วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

รัฐบาล ปักหมุดจ.ระนอง ดันน้ำพุร้อน เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก

โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลเดินหน้าผลักดันเมืองรอง เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก ปักหมุดจังหวัดระนองและจังหวัดใกล้เคียง สร้างเส้นทางท่องเที่ยวสายน้ำพุร้อน เพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๗ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้ายกระดับส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างจังหวัดระนองและใกล้เคียง ให้เป็นเมืองหลักของการท่องเที่ยว โดยได้พัฒนาให้เมืองรองที่มีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก (Wellness City) ตามยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจสุขภาพอันดามัน (Andaman Wellness Economic Corridor: AWC) ที่ต้องการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ พร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยขับเคลื่อนให้การเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ยุทธศาสตร์ความโดดเด่นของจังหวัดระนอง เป็นจังหวัดเมืองรองที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพราะมีแหล่งน้ำพุร้อน โดยเฉพาะ “น้ำพุร้อนรักษะวาริน” ที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเศรษฐกิจน้ำพุร้อน (Hot Spring Economy) ของไทยที่มีศักยภาพและสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นตามแนวคิดสปาทาวน์ (Spa Town) แบบยุโรป หรือออนเซ็นทาวน์ (Onsen Town) แบบญี่ปุ่น ทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวมีความตั้งใจพัฒนาและเชื่อมแหล่งน้ำพุร้อนในจังหวัดใกล้เคียงต่างๆ เพื่อสร้างเป็นเส้นทางท่องเที่ยว “สายน้ำพุร้อน” หรือ “สายเวลเนส” รวม ๗ เส้นทาง (๗ Hot Spring / Wellness Routes) ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล พร้อมสร้างองค์ความรู้ให้บุคลากรในพื้นที่มีทักษะในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้แก่นักท่องเที่ยว “ซึ่งในการประชุม ครม. สัญจร เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เยี่ยมชม “น้ำพุร้อนรักษะวาริน” และชื่นชมศักยภาพของเมืองระนอง ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกเพื่อให้เกิดการพัฒนา สร้างความพร้อมให้เมืองระนอง เป็นเมืองรอง เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลก มีจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อเพิ่มอาชีพ และกระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อีกทางหนึ่ง” นายชัย กล่าว