ฝ่ายค้านล็อกแตก ๓ สส.งูเห่า “ไทยสร้างไทย” แหกมติโหวตผ่านวาระแรกร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ “ฐากร” เผยเรียกมา กำชับ ๓ รอบ คุมไม่อยู่ อ้างใบสั่ง ปชช.ในพื้นที่แลกได้งบฯเข้าจังหวัด โชว์สปิริตรับผิดชอบไขก๊อกพ้น เลขาฯพรรค “ชัชวาล” ลาออกวิปฝ่ายค้านตามอีกคน “เจ๊หน่อย” ขอโทษประชาชนลูกพรรคแหกคอก ชงกรรมการจริยธรรมไต่สวนด่วน เล็งแช่แข็ง ๓งูเห่า ไม่ไล่ตะเพิดให้มีช่องย้ายค่าย “สรวงศ์” โบ้ย สส.โหวตหนุน ก.ม.งบประมาณฯเป็นจิตสำนึก ไม่มีสัญญาณพิเศษ “มนพร” โอดรัฐบาลโดนยุทธศาสตร์ชาติ๒๐ปีมัดคอ จะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ “กรมราชทัณฑ์” แจงคุมขัง “ทักษิณ” นอกเรือนจำ ให้รักษาตัว รพ. ตำรวจ ไร้อภิสิทธิ์ ยึดกฎหมายเคร่งครัดการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ วาระแรก ผ่านไปอย่างเรียบร้อยราบรื่น เป็นไปตามเป้าหมายของฝ่ายรัฐบาล แต่ยังคง มีประเด็นที่น่าติดตาม เมื่อมี ๓ สส.ซีกฝ่ายค้านจากพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ฝ่าฝืนมติพรรค และมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไปโหวตให้ความเห็นชอบ ร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๗เสียงรัฐบาลไม่แตกแถวลงมติงบฯ ๖๗ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงผลการลงมติร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ วาระแรก เมื่อคืนวันที่ ๕ มกราคม๒๕๖๗ ที่มีเสียงรับหลักการ ๓๑๑ เสียง ไม่รับหลักการ ๑๗๗ เสียง และงดออกเสียง ๔ เสียงนั้น พบว่าในส่วนเสียงรับหลักการ ๓๑๑ เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทยที่ลงมติไปทางเดียวกัน ๑๓๗ คน มีคนไม่มาประชุม ๓ คน คือ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ ที่ลาป่วย นายสุชาติ ตันเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ และ พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงมติงดออกเสียง พรรคภูมิใจไทยลงมติเห็นด้วยพร้อมเพรียงกันทั้ง ๗๑ คน พรรคพลังประชารัฐ ลงมติเห็นด้วย ๓๘ คน ขาดเพียง ๒ คน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และนางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.บัญชี รายชื่อ ที่ไม่ได้มาลงคะแนน พรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นด้วยยกพรรค ๓๖ คน พรรคชาติไทยพัฒนาเห็นด้วย ๙ เสียง มีเพียงนายประภัตร โพธสุธน สส.บัญชีรายชื่อ ที่ลงมติงดออกเสียง พรรคประชาชาติลงมติเห็นชอบ ๘ เสียง มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ลงมติงดออกเสียงประชาธิปไตยใหม่บวกให้ ๑ เสียงขณะที่พรรคชาติพัฒนากล้า ลงมติเห็นด้วย ทั้ง ๓ คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง ลงมติเห็นด้วยทั้ง ๒ คน ส่วนพรรคเล็กที่มี สส.พรรคละ ๑ คน อย่างพรรค ท้องที่ไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทยก็ลงมติรับหลักการพร้อมหน้า นอกจากนี้ ยังมีพรรคประชาธิปไตยใหม่ โดยนายสุรทิน พิจารณ์ สส. บัญชีรายชื่อ ที่ไม่ได้อยู่ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ก็ลงมติเห็นด้วยให้เช่นกัน๓ งูเห่า ทสท.แหกมติรับหลักการผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคะแนนเสียงไม่เห็นด้วย ๑๗๗ เสียง นำโดยพรรคก้าวไกล ลงมติไม่รับหลักการไป ในทิศทางเดียวกัน ๑๔๖ คน จากจำนวน สส. ๑๔๗ คน โดยนางทิพา ปวีณาเสถียร สส.ลำปาง มาขานลงคะแนน ไม่เห็นด้วย ภายหลังปิดการลงมติไปแล้ว จึงไม่ถูก นับรวมคะแนน แต่ให้บันทึกไว้ในบันทึกการประชุม พรรคประชาธิปัตย์ ลงมติไม่เห็นด้วย ๒๔ คน ขาด นายชาตรี หล้าพรหม สส.