ผวจ.สุพรรณบุรี ประสานหน่วยงานช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อโรงงานพลุระเบิด เผยคนที่อยู่ในโรงงานประมาณ ๒๐ คน เสียชีวิตทั้งหมด แต่ยังไม่รู้ศพไหนคือใคร ส่วนเหตุที่ได้รับการต่อใบอนุญาต แม้โรงงานเคยเกิดระเบิดมาแล้ว เพราะเป็นการขอปีต่อปี ปีนี้แม่ขอ ปีต่อไปลูกขอ วันที่ ๑๗ ม.ค. ๖๗ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี กล่าวถึงเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากว่า วันนี้เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. ที่บริเวณทุ่งนา หมู่ ๓ ตำบลศาลาขาว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ได้เกิดเหตุโรงงานที่ทำเรื่องพลุดอกไม้ไฟระเบิด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ EOD เจ้าหน้าที่ของท้องถิ่น ทางเทศบาล และอบต.ใกล้เคียงได้มาดำเนินการระงับเหตุ ตอนนี้ไฟได้สงบลงแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าภายในบริเวณที่เกิดเหตุจะมีพวกวัตถุเกี่ยวกับดินปืน หรือมีอะไรอยู่ตรงไหนอีก เพราะอาจจะเกิดเหตุอันตรายต่อคนที่เกี่ยวข้องได้ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการเข้าสำรวจพื้นที่ สำหรับจำนวนผู้ที่เข้าไปทำงานในวันนี้ยังไม่แน่ชัด แต่มีประมาณ ๒๐ คน ซึ่งมาจากการพูดคุยของเจ้าหน้าที่ เพราะแต่ละวันคนที่ว่างก็จะเข้าไปทำงาน น่าจะเป็นลูกจ้างรายวัน บางวันมาทำงานเยอะ บางวันน้อย แต่ชื่อที่ออกมาตอนนี้มีประมาณ ๒๐ ราย ซึ่งเรายังไม่พบผู้ที่รอดชีวิตที่อยู่ภายในโรงงานออกมา ตอนนี้เรายังเข้าไปไม่ได้มีแต่เจ้าหน้าที่ EOD เข้าไปได้เท่านั้น ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมเรื่องของการช่วยเหลือสำหรับกรณีผู้เสียชีวิต หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทาง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาทางสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี มีระเบียบเกี่ยวข้องกับการเยียวยากับผู้ที่เสียชีวิตในกรณีที่เกิดเหตุแบบนี้tt ttจากการตรวจสอบแล้วโรงงานนี้ได้ขออนุญาตต่อนายทะเบียนอำเภอเมืองสุพรรณบุรีอย่างถูกต้อง เป็นใบอนุญาตแบบปีต่อปี การขออนุญาตของผู้ประกอบการรายนี้เป็นการทำแบบเครือญาติ ซึ่งจุดที่เคยเกิดเหตุเมื่อประมาณ ๒ ปีที่แล้วก็อยู่ตรงนี้ ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับทางอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ถ้าแบบนี้คนที่ขออนุญาตฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมีการพิจารณาอย่างเข้มงวด และต้องมีการตรวจสอบ เอามาใช้ประกอบการพิจารณาในการขออนุญาตในครั้งต่อไป ต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น เพราะตอนเขามาขอเป็นแบบเครือญาต คือปีนี้ลูกขอ ปีหน้าแม่ขอเป็นใบอนุญาตแบบปีต่อปี จึงต้องมีการตรวจสอบแบบเข้มข้น โดยโรงงานนี้อยู่กลางทุ่งนา จึงไม่ทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย มีแต่คนที่เข้าไปอยู่ในโรงงานที่เสียชีวิตทั้งหมด “ต่อไปจะมีการกำชับนายทะเบียนท้องที่ในเรื่องของการตรวจตามหลักเกณฑ์ความปลอดภัย ซึ่งบางทีหลักเกณฑ์นี้เขาทำตามที่กฎหมายกำหนด แต่การปฏิบัติต่อไปจะต้องมีการกำชับเจ้าหน้าที่ของทางอำเภอ และท้องถิ่น ในการตรวจสอบให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งแต่ผมมาอยู่ที่สุพรรณบุรีครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมร่างผู้เสียชีวิตไปไว้ที่ วัดโรงช้าง หมู่ ๒ ต.ศาลาขาว เพื่อตรวจพิสูจน์ว่าเป็นใครบ้าง”.
