จีนวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ อย่างรุนแรงต่อการที่สหรัฐฯ ใช้สิทธิวีโต้ญัตติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในสงครามอิสราเอล-ฮามาสจีนกล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่ง “ข้อความที่ไม่ถูกต้อง” และเท่ากับเป็นการอนุญาตให้การสังหารหมู่ยังคงดำเนินต่อไป ด้านสหรัฐฯ กล่าวว่ามติที่แอลจีเรียเป็นผู้เสนอ จะเป็นอันตรายต่อการเจรจาเพื่อยุติสงคราม และได้เสนอมติหยุดยิงชั่วคราวซึ่งเตือนอิสราเอลมิให้รุกรานเมืองราฟาห์ ขณะที่หลายฝ่ายประณามการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ขัดขวางมติของแอลจีเรีย ในขณะที่การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในฉนวนกาซา โดยมติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ๑๓ ชาติจากทั้งหมด ๑๕ ชาติ โดยสหราชอาณาจักรงดออกเสียงด้านนางจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติกล่าวว่า การกล่าวอ้างที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะสามารถแทรกแซงการเจรจาทางการทูตที่กำลังดำเนินอยู่นั้นไม่อาจป้องกันได้โดยสิ้นเชิง “เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ภาคพื้นดิน การหลีกเลี่ยงการหยุดยิงทันที ก็ไม่ต่างจากการอนุญาตให้มีการสังหารหมู่ต่อไป” เขากล่าวเสริมว่า “ความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นกำลังทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามในวงกว้าง มีเพียงการดับไฟแห่งสงครามในฉนวนกาซาเท่านั้นที่เราจะสามารถป้องกันไม่ให้ไฟนรกกลืนกินทั่วทั้งภูมิภาคได้”อามาร์ เบนด์จามา ทูตแอลจีเรียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “น่าเสียดายที่คณะมนตรีความมั่นคงประสบความล้มเหลวอีกครั้ง” และกล่าวว่า “จงตรวจสอบมโนธรรมของคุณ ว่าประวัติศาสตร์จะตัดสินคุณอย่างไร”พันธมิตรของสหรัฐฯ ก็วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวดังกล่าวเช่นกัน โดยนายนิโคลัส เดอ ริเวียร์ ทูตฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ ขอแสดงความเสียใจที่มติดังกล่าวไม่ได้รับการรับรอง “เนื่องจากสถานการณ์ที่เลวร้ายในพื้นที่”ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที ในขณะที่การเจรจาระหว่างฮามาสและอิสราเอลยังดำเนินต่อไป ขณะที่นางบาร์บารา วูดเวิร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร กล่าวว่าแผนดังกล่าวอาจทำให้การหยุดยิงเป็นไปได้น้อยลง และเป็นอันตรายต่อการเจรจาอิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีในฉนวนกาซาภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๑,๒๐๐ ศพ และอีกกว่า ๒๔๐ รายถูกจับเป็นตัวประกัน ด้านกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสในดินแดนปาเลสไตน์ กล่าวว่าปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า ๒๙,๐๐๐ ศพในฉนวนกาซา ร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราว “โดยเร็วที่สุด” และมีเงื่อนไขว่าตัวประกันทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว รวมถึงการเรียกร้องให้ขจัดอุปสรรคในการให้ความช่วยเหลือในฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้หลีกเลี่ยงคำว่า “หยุดยิง” ระหว่างการลงมติขององค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับสงครามดังกล่าว แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะลงมติต่อข้อเสนอดังกล่าวเมื่อใด สหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่าการโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ในเมืองราฟาห์จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนและการพลัดถิ่นเพิ่มอีก ซึ่งรวมถึงในประเทศเพื่อนบ้าน โดยอ้างถึงอียิปต์อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า เขามุ่งมั่นที่จะทำสงครามต่อไปจนกว่าเราจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมด และไม่มีแรงกดดันใดที่จะเปลี่ยนแปลงได้ชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นมากกว่าหนึ่งล้านคน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรในฉนวนกาซา อาศัยอยู่ในเมืองราฟาห์ โดยผู้พลัดถิ่นจำนวนมากอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือเต็นท์ที่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ทั้งยังขาดแคลนน้ำดื่มหรืออาหารที่ปลอดภัยสหประชาชาติได้ออกคำเตือนว่าการโจมตีของอิสราเอลตามแผนอาจนำไปสู่การสังหารหมู่ ก่อนหน้านี้กองทัพอิสราเอลยืนกรานว่ามุ่งเป้าไปที่นักรบฮามาสเท่านั้น นายเบนนี แกนต์ซ สมาชิกคณะรัฐมนตรีฝ่ายสงครามของอิสราเอลเตือนว่า การโจมตีภาคพื้นดินจะเกิดขึ้น เว้นแต่กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมดภายในวันที่ ๑๐ มีนาคม.ที่มา : BBCติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign