รวบแล้วโจรผมเกรียนบุกเดี่ยวชิงทองหนัก ๑๐ บาทในร้านทองเมืองปทุมธานี ชุดสืบสวนใช้เวลาแค่วันเดียวตามแกะรอยจากภาพวงจรปิด ก่อนตามไปตะครุบได้ในตลาด อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา สอบพบเป็นพลทหารอาสาประจำ ศรภ. และเป็นว่าที่เจ้าบ่าว สารภาพติดหนี้พนันบอล แถมนำเงินที่เตรียมไว้เป็นสินสอดสู่ขอว่าที่เจ้าสาวสิ้นปีนี้ไปถลุงจนหมด ตัดสินใจบุกชิงสร้อยทองหนัก ๕ บาท ๒ เส้น เอาไปขายแต่งเมีย สุดท้ายหนีไม่รอดtttt ttttttttconst jwplayer๑ = jwplayer(“cover_jwplayer_yODvPlyy”).setup({tttt “playlist”: “https://cdn.jwplayer.com/v๒/media/yODvPlyy” tttt});ttttจากเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายตัดผมเกรียนบุกเดี่ยวเข้าไปชิงสร้อยคอทองคำหนัก ๕ บาทรวม ๒ เส้น น้ำหนัก ๑๐ บาท ภายในห้างทองเอเอ เยาวราช เลขที่ ๑๓๖/๕ หมู่ ๒ ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี เมื่อตอนบ่ายวันที่ ๑๓ ธ.ค. ที่ผ่านมา อาศัยช่วงพนักงานหญิง ๓ คนให้บริการอยู่ที่เคาน์เตอร์ทำทีเข้าไปติดต่อสอบถามราคาและขอดูทองคำแท่งหนัก ๑๐ บาท และสร้อยทองหนัก ๕ บาท ก่อนฉวยจังหวะพนักงานเปิดประตูอัตโนมัติให้ลูกค้าอีกคนที่ซื้อทองเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออก รีบคว้าทองของกลางเผ่นหนีลอยนวลในที่สุดตำรวจใช้แค่วันเดียวตามรวบคนร้ายเป็นพลทหารอาสาขณะเผ่นหนีกลับต่างจังหวัด โดยช่วงสายวันที่ ๑๔ ธ.ค. พ.ต.อ.สุวิทย์ นันทกอบกุล ผกก.สภ.สวนพริกไทย อ.เมืองปทุมธานี สั่งการให้ พ.ต.ท.อดิศร ชาวเมือง รอง ผกก.สส.สภ.สวนพริกไทย นำกำลังประสานตำรวจสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี ติดตามจับกุมคนร้ายบุกชิงทอง กระทั่งพบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า ครอส สีขาว ทะเบียน ๑ ขอ ๗๘๕๙ กรุงเทพ มหานคร ก่อนตามไปจับกุมคนร้ายได้บริเวณตลาดขามสะแกแสง หมู่ ๑ ต.ขามสะแกแสง อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ทราบชื่อนายวรชน เทศพันธุ์ อายุ ๓๑ ปี นำตัวกลับมาสอบสวนที่โรงพักสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองร้านดังกล่าวจริง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเงินและหนี้พนัน สาเหตุมาจากตนกำลังจะแต่งงานภายในสิ้นปีนี้ แต่นำเงินเก็บที่เตรียมไว้เป็นค่าสินสอดไปสู่ขอว่าที่เจ้าสาวเอาไปเล่นการ พนัน ฟุตบอลจนหมด แถมยังติดหนี้พนันฟุตบอลอีกด้วย หมดทางออก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปแต่งสาว ตัดสินใจเข้าไปวิ่งราวสร้อยคอทองคำก่อนนำของกลางไปขาย ๑ เส้น ส่วนอีก ๑ เส้น ใส่ไว้ที่ตัว นำเงินที่ได้มาไปใช้หนี้ เหลือเงินติดตัวจำนวนหนึ่งแหล่งข่าวจากชุดสืบสวนเปิดเผยว่า นายวรชน เทศพันธุ์ ผู้ต้องหาและว่าที่เจ้าบ่าวรายนี้ เป็นพลทหารอาสาประจำอยู่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองทัพไทย และนำรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นของแฟนสาวและว่าที่เจ้าสาวมาก่อเหตุ หลังพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย สอบสวนเสร็จแล้วได้ประสานไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยต้นสังกัดมารับตัวไปดำเนินคดีตามระเบียบของทหารต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