สกลนคร ๑ คน ที่ไม่ได้ลง คะแนน ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย มี สส. ๖ คน ลงมติไม่เห็นด้วย ๓ คน แต่อีก ๓ คน คือ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี ลงคะแนนสวนมติพรรค ไปร่วมเห็นชอบร่าง พระราชบัญญัติงบรายจ่ายปี ๒๕๖๗ วาระรับหลักการ จนถูกตั้งข้อสังเกตเป็นงูเห่าสนับสนุนให้พรรครัฐบาล ส่วนพรรคเป็นธรรม นายกัณวีร์ สืบแสง ลงมติไม่เห็นด้วย แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทน ราษฎรคนที่ ๑ ลงมติงดออกเสียง และพรรคเล็ก ๑ เสียง อย่างพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคไทยก้าวหน้า และพรรคใหม่ ก็ลงมติไม่เห็นด้วยtt ttฐากร ตัณฑสิทธิ์“ฐากร” เผย ๓ สส.ทสท.อ้างใบสั่ง ปชช.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ๓ สส.ของพรรค ได้แก่ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุรพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี โหวตเห็นด้วยกับร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ สวนมติวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า เมื่อวันที่ ๕ ม.ค. ได้ประชุมพรรค ๓ ครั้ง เน้นย้ำ สส.ทุกคนยึดมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตามที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ได้กำชับ แต่ทั้ง ๓ สส.ชี้แจงถึงความจำเป็นของเขาว่างบประมาณได้ลงในจังหวัดตัวเอง ถ้าไม่ลงมติเห็นด้วย ประชาชนก็ไม่เห็นด้วย เมื่อเขาเลือก สส.มา ไม่ใช่ สส.จะตัดสินใจอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังย้ำให้ยึดมติวิปฝ่ายค้าน เราต้องปฏิบัติ โดยได้แจ้งกลับไปว่าถ้าใครจะไม่เลือก ไม่ต้องเข้าห้องประชุม หรือไม่ต้อง มานั่งในโซนของพรรคไทยสร้างไทย เหมือนจะตกลงกัน ได้แล้ว และได้แจ้งสิ่งที่เน้นย้ำลูกพรรคกับนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านตลอด แต่เมื่อใกล้ถึงเวลา ลงมติไม่เห็นทั้ง ๓ คนในห้องประชุมแล้ว เมื่อลงมติ เสร็จสิ้น นายปกรณ์วุฒิได้เดินมาหาตน ถามว่า ๓ สส. ไม่เข้ามาใช่หรือไม่ ตนได้ขอโทษประธานวิปฝ่ายค้าน และขอโทษผ่านไปยังนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านรับคุมไม่ได้ลั่นขอพิจารณาตัวเอง“เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจะพิจารณาตัวเอง เมื่อกำกับ สส.เราไม่ได้ ก็ขอโทษประธานวิปฝ่ายค้านและผู้นำ ฝ่ายค้าน ผมทำเต็มที่แล้ว อีกวันสองวันจะพิจารณาตัวเอง ผมก็ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ไม่อยากให้ใครมองเราคุมพรรคไม่อยู่ พอไม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็เกิด ปัญหาแบบนี้ “เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยกล่าว เมื่อถามว่าพรรคจะพิจารณาขับ ๓ สส.พ้นจาก พรรคหรือไม่ นายฐากรกล่าวว่า ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ในพรรค และกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณารับผิดชอบไขก๊อกพ้นเลขาฯ ทสท.ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยสร้างไทย ว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ โดยมีเนื้อหาสรุปว่า จากกรณี สส.ไทยสร้างไทยจำนวน ๓ คน ลงมติเห็นชอบ ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ ในวาระที่ ๑ ขัดกับมติพรรค ร่วมฝ่ายค้าน ทั้งที่ก่อนการลงคะแนนได้เรียกสมาชิกพรรคหารือ และกำชับให้ สส.ของพรรคลงคะแนนตาม มติพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่รับร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณ ถึง ๓ ครั้ง แต่เมื่อมี สส.ไทยสร้างไทย ๓ คนลงคะแนน เห็นชอบ เห็นว่าเป็นการขัดกับมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปสส.ไทยสร้างไทยลาออกวิปฝ่ายค้านวันเดียวกัน นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ทำหนังสือ ลงวันที่ ๕ ม.ค. ๒๕๖๗ ถึงประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อขอลาออกจากการทำหน้าที่กรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน ในสัดส่วนพรรค ไทยสร้างไทย เพื่อแสดงความรับผิดชอบ กรณีมี สส. พรรคไทยสร้างไทยไม่ปฏิบัติตามมติวิปฝ่ายค้านในการโหวตไม่เห็นชอบร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ปี ๒๕๖๗ จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการขาดศักยภาพในการทำหน้าที่ของตนเองที่ไม่สามารถควบคุมเสียงได้ ขณะเดียวกันนายชัชวาลยังได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ขอลาออกจาก ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปtt ttอนุดิษฐ์ นาครทรรพ“อนุดิษฐ์” ชม “ฐากร” โชว์สปิริตนอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ยื่นหนังสือลาออกจากกรณีคุมเสียงสส.ในสภาฯไม่ได้ว่า เรื่องที่ สส.ของเราโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้านเราไม่นิ่งนอนใจ จะให้กรรมการจริยธรรมของพรรคไต่สวนเพื่อหาข้อสรุปส่งกรรมการบริหารพรรคต่อไป ในที่นี้ต้องขอโทษประชาชนต่อเรื่องดังกล่าวด้วย ส่วนการลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคของนายฐากรถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบของนายฐากรที่ไม่สามารถคุมเสียงของพรรคในสภาฯได้ เป็นการแสดงสปิริตของนักการเมืองที่ควรเอาแบบอย่าง เพราะเป็นการแสดงความรับผิดชอบโดยไม่มีใครเรียกร้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเลขาธิการพรรคลาออกเช่นนี้ วันที่ ๙ ม.ค. พรรคจะมีการประชุมผู้บริหาร เพื่อทบทวนการทำงานที่ผ่านมา และพิจารณากำหนดแนวทางของพรรคเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก รวมทั้งคงต้องรีบหารือกันว่าควรจัดให้มีการประชุมวิสามัญเพื่อเติมเต็มกรรมการบริหารพรรคให้เต็มตามข้อบังคับพรรคเพื่อการขับเคลื่อน พรรคต่อไปหรือไม่“เจ๊หน่อย” ขอโทษ ปชช.ลูกพรรคแหกคอกเมื่อเวลา ๐๘.๐๐ น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กกรณี สส. พรรคไทยสร้างไทยโหวตร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ สวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า “ดิฉันและผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชน ต่อผล Vote ร่างงบประมาณรายจ่าย ที่มี สส.ของพรรค ๓ คน ลงคะแนนสวนมติพรรคและมติพรรค ร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อพรรค โดยพรรคจะเร่งส่งเรื่องให้กรรมการจริยธรรมของพรรคดำเนินการไต่สวน เพื่อเสนอกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเป็นการด่วน ขณะนี้ดิฉันยังอยู่ต่างประเทศ แต่ได้เฝ้าติดตามการอภิปรายงบประมาณมาโดยตลอด และไม่สบายใจอย่างยิ่งที่ สส. ๓ คนไม่ดำเนินการตามมติพรรค ดิฉันและคณะผู้บริหารพรรคต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยอีกครั้ง”แฉ ทสท.รับไม่ได้ขู่โหวตสวนแลกกล้วยผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยสร้างไทยว่า สส.ไทยสร้างไทยที่โหวตสวนมติพรรคทั้ง ๓ คนประกอบด้วยนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุรพล สส.อุดรธานี และนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี ถือเป็น สส.หน้าใหม่ เป็นนักการเมืองเลือดใหม่ที่มีแววจะชนะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจในการช่วยหาเสียงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ จำเป็นต้องไปพักรักษาตัวอยู่ที่ประเทศอังกฤษตอนนี้ แต่การทำหน้าที่ช่วงที่ผ่านมา ทั้ง ๓ คนถูกจับตามองมาตลอดว่ามักทำทุกอย่างเพื่อการต่อรองผลประโยชน์ เพราะทั้ง ๓ คน มีเครือข่ายธุรกิจรับเหมาแช่แข็ง ๓ งูเห่า ไม่ขับให้ย้ายคอกกรณีนี้พรรคไทยสร้างไทยถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จะมีการประชุมเพื่อดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวในวันที่ ๙ ม.ค. หลังจากคุณหญิงสุดารัตน์กลับมาจากการพักรักษาตัว อย่างไร ก็ตาม แกนนำพรรคบางส่วนมองว่าวิธีการจัดการที่ดีที่สุดคือจะไม่ใช้วิธีขับออกเพื่อให้ทั้ง ๓ ย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่น แต่จะใช้วิธีลอยแพไม่ให้ความสำคัญ เพราะไม่ต้องการให้ สส.เหล่านี้ไปใช้ตำแหน่งในทางที่ไม่ถูกต้องได้อีก“สรวงศ์” ปากหวานชมฝ่ายค้านเนื้อหาดีนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯระหว่างวันที่ ๕-๘ มกราคมว่า ภาพรวม ๓ วันถือว่าดี ฝ่ายค้านทำการบ้านได้ดี เนื้อหาก็ค่อนข้างดี โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดให้หน่วยงานต่างๆจดทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านแสดงความคิดเห็นไว้ เพื่อนำข้อแนะนำของทุกฝ่ายนำมาปรับแก้ในชั้นกรรมาธิการให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงนำไปรับใช้ในการทำร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปี ๒๕๖๘ ต่อไปด้วยชี้ฝ่ายค้านหนุนงบฯไร้สัญญาณพิเศษเมื่อถามถึงกรณี สส.พรรคร่วมฝ่ายค้านโหวตสวนมติของฝ่ายค้านมาสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล มองว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า มองว่าเป็นดุลพินิจของแต่ละคน การที่ไม่รับร่างงบประมาณต้องดูเหตุผลว่าเป็นอย่างไร ถ้าไม่รับร่างจะให้ทำใหม่หรืออย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่กฎหมายทั่วไป แต่เป็นเรื่องของงบประมาณ และ สส.ที่ลงมติสวนแต่ละท่านเป็น สส.เขต การลงมติคงเป็นความรู้สึก เรื่องนี้เป็นเรื่องงบประมาณ อย่าเอาการเมืองมาเล่นเพราะถ้าไม่ผ่านประเทศจะเอาอะไรมาบริหาร เมื่อถามย้ำว่าการโหวตสวนเช่นนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณอะไรพิเศษหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ตนมองว่าไม่น่าเกี่ยวอะไร ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะแต่ละคนมีดุลพินิจของตัวเอง“มนพร” โอดยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีมัดคอนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม กล่าวถึงภาพรวมของการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๒๕๖๗ ว่า ฝ่ายค้านได้อภิปรายถึงงบฯที่บอกว่าเป็นงบฯสืบทอดอำนาจจากรัฐบาลเดิม แต่ในมุมของประชาชนเขามองว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านพูด พูดเนื้อหาไม่หมด เช่น มี สส.ระบุว่าทำไมงบของกระทรวงคมนาคมเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไม่ลงไปที่ภาคใต้ แต่เมื่อมาดูงบฯของกระทรวงคมนาคมจะเห็นว่าลงไปที่ภาคใต้เยอะ แต่หากโต้กันไปมาจะไม่ใช่การอภิปรายงบฯในภาพรวม ฝ่ายค้านลุกขึ้นมาพูดโดยไม่ได้ดูเนื้อหาสาระรายละเอียด แต่ต้องยอมรับว่าเราเข้ามาเป็นรัฐบาลที่มีโครงการเดิมเป็นงบฯผูกพันที่ผูกมานานแล้ว บางครั้งมาปรากฏในปี ๖๗ แล้วเราจะไปแก้ได้อย่างไร และการทำงบฯอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี เราจะไปเปลี่ยนอะไรได้ เพราะเขาล็อกไว้ นั่นเป็นสาเหตุที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ถึงได้ระบุว่าอยากรื้อยุทธศาสตร์ชาติหยันคนจ้อนอกประเด็นไม่เข้าใจเนื้อหา“ส่วนรัฐมนตรีนายกฯได้กำชับว่าให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงอย่าละเลยประเด็นที่มีคำถาม ให้พยายามตอบถึงแม้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ต้องพยายามตอบทุกประเด็นคำถาม สส.ที่อภิปรายออกนอกประเด็น เป็นสิทธิของทุกคนที่จะอภิปราย แต่การอภิปรายนอกประเด็นหมายความว่าเขาไม่เข้าใจเนื้อหาของการอภิปรายงบฯ และไม่ได้ศึกษาบทบาทการทำหน้าที่ สส. การพูดสะท้อนให้เห็นว่า สส.คนนั้นมีกึ๋นแค่ไหน” นางมนพรกล่าวtt ttธนกร วังบุญคงชนะ “ธนกร” ทั้งชม–ติฝ่ายค้านอภิปรายงบฯนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ขอบคุณเพื่อนสมาชิกจากทุกพรรคการเมืองที่ลงมติผ่านวาระแรกร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปี ๖๗ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในขั้นตอนต่อไปในชั้น กมธ.วาระ ๒ และ ๓ เพื่อขับเคลื่อนการใช้งบฯของรัฐบาล และทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะงบฯลงทุนภาครัฐที่ต้องเร่งเบิกจ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อถามว่าประเมินการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการอภิปรายงบฯปี ๖๗ ครั้งนี้อย่างไร นายธนกร กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าข้อมูลของฝ่ายค้านหลายเรื่องยังไม่ตรงประเด็น บางส่วนก็นำมาปะติดปะต่อดึงข้อมูลมาแค่บางส่วนไม่ครบถ้วนโจมตีพาดพิง บางคนใช้คำพูดการด้อยค่าอย่างไม่สร้างสรรค์ ถือว่ายังเป็นการสร้างวาทกรรม มุ่งเล่นแต่เกมการเมือง แต่หลายส่วนก็ถือว่าได้รับคำชมว่าทำได้ดี จึงขอฝากให้ฝ่ายค้านร่วมกันทำงานสภาสร้างสรรค์ ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ไม่ควรผลิตวาทกรรมมาด้อยค่ากัน ให้การทำงานสภาเป็นไปในเชิงพัฒนามากกว่าเล่นเกมการเมืองปชป.กัดติดงบฯวาระ ๒ ต้องโปร่งใสคุ้มค่านายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ ว่า ถือว่า สส.พรรค ปชป.ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ต้องชื่นชม สส.ทุกคนที่ร่วมกันตรวจสอบท้วงติงนำเสนออย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้งบฯที่จะนำไปใช้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่ภาพรวมรัฐบาลยังไม่สามารถชี้แจงได้ชัดว่างบประมาณแผ่นดินวงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท จะนำไปใช้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างไร เพราะการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่เคยประกาศไว้ ไม่มีรายละเอียดใดเลย อีกทั้งหลายฝ่ายห่วงใยเรื่องกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ งบฯที่ประกาศว่าจะนำไปพลิกฟื้นเศรษฐกิจสวนทางกับรายละเอียดในร่าง พระราชบัญญัติงบฯปี ๖๗ ที่เป็นการจัดสรรงบฯตามความต้องการของรัฐบาล โดยไม่ได้ยึดโยงกับสภาพปัญหาที่แท้จริงและประโยชน์ของประชาชนฉะจัดงบฯตามใจเมินสร้างงานสร้างคน“จะเห็นได้ชัดว่าในการจัดสรรงบฯครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ละเลยการสร้างงาน การสร้างคน การสร้างคุณภาพชีวิต เพราะตัวเลขสรุปภาพรวมที่ชัดเจนคือ ๖ ยุทธศาสตร์หลัก ดังที่ได้กล่าวมาได้รับการจัดสรรงบฯให้น้อยมาก และยังมีอีกหลายส่วนต้องติดตามในวาระที่สอง ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณฯต่อไป จะมีการพิจารณาลงลึกรายละเอียดงบฯของแต่ละกระทรวง สส.ทุกคนจะได้แปรญัตติภายใน ๓๐ วันต่อไป สำหรับสัดส่วนกมธ. งบฯทั้ง ๓ คนเป็นตัวแทนพรรคจะไปทำงานอย่างเต็มที่แทนพี่น้องประชาชน และจะทำงานร่วมกันกับ สส.ทุกคนของพรรคที่ไม่ได้เป็น กมธ.งบประมาณด้วย เรื่องเกี่ยวกับการพิจารณางบฯปี ๖๗ เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์ จะมาร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป” นายราเมศกล่าวราชทัณฑ์แจงกรณี “ทักษิณ” ยึดตาม ก.ม.วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุถึง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ตอบคำถามกรณีนายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลภายนอก และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่าในประเด็นเรื่องการรักษาเกินกว่า ๑๒๐ วัน และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการนั้น ไปตามแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินที่ต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมายกฎระเบียบ ข้อบังคับในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชน จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ควบคู่กับการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ สำหรับกรณีการนำผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าผู้ต้องขังจะรักษาตัวภายนอกเรือนจำ แต่ยังต้องปฏิบัติตัวตามกฎและระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังในเรือนจำ หากจะกระทำการอะไรต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ไม่มีอภิสิทธิ์แต่อย่างใด การปฏิบัติตัวของผู้ต้องขังที่ออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกจึงไม่แตกต่างจากการควบคุมอยู่ในเรือนจำนายกฯเชิญ ปธน.เยอรมนีเยือนไทยวันเดียวกัน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เตรียมต้อนรับนายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ภริยา และคณะ ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ มกราคมตามคำเชิญนายกฯ โดยมีกำหนดพบหารือทวิภาคี พร้อมร่วมกันเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือ ๒ ฉบับ ด้านระบบรางและวิทยาศาสตร์ ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานวโรกาสให้ประธานาธิบดีฯ พร้อมภริยา เข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทั้งนี้ นับเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกนับตั้งแต่นายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อปี ๖๕ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๐ ปี ซึ่งเคยมีการเยือนประเทศไทยในระดับประธานาธิบดี และถือเป็นครั้งสำคัญในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ของผู้นำรัฐจากต่างประเทศเป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดปัจจุบัน“ภูมิธรรม” ลง จ.เลย ถกกระเช้าภูกระดึงที่ จ.เลย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน รับฟังบรรยายสรุปการศึกษาโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง พร้อมกล่าวว่า การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงเป็นปัญหาที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ทั้งคนที่อยากเข้าไปชมธรรมชาติเหมือนคนอื่น แต่มีปัญหาสุขภาพร่างกาย และบางส่วนคัดค้าน เพราะให้ความสำคัญกับธรรมชาติ จึงต้องคุยกันให้ตกผลึก ไม่อย่างนั้นจะเป็นปัญหา โดยขอให้รับฟังเสียงส่วนน้อยด้วยแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องการกระเช้าขึ้นภูกระดึง จะต้องศึกษาสภาพแวดล้อมควบคู่กับการออกแบบ ที่รัฐบาลนี้ให้นโยบายชัดเจนแล้วในการประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.หนองบัวลำภู อนุมัติงบประมาณ ๒๘ ล้านบาท เพื่อไปศึกษาให้จบและออกแบบ และในฐานะที่มารับฟังปัญหาจะช่วยผลักดันให้ได้โดยเร็วที่สุด จะได้จบไม่ยืดเยื้อ ถ้าสร้างจะต้องทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด ต้องบริหารจัดการให้ดี ต้องดูว่าตอบโจทย์สร้างเศรษฐกิจให้คนในชุมชนและจังหวัดอย่างไร จะสร้างมลภาวะเยอะหรือไม่ จะช่วยลูกหาบอย่างไร หากสร้างจุดสมดุลให้ทุกฝ่าย การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงน่าจะไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่ จากนั้นนายภูมิธรรมพบปะประชาชนที่มาต้อนรับและสนับสนุนสร้างกระเช้าภูกระดึงอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
"๓ งูเห่า" แหกมติ "ไทยสร้างไทย" เล็งแช่แข็ง เลือก-ให้รัฐบาล ผ่านงบฯ ปี ๖๗
เรื่องที่เกี่ยวข้อง