“นายกฯ นิด” สวมชุดชาติพันธุ์ลีซู เปิดงานกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมท่องเที่ยววิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ยัน รัฐบาลให้ความสำคัญความเสมอภาคความเท่าเทียม ดันร่าง พระราชบัญญัติชาติพันธุ์ เข้าสภา สมัยประชุมหน้าเมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น. วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สวมชุดชาติพันธุ์ลีซู พร้อมสะพายย่าม เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ ๘๒ พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมด้วย ภายหลังนายกรัฐมนตรีชมการแสดงต้อนรับจากชนเผ่าพื้นเมืองลีซู จากนั้นกล่าวเปิดงานว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ซึ่งเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และมีความโดดเด่นทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ในปัจจุบัน รัฐบาลภายใต้การนำของตนกำลังอยู่ในช่วงการนำร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. …. ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในสมัยการประชุมหน้าต่อไป ไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและยอมรับความหลากหลายทางอัตลักษณ์ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม และสิทธิพื้นฐานที่พี่น้องชาวลีซูจะได้รับ อีกทั้งการจัดงานในวันนี้ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ผลักดันให้ จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองแห่งเทศกาลที่สร้างมูลค่าและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อบจ.เชียงใหม่ และคณะทำงานทุกฝ่ายที่ร่วมกันจัดงานนี้ได้อย่างเร็ว และขออวยพรให้การจัดงานในวันนี้เป็นไปด้วยดี ขอให้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู เป็นการทำกิจกรรมที่ทำให้ทุกท่านมีความสุข ในเวลาต่อมา นายกรัฐมนตรีร่วมถ่ายรูปและเซลฟี่กับชนเผ่าพื้นเมืองลีซู โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับที่พัก เพื่อพักค้างคืนและปฏิบัติภารกิจในวันพรุ่งนี้ (๑๗ มีนาคม ๒๕๖๗)
