วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

กมธ.ตำรวจได้ฤกษ์ ๑๒ มกราคมดูงาน รพ.ตำรวจหา "ทักษิณ" บี้ หากไม่พบต้องแจงสังคม

10 ม.ค. 2024
52

กมธ.ตร. สภาฯ ได้ฤกษ์ดูงาน รพ.ตร. หา “ทักษิณ” ๑๒ มกราคมจ่อ เปรียบเทียบการรักษา ผู้ต้องขังอื่น กับ “ทักษิณ” บี้ “อธิบดีกรมราชทัณฑ์” จะเป็นจำเลยสังคมทั้งชีวิต หากไม่พบ “ทักษิณ” รักษาตัว รพ.ตร. ต้องแจงสังคมเมื่อเวลา ๑๐.๑๕ น. วันที่ ๑๐ ม.ค. ๒๕๖๗ รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการนำคณะกมธ.ฯ ไปศึกษาดูงานที่บริเวณชั้น๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือตอบรับจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์(สบ.๘) โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลตำรวจ ให้ กมธ.ตำรวจ สภาฯ เดินทางไปถึงในเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๒ ม.ค. ๒๕๖๗ และมอบหมายให้พ.ต.อ.สฤษติ์ พุทธพงษ์ศิริพร ผู้กำกับการฝ่ายยุทธศาสตร์ กองบังคับการอำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้ประสานงานในการศึกษาดูงาน ทั้งนี้ ในการเริ่มต้นศึกษาดูงานของ กมธ.ฯ จะเริ่มที่อาคารศรียานนท์ โรงพยาบาลตำรวจ เป็นที่แรก หลังจากนั้นจะมีการสอบถามขั้นตอนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มาเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลตำรวจ มีขั้นตอนรับเข้าอย่างไร การดูแลผู้ต้องขังมีวิธีการอย่างไร มีการเข้าเวรของเจ้าหน้าที่ทุกกี่ชั่วโมง บันทึกภาพกี่ชั่วโมง นอกจากนี้กมธ.ฯ จะได้สอบถามนักโทษทุกคนที่อยู่ที่นั่น รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยเมื่อถามว่า จะให้สื่อมวลชนติดตามไปทำข่าวด้วยหรือไม่ ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวว่า สื่อมวลชนสามารถมารอทำข่าวได้บริเวณด้านหน้า เนื่องจากโรงพยาบาลตำรวจ อนุญาตให้เฉพาะ กมธ.ฯเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปประชุมในห้องประชุม หลังจากนั้น เมื่อทราบผล เราจะมาแถลงให้ทราบอีกครั้งต่อไปเมื่อถามอีกว่า เป้าหมายของ กมธ.ตำรวจ สภาฯ เพื่อไปติดตามนายทักษิณว่า ยังอยู่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจเท่านั้นหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า เราต้องใช้คำว่า ไปดูผู้ต้องขังคนอื่นๆด้วย และศึกษาวิธีการดูแลผู้ต้องขังคนอื่น กับนายทักษิณ เหมือนกันหรือไม่ มีความแตกต่างกันอย่างไร ผู้ต้องขังคนอื่นพักอยู่ห้องไหน ทำไมนายทักษิณ ถึงพักอยู่ที่ชั้น ๑๔ เราต้องดูข้อแตกต่างตรงนี้เมื่อถามย้ำว่า หากพบว่า มีการเอื้อต่ออภิสิทธิ์ชนจริง กมธ.ตำรวจ จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายชัยชนะ กล่าวว่า จะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายที่มีอยู่ว่า เอื้อหรือไม่ ระเบียบข้อไหนที่รองรับ เหมือนที่ตนเคยกล่าวไปในการรักษาตัวของผู้ต้องขัง ใช้งบประมาณของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และทางกรมราชทัณฑ์ เคยระบุว่า หากรักษาเกินงบฯ ของ สปสช. สามารถใช้เงินส่วนตัวได้ ตนจึงแจ้งให้นำระเบียบมาดู เราได้ทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ให้ส่งเอกสารที่เราขอไปทั้งหมด และเราต้องดูเอกสารตัวนี้ก่อน ส่วนการสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า อาการป่วย ป่วยแค่ไหน ตรงนี้ตอบไม่ได้อยู่แล้ว เพราะทางแพทยสภา ชี้แจงไว้ชัดเจนว่า เป็นกฎหมายที่สงวนไว้เฉพาะผู้ป่วย แต่โรคของผู้ป่วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคปอด สามารถบอกได้ แต่ป่วยแค่ไหน ไม่สามารถบอกได้ ประเด็น คือ ต้องดูที่ขั้นตอนว่า มีนักโทษกี่คนที่ไปรักษาตัวที่ชั้น ๑๔ ห้องไหนบ้าง การปฏิบัติเป็นอย่างไร ตรงนี้ตนคิดว่า เป็นกุญแจสำคัญมากกว่า“ผมขอฝากไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ตอบกลับในหนังสือมา ท่านคิดทบทวนให้ดี ท่านต้องให้ความร่วมมือกับ กมธ.ตำรวจ ท่านตอบมาว่า ท่านมีความเห็นอย่างไร ขณะนี้โรงพยาบาลตำรวจตอบมาแล้ว แต่ท่านเป็นเจ้าของไข้ของผู้ต้องขัง ที่ไปรักษาตัว แต่ท่านยังไม่ตอบ มิเช่นนั้น ท่านจะเป็นจำเลยของสังคมแบบนี้ไปตลอดชีวิต” ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะมีโอกาสที่เจอกับนักโทษทุกคนหรือไม่ ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าวว่า ต้องดูระเบียบโรงพยาบาลตำรวจว่า เมื่อเราเข้าไปแล้ว เข้าให้เราเข้าไปแค่ไหน เช่น ให้ดูตัวตนเลยหรือไม่ หรือให้ดูผ่านกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวีที่บันทึกในห้องนั้น ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลตำรวจ ตนคิดว่า เมื่อกมธ.ฯเดินทางไปถึง จะมีการแลกเปลี่ยนสนทนาเรื่องนี้กันก่อน จากนั้นจะลงพื้นที่ไปดูข้อเท็จจริงเมื่อถามย้ำว่า หากวันที่ ๑๒ มกราคมไม่เจอคนที่ชั้น ๑๔ จะทำหนังสือไปจนกว่าจะเจอหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ถ้าไม่อยู่จริง โรงพยาบาลตำรวจต้องตอบสังคมให้ได้ว่า อยู่ที่ไหน หรือกรมราชทัณฑ์อยู่หรือไม่ แต่ถ้าอยู่จริง เราก็ต้องบอกสังคมว่า เราเห็นแล้วว่าอยู่อย่างไร วันนี้ตนคาใจกรมราชทัณฑ์ที่ยังไม่ตอบหนังสือ ถึงแม้กรมราชทัณฑ์ไม่ตอบ แต่โรงพยาบาลตำรวจ อนุญาตแล้ว เราก็ไปได้ ต้องของคุณ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และโรงพยาบาลตำรวจที่ให้ความร่วมมือกับกมธ.ฯ ส่วนถ้าหากพบนายทักษิณจะพูดว่าอย่างไรนั้น เอาไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ถ้าพูดตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าติดตาม