“ประเสริฐ” รัฐมนตรีว่าการดีอี พร้อมเดินหน้า วิสัยทัศน์ “Thailand Vision” พร้อมผลักดันประเทศไทย เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างความมั่นคงและปลอดภัย พร้อมยกระดับศักยภาพด้านการแข่งขันของประเทศวันที่ ๒๓ ก.พ. ๒๕๖๗ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision ‘IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง’ มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน เน้นย้ำถึงแนวนโยบายในการส่งเสริมการนำคลาวด์มาให้บริการประชาชน พร้อมมุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล การเสริมสร้างทักษะดิจิทัล สร้างบุคลากรด้านดิจิทัลและส่งเสริมโอกาสให้เติบโต พร้อมดึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีและได้ยกวิสัยทัศน์การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) โดยกระทรวงดีอีพ้องรับนโยบายเพื่อมุ่งสู่การเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ (The Growth Engine of Thailand) ที่เน้นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล (Human Capital) นายประเสริฐ กล่าวว่า ดีอีให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล โดยการเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาที่เหมาะสมกับตลาดแรงงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลแก่ประชาชน เพื่อให้เข้าใจเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับพื้นที่แห่งการสนับสนุนให้การวิจัยและพัฒนาร่วมกับบริษัทต่างๆ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเพิ่มกำลังคนดิจิทัลแก่ประเทศไทย “กระทรวงดีอี มีแนวนโยบายและการขับเคลื่อนตามเป้าหมายของ รัฐบาลที่มุ่งจะดึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต Digital for all Technology Innovation AI ให้มาขยายธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้งการลงทุนเกี่ยวกับการผลิต Semiconductor, การตั้งศูนย์ Data Center รองรับ Cloud Computing, การวิจัยและนำ AI มาใช้งานในประเทศไทย เพื่อยกระดับความสามารถของคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง ซึ่งจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าว นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้เชื่อมประสานความร่วมมือกับบริษัทเอกชนแถวหน้าของโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพร้อมรับการลงทุน ตามนโยบายรัฐบาลในการทำ Matching Fund เพื่อส่งเสริมบริษัทไทยที่มีศักยภาพ การเริ่มต้นกระบวนการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดทางให้บริษัทชั้นนำระดับโลกและบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศและคนไทย