“โรม” ยกคณะ กมธ.ความมั่นคง หารือกับ ผบ.ทร. เข้าใจกองทัพเรืออยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ง่าย หลังเกิดเหตุเรือหลวงคีรีรัฐ-เรือหลวงชลบุรี ยัน มาเพื่อช่วย ไม่ใช่จ้องจับผิด ขอรอฟังผลสรุปเรื่องต่างๆ ก่อนวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๗ นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ เดินทางมาหารือกับ พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (นันทอุทยาน) นายรังสิมันต์ ระบุว่า วันนี้กองทัพเรืออยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ง่ายเท่าไร ต้องพูดตรงไปตรงมา คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะมาพูดคุยกัน จะได้สร้างความร่วมมือ ร่วมกันพัฒนา และยกระดับการทำงาน แก้ปัญหาร่วมกัน คิดว่าการทำหน้าที่ของกรรมาธิการฯ ในฐานะกลไกของสภาฯ เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจทางกองทัพ และทางกองทัพก็ต้องเข้าใจการทำงานของสภาฯ คิดว่าจะนำไปสู่การสร้างบรรยากาศที่ดี จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีข้อถกเถียงหลายเรื่อง เช่น เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ เราก็ต้องพูดคุยกัน ส่วนเรื่องการของบประมาณจัดหาเรือฟริเกต ที่ไม่ผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๖๗ ก็ต้องคุยรายละเอียด เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (๑๔ มีนาคม ๒๕๖๗) ของเรือหลวงคีรีรัฐกับเรือหลวงชลบุรี เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น กองทัพเรือเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เราต้องพูดคุยกันว่าจะมีส่วนไหนที่จะสนับสนุนกันและกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีลักษณะเหตุแบบนี้อีก วันนี้ตั้งใจที่จะสร้างบรรยากาศของการพูดคุยและแก้ปัญหา แน่นอนว่าเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ เปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้ แต่สามารถมาร่วมมือกันทำหน้าที่เพื่อกองทัพเรือให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพต่อไป โดยการหารือเป็นกำหนดเวลาที่มีอยู่เดิมแล้ว ไม่ใช่มาเพราะเหตุการณ์เมื่อวาน แต่ก็ต้องมีการพูดคุย อยากให้มองว่าการมาครั้งนี้มาคุยเพื่อทำงานร่วมกัน และคิดว่ากองทัพเรือก็เป็นเหล่าสุดท้ายแล้ว เมื่อถามว่าโครงการจัดหาเรือฟริเกต ที่ถูก กมธ.งบประมาณ ๒๕๖๗ ตีตกไปแล้ว ในส่วนของ กมธ.ความมั่นคงฯ จะสามารถพูดให้ทางกองทัพเรือได้หรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลก็ดูเหมือนจะสนับสนุน ต่างจากพรรคเพื่อไทย นายรังสิมันต์ กล่าวตอบว่า ตนเองไม่สามารถแสดงจุดยืนงบได้ เพราะมาในฐานะกรรมาธิการที่มีหลายพรรคการเมือง แต่เราต้องฟังทุกฝ่าย ถ้าพูดถึงการพัฒนากองทัพอย่างไร ก็ต้องพูดถึงขีดความสามารถในการรบ และในสถานการณ์ปัจจุบันมีความท้าทาย แต่เราจะสร้างขีดความสามารถในการรบอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย สิ่งนี้ต้องมาพูดคุยกัน อย่างที่มีการพูดถึงบ่อยๆ เช่นกันการถ่ายทอดเทคโนโลยีประกอบ หรือสร้างภายในประเทศ เป็นออปชันที่น่าสนใจ คิดว่าแนวทางเหล่านี้จะได้คุยกับกองทัพเรือว่าเห็นอย่างไร ซึ่งการกำหนดผลลัพธ์ของการสู้รบ เป็นแนวทางที่ต้องพูดคุยกัน “ยืนยันว่าวันนี้เรามองหาการทำงานร่วมกัน ขอเรียกว่าเป็นการมาช่วยกองทัพมากกว่า หลายคนบอกว่าผมมาจ้องจับผิด แต่แน่นอนว่าเราต้องถามและสังคมอยากจะรู้ เชื่อว่าวิธีแบบนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับกรรมาธิการและกองทัพเอง เป็นการให้คำตอบกับสังคมว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ไปทางไหน ผมเข้าใจพี่น้องกองทัพว่าที่ผ่านมายากลำบากจริงๆ มีความท้าทายหลายอย่าง เราก็ให้กำลังใจและพูดคุยต่อไป”ส่วนที่ขณะนี้โซเชียลตั้งข้อวิจารณ์ว่า ในรอบ ๑ ปีกว่า กองทัพเรือขาดมาตรฐานการปฏิบัติงาน เกิดหลายเหตุการณ์ร้ายแรง ทั้งเรือหลวงล่ม เรือชนท่าเทียบ และเรือยิงใส่กันเองนั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า ขอไม่คอมเมนต์ก่อน ต้องรอฟังเหตุผลจากกองทัพเรือ และคำถามต่างๆ ที่โลกโซเชียลได้ถาม คิดว่าจะพูดคุยกันอย่างแน่นอน และเราจะฟังทางกองทัพว่าเขาพูดอย่างไร และสิ่งที่จะทำต่อไปจะทำอย่างไร ไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ.
กมธ.มั่นคง ถก ผบ.ทร. “โรม” เข้าใจกองทัพเรืออยู่ในช่วงไม่ง่าย ย้ำ มาเพื่อช่วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง