วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

เที่ยงนี้ ถกญัตติด่วนขบวนเสด็จ “อัครเดช” มอง ถ้า ตำรวจดำเนินการเร็วจะไม่บานปลาย

14 ก.พ. 2024
54

โฆษกรวมไทยสร้างชาติ ยัน การก่อกวนขบวนเสด็จเกิดมาแล้วหลายครั้ง มอง ตำรวจ-ฝ่ายความมั่นคงล่าช้า ถ้าดำเนินการเร็วจะไม่บานปลาย ชี้ ประชาชนรู้ใครอยู่ในขบวนการบ้างวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ราชบุรี คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ว่า วิปรัฐบาลได้หารือญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ จะเข้าพิจารณาประมาณ ๑๒.๓๐ น. จะมีสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผู้แทนอภิปรายในรายละเอียด ซึ่งเท่าที่คุยกับวิปรัฐบาลเบื้องต้น มีทุกพรรคการเมืองส่งผู้อภิปราย และให้ความสนใจประเด็นเหล่านี้มาก เพราะประชาชนวิตกกังวลในความปลอดภัยของขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ สส.ฝ่ายรัฐบาล จะได้อธิบายเพื่อเสนอให้รัฐบาลรับไปดำเนินการสำหรับการอภิปรายในญัตติดังกล่าว หากมีสมาชิกอภิปรายนอกประเด็น ไม่เกี่ยวข้องกับญัตติ จะไม่สามารถพูดได้ เพราะสมาชิกคนใดจะนำมาอภิปราย ต้องอภิปรายตามญัตติที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสนอญัตติ ซึ่งยังไม่รู้รายละเอียดในญัตติจะเป็นอย่างไร ต้องไปฟังในห้องประชุม นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า การก่อกวนขบวนเสด็จไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมาหลายครั้ง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจและฝ่ายความมั่นคงดำเนินการล่าช้า ทำให้เกิดปัญหาลุกลาม ส่งผลให้เกิดการปะทะกัน ดังนั้น ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง รวดเร็ว และรอบคอบ พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นห่วงประเด็นนี้มาก จึงได้เสนอญัตตินี้ และตนก็ได้รับมอบหมายจากพรรคให้อภิปรายด้วย โดยจะได้รวบรวมมาตรการต่างๆ ที่สมาชิกเสนอ เพื่อรวบรวมให้รัฐบาลด้วย“ผมเห็นว่าตำรวจควรทบทวนมาตรการดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก ถ้าตำรวจดำเนินการเร็ว ปัญหาจะไม่บานปลาย ถ้าบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจและไม่เกรงกลัวใคร ยึดหลักนิติรัฐ ทุกฝ่ายจะยอมรับ ความสงบจะเกิดขึ้น ตรงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับพรรคการเมืองที่หนุนกลุ่มทะลุวัง ในยุคของข้อมูลข่าวสาร ประชาชนสามารถรับรู้ได้ว่าใครอยู่ในขบวนการบ้าง ตั้งแต่การไปมาหาสู่ การประกันตัวต่างๆ ทำให้ผู้ก่อเหตุกระทำผิดซ้ำซาก สิ่งเหล่านี้ประชาชนใช้ดุลพินิจได้”