีนโยบายยกระดับ ๓๐ บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข รับมาเร่งรัดดำเนินการทันที โดยคิกออฟระยะแรก ไปเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๗ ใน ๔ จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จ.แพร่ จ.เพชรบุรี จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นราธิวาส ขณะนี้ผ่านมาประมาณ ๒ เดือน พบว่าประชาชนให้การตอบรับดีมาก เนื่องจากเข้ารับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้สะดวก รวดเร็ว และใกล้บ้าน ลดระยะเวลาในการรอคอย จากการลงทะเบียนยืนยันตัวตนผู้รับบริการ (Health ID) และมีการเชื่อมโยงข้อมูลประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (PHR) ทำให้เรียกดูประวัติการรักษาได้ทุกสถานบริการ อีกทั้งมีระบบบริการดิจิทัล ทั้งการออกใบรับรองแพทย์ การนัดหมายออนไลน์ การแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล รวมถึงจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ถึงบ้านผ่าน Health Rider ไม่ต้องรอรับยาที่โรงพยาบาล โดยผลสำรวจความพึงพอใจการรับบริการ Health Rider ระหว่างวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์-๑ มีนาคม ๒๕๖๗ พบว่า ภาพรวมพึงพอใจสูงถึง ๙๙.๖% แบ่งเป็น ด้านความรวดเร็ว ๙๙.๒%, ด้านเจ้าหน้าที่ส่งยา ๙๙.๕%, ความสมบูรณ์ของพัสดุ ๑๐๐%, ความมีประโยชน์ ๙๙.๘% และช่วยลดระยะเวลารอคอย ๙๙.๕%“ส่วนข้อกังวลเรื่องผู้ป่วยจะเข้ารับบริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ จากข้อมูลพบว่าเพิ่มขึ้นเพียง ๘.๗% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก การใช้บริการข้ามพื้นที่เพิ่มประมาณ ๖.๙% บางแห่งไม่เกิน ๕% ไม่มีผลกระทบต่อภาระงานและบุคลากร ขณะที่การเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ ๔๙ แห่ง ตั้งแต่วันที่ ๗ มกราคม-๑ มีนาคม ๒๕๖๗ มียอดเรียกเก็บรวม ๖๒๔,๔๓๗,๗๖๙.๑๙ บาท จาก ๕๔๕,๒๘๓ ราย” สำหรับการเดินหน้ายกระดับ ๓๐ บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ ๒ ใน ๘ จังหวัด ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.สิงห์บุรี จ.สระแก้ว จ.หนองบัวลำภู จ.นครราชสีมา จ.อำนาจเจริญ และ จ.พังงา นพ.ชลน่าน ระบุว่า ขณะนี้มีความพร้อม ๑๐๐% โดยได้เชื่อมโยงข้อมูล PHR ของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพแล้ว ภาพรวม ๘ จังหวัด มีประชาชนลงทะเบียน Health ID แล้ว มากกว่า ๒ ล้านคน โดย จ.พังงา ลงทะเบียนสูงสุดเกือบ ๕๐% บุคลากรทางการแพทย์ยืนยันตัวตน Provider ID แล้ว ๓.๙ หมื่นคน ส่วน จ.นครราชสีมา และ จ.สระแก้ว ยืนยันมากกว่า ๙๐% มีการให้บริการออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล การแพทย์ทางไกลและเภสัชกรรมทางไกล ครบทั้ง ๘ จังหวัด จัดส่งยาและเวชภัณฑ์ผ่าน Health Rider แล้ว ๖๒ แห่ง ใน ๖ จังหวัด คิดเป็น ๖๔.๖% รวม ๑,๗๑๙ ออเดอร์ โดย จ.สระแก้ว และ จ.พังงา อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนบริการนัดหมายออนไลน์ผ่านหมอพร้อม อยู่ระหว่างดำเนินการให้ครอบคลุมทุกโรงพยาบาลสำหรับเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ได้ประเมินความเสี่ยงของโรงพยาบาลในระยะที่ ๒ ทั้ง ๙๖ แห่ง เพื่อยกระดับการป้องกันและสร้างความปลอดภัย โดยมีการอัปเกรดคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการของโรงพยาบาลให้รองรับระบบการให้บริการใหม่ เพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งบุคลากรและประชาชน รวมทั้งมอบหมายให้สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เร่งทำข้อสรุปหลักเกณฑ์และกระบวนการเบิกจ่าย การยืนยันตัวตน การเปิดสิทธิ์ ปิดสิทธิ์ ให้มีความชัดเจน เพื่อให้หน่วยบริการภาคเอกชนมั่นใจและเข้าร่วมโครงการ ในช่วงท้าย นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานคิกออฟยกระดับ ๓๐ บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ ๒ อย่างเป็นทางการ ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๗ และในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗ จะเพิ่ม ๒๐ จังหวัด จากนั้นขยายครอบคลุมทั้งประเทศ ภายในปี ๒๕๖๗
๓๐ มีนาคมนี้ นายกฯ นำคิกออฟ ๓๐ บาทรักษาทุกที่ ระยะที่ ๒ เดินหน้าอีก ๘ จังหวัด
เรื่องที่เกี่ยวข้อง