สุดป่วน เลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียวันแรก ตำรวจรวบตัวผู้ก่อความไม่สงบในหน่วยเลือกตั้ง ๑๓ ราย จากความพยายามจุดไฟเผาหน่วยเลือกตั้ง และขว้างปาระเบิด นอกจากนี้ยังมีการเอาน้ำหมึกไปหยดในหีบลงคะแนนเว็บไซต์ข่าวมอสโก ไทมส์ ของรัสเซีย รายงานว่า เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม๒๕๖๗ ชาวรัสเซียทั่วประเทศเริ่มทยอยออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในวันแรกของการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ ประธานาธิบดีปูติน วัย ๗๑ ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ ๕ ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะคว้าชัยชนะและได้ขยายเวลาการปกครองประเทศออกไปอีก ๖ ปีคาดว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาแบบไม่มีฝ่ายใดทักท้วงการสืบต่อการครองอำนาจของปูติน เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขาต่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ หรือถูกเนรเทศ ขณะที่นายอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านต่อต้านรัฐบาล เพิ่งเสียชีวิตในทัณฑสถานในแถบอาร์กติก เมื่อเดือนที่แล้ว และผู้สังเกตการณ์แทบไม่คาดหวังเลยว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรมตำรวจรัสเซียเปิดเผยว่าการเลือกตั้งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ ๑๗ มีนาคมและจนถึงขณะนี้ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว ๑๓ รายจากความพยายามก่อเหตุเผาหน่วยเลือกตั้งอย่างน้อย ๔ แห่งทั่วประเทศโดยในกรุงมอสโก หญิงสูงอายุคนหนึ่งถูกควบคุมตัวฐานจุดไฟเผาคูหาลงคะแนน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ ในขณะที่เธอกำลังถ่ายคลิปเหตุการณ์เพลิงไหม้บนโทรศัพท์มือของเธอ ทางด้านคณะกรรมการสอบสวนกลางของมอสโกเปิดเผยว่า ได้เริ่มการสอบสวนทางอาญาต่อเหตุวางเพลิงแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งยืนยันว่า ไม่มีบัตรลงคะแนนได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ และเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งยังคงทำงานต่อไปขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก หญิงสาวคนหนึ่งก่อเหตุขว้างระเบิดมือเข้าไปในหน่วยเลือกตั้ง และถูกตำรวจควบคุมตัวทันที และในเขตปกครองตนเองคานตี แมนซี ทางตอนเหนือของรัสเซีย มีผู้หญิงคนหนึ่งพยายามจุดไฟเผาบัตรลงคะแนนพร้อมขว้างระเบิดมือในหน่วยลงคะแนน และมีรายงานการโจมตีที่คล้ายกันนี้ในหลายเมืองทางด้านเอลลา ปัมฟิโลวา หัวหน้าการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ยังเกิดเหตุ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายหนึ่งเป็นผู้หญิงทำน้ำหมึกสีเขียวหกลงไปใส่หีบลงคะแนน โดยผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวและอ้างว่าได้รับการจ้างวานมาก่อเหตุ โดยไม่ทันได้ตระหนักถึงการลงโทษทางอาญาสำหรับการก่อเหตุในหน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่รัฐระบุว่า การลงคะแนนเสียงจะดำเนินต่อไปตามปกติ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นก็ตาม.