วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

๖๕ วัน ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ มูลหนี้ ๙,๕๐๔ ล้าน ไกล่เกลี่ยแล้ว ๑๑,๑๔๙ ราย

ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ครบ ๖๕ วัน มูลหนี้ ๙,๕๐๔ ล้าน ลงทะเบียนแล้วกว่า ๑.๓๘ แสนราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๑,๑๔๙ ราย มูลหนี้ลดลงกว่า ๖๓๕ ล้านบาท ย้ำ แก้ปัญหาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ลงทะเบียนได้ถึง ๒๙ ก.พ. ๖๗วันที่ ๓ ก.พ. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นวันที่ ๖๕ นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นมา โดยจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. มีมูลหนี้รวม ๙,๕๐๔.๖๗๗ ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๑๓๘,๑๙๒ ราย เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ๑๑๖,๕๕๗ ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ๒๑,๖๓๕ ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ ๑๐๖,๖๒๓ รายมีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๕ ลำดับแรก ๑. กรุงเทพมหานคร ยังคงมากที่สุด มีผู้ลงทะเบียน ๑๑,๐๙๑ ราย เจ้าหนี้ ๗,๗๒๖ ราย มูลหนี้ ๘๓๕.๘๙๘ ล้านบาท ๒. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน ๕,๖๔๐ ราย เจ้าหนี้ ๕,๑๗๐ ราย มูลหนี้ ๓๘๐.๖๒๘ ล้านบาท ๓. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน ๕,๑๓๓ ราย เจ้าหนี้ ๔,๐๕๙ ราย มูลหนี้ ๓๓๖.๗๘๑ ล้านบาท ๔. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน ๔,๘๐๓ ราย เจ้าหนี้ ๓,๖๙๙ ราย มูลหนี้ ๔๐๔.๐๘๑ ล้านบาท ๕. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน ๓,๖๒๗ ราย เจ้าหนี้ ๒,๕๑๘ ราย มูลหนี้ ๓๑๒.๓๖๔ ล้านบาทขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด ๕ ลำดับแรก ได้แก่ ๑. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน ๒๒๒ ราย เจ้าหนี้ ๒๓๓ ราย มูลหนี้ ๑๔.๐๖๙ ล้านบาท ๒. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน ๓๑๗ ราย เจ้าหนี้ ๒๓๕ ราย มูลหนี้ ๒๑.๙๒๙ ล้านบาท ๓. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน ๓๖๕ ราย เจ้าหนี้ ๒๘๒ ราย มูลหนี้ ๑๓.๑๔๔ ล้านบาท ๔. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน ๔๔๓ ราย เจ้าหนี้ ๓๓๐ ราย มูลหนี้ ๒๐.๑๑๘ ล้านบาท และ ๕. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน ๔๖๑ ราย เจ้าหนี้ ๓๔๕ ราย มูลหนี้ ๒๓.๗๙๕ ล้านบาท“สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศพบว่า มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๑๘,๕๐๑ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๑,๑๔๙ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย ๑,๗๕๘.๔๑๕ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๑,๑๒๒.๕๓๒ ล้านบาท มูลหนี้ลดลง ๖๓๕.๘๘๓ ล้านบาท และจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์เช่นเดิม โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ๓,๑๕๒ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๒๙๕ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย ๒๕๒.๗๓๓ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๒๖.๐๖๔ ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง ๒๒๖.๖๖๙ ล้านบาท สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งสำนวนแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ มีการดำเนินคดีไปแล้ว ๒๕๖ คดี ใน ๓๓ จังหวัด” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวนายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ฝ่ายปกครองจะได้เชิญทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอม แต่หากการไกล่เกลี่ยไม่เป็นผล ก็ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปแก้ปัญหา นอกจากนี้ กลไกกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ได้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และธนาคารของรัฐในพื้นที่ เข้าร่วมให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ได้อย่างครบวงจร พร้อมทั้งจัดหาแหล่งทุน แหล่งงาน แหล่งอาชีพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างเป็นรูปธรรม”กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอได้ใช้กลไกระดับพื้นที่ทำการประชาสัมพันธ์ในเรื่องการลงทะเบียนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้เข้ามาลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือจากทางภาครัฐอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ภายในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ รวมทั้งให้ทุกพื้นที่ดำเนินกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินทันทีที่ได้รับการลงทะเบียน เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนไว้ได้รับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำทุกอำเภอได้ดำเนินการจัดกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” อย่างน้อยเดือนละ ๔ ครั้ง หนุนเสริมเพิ่มเติมจากตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัดที่มีการจัดเดือนละ ๑ ครั้ง โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการเงิน เพื่อนำเข้าสู่หนี้ในระบบควบคู่กับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน โดยประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ สามารถลงทะเบียนได้ทั้งทางระบบออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือลงทะเบียนได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. ๑๕๖๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย