นายทหารโทรศัพท์แจ้งตำรวจ วัยรุ่นบางเสาธงตั้งวงดื่มสุราเสียงดัง พอมาเตือนกลุ่มขี้เมาเบาเสียง พอตำรวจไปเสียงดังเหมือนเดิม เป็นอย่างนี้ถึง ๒ ครั้ง ทนไม่ไหว จึงเหน็บปืนใส่กระเป๋าเดินลงมาเตือน แต่เกิดปากเสียง ยื้อแย่ง ปืนลั่นใส่ มีคนเจ็บ ๑ ราย ตำรวจแจ้งข้อหาพยายามฆ่าจากเหตุเมื่อเวลา ๒๑.๐๐ น. วันที่ ๑๖ มี.ค. ๒๕๖๗ ร.ต.อ.วรกฤต พาเรือง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าหอพักเรือนสมประสงค์ เลขที่ ๔/๑๖๕ ซอย ฝ.๕ หมู่ที่ ๑ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อม พยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุ แต่ไม่เป็นผล เจ้าตัวยังคงเก็บตัวพร้อมทั้งอาวุธปืนประจำกายในหอพัก จึงติดต่อญาติช่วยเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมไม่นาน พบนายทหารรายนี้แต่งกายเครื่องแบบชุดทหารเต็มยศ เดินออกมาจากบ้านพักเพื่อมอบตัว พร้อมกับยกมือไหว้ผู้กำกับ และมอบกระเป๋าสะพายข้างที่ภายในมีอาวุธปืนขนาด ๙ มม. ที่ใช้ก่อเหตุ มอบให้กับทางผู้กำกับ ก่อนจะรีบขึ้นรถสายตรวจไปยัง สภ.บางเสาธง ทันทีจากการตรวจสอบพื้นที่โต๊ะหน้าหอพักที่ตั้งวงดื่มสุรา พบเพียงคราบเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย ๑ ราย ทางกลุ่มเพื่อนได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ๕ ไปก่อนหน้านี้ ตรวจสอบทราบชื่อนายศุภชัย ยั่งยืน อายุ ๒๖ ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ๙ มม. วิถีกระสุนเข้าที่สะบักซ้ายทะลุหน้าท้องจำนวน ๑ นัด แพทย์พยาบาลทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ๓ สอบถามนายต้อม อายุ ๓๒ ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองและผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งกลุ่มเพื่อนที่พักอยู่ในตึก รวม ๕-๖ คน ได้ตั้งวงดื่มสุราที่หน้าตึก โดยเปิดเพลงกันตามปกติ ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นนายทหารและเป็นเจ้าของตึกฝั่งตรงข้าม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังเลี้ยงเหล้าพวกตน ได้เดินเข้ามาหา ไม่พูดอะไร ตรงเข้ามาใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ๑ คน ซึ่งตนก็สอบถามว่ามายิงพวกตนทำไม ไม่ได้มีปัญหาอะไร พอยิงเสร็จเขาก็เดินกลับขึ้นตึกไป โดยก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุยังเคยใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า และยิงใส่กระถางต้นไม้ เนื่องจากไม่พอใจคนงานชาวพม่าที่ส่งเสียงดัง ขณะที่นายหนึ่ง อายุ ๒๙ ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บอีกคน กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บอาการปลอดภัยแล้ว ถูกลูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณหน้าท้องฝั่งซ้ายทะลุออกด้านหลัง กระสุนไม่ฝังใน แพทย์ทำการช่วยเหลือ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ๓ ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางเสาธง พบกับเรืออากาศโทธนิตย์ศักดิ์ อายุ ๖๐ ปี นายทหารผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุก่อนจะเกิดเรื่อง ประมาณสองทุ่มของทุกวันตนเองจะต้องทานยาคลายเครียด และยากล่อมประสาทตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งทานมากว่าสิบปีแล้ว อันเนื่องมาจากตนเองและครอบครัวต้องเจอปัญหาสภาพแวดล้อมจากปัญหาเรื่องวงสุราทั้งไทยและต่างด้าว พากันดื่มกินและส่งเสียงดังเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัวจะพากันพักผ่อนก็ไม่ได้พัก เพราะเสียงดังมาตลอดกว่าสิบปี จนตนเองเกิดภาวะเครียดสะสม จนต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ.และแพทย์ให้ทานยามาตลอด พอมาวันเกิดเหตุ วงสุราเสียงดังตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็น ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่นาน คงจะแยกย้ายหรือเบาเสียง กระทั่งเกือบสามทุ่มก็ยังเสียงดัง ตนเองจึงให้ภรรยาโทรแจ้งตำรวจให้มาตักเตือน โทรแจ้งตำรวจถึง ๒ ครั้ง ตำรวจมาเตือนจริง แต่พอตำรวจไปก็กลับมาเสียงดังเหมือนเดิม ตนเองซึ่งพอทานยาไป ก็ด้วยฤทธิ์ยาที่ค่อนข้างง่วง อยากจะพักผ่อน แต่พอเตือนแล้วไม่ฟังไม่หยุดเสียงดัง ตนจึงตั้งใจออกมาเพื่อเตือนและขอให้ลดเสียง แต่ด้วยวงสุรามีคนจำนวนมาก จึงต้องเอาปืนติดตัวออกมาเพื่อป้องกันตัว และไม่มีเจตนาที่จะนำปืนออกมาก่อเหตุแต่อย่างใด จังหวะที่ออกไปยืนพูดคุย ปรากฏว่ากลุ่มวงสุราพากันเข้ามาประชิดตัวเพื่อแย่งปืน จนเกิดการยื้อแย่งปืน และปืนลั่นไป ๑ นัด หลังสิ้นเสียงปืน ภรรยาจึงพาตนเองกลับเข้าบ้าน เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยฤทธิ์ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงมาก จึงเข้าไปพักรอในบ้าน และตั้งใจจะมามอบตัวในวันรุ่งขึ้น แต่มาทราบภายหลังว่าผู้กำกับมาเอง ด้วยความเกรงใจผู้กำกับ จึงเดินออกมามอบตัวด้วยความเต็มใจ ส่วนข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะนั้น ตนปฏิเสธในข้อหาพยายามฆ่าและไม่มีเจตนาก่อเหตุ หลังจากนี้ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องรอนายทหารรัฐธรรมนูญมารับตัวไปสอบปากคำ
นายทหารรำคาญวงสุราหน้าบ้าน พกปืนไปถาม ลั่นใส่พุงขี้เมา เจ็บ ๑
เรื่องที่เกี่ยวข้อง