มติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก มีคำวินิจฉัยให้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” กรณีเป็นผู้ถือหุ้นบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ ๓ มี.ค. ๖๖จากกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๕) ประกอบมาตรา ๑๘๗ หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ ๘/๒๕๖๖) โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จำนวน ๕๔ คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่า นายศักดิ์สยาม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๗ ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ (๑) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๕) หรือไม่ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ ศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยหลังมีการไต่สวนพยาน รวม ๖ ปาก คือ นางวราภรณ์ เทศเซ็น, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ, นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์, นางสาววรางสิริ ระกิติ, นางสาวฐิติมา เกลาพิมาย และนางสาวอัญชลี ปรุดรัมย์ โดยตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน และนัดฟังคำวินิจฉัยในวันพุธที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๔.๐๐ น.tt tttt ttผลวิจิยฉัยศาลรัฐธรรมนูญล่าสุด วันนี้ (๑๗ มกราคม ๒๕๖) เมื่อเวลา ๑๓.๕๓ น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยสรุปได้ว่า นายศักดิ์สยาม กับ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ตกลงทำธุรกรรม มีการนำเงินไปซื้อ ๒ กองทุน แล้วขายชำระค่าหุ้นให้ศักดิ์สยาม โดยหุ้นยังเป็นของ นายศักดิ์สยาม โดยมี นายศุภวัฒน์ ครอบครองและดูแลแทนมาตลอด อันเป็นการถือหุ้นของรัฐมนตรีที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่น ไม่ว่าโดยทางใดๆ ซึ่งเป็นการประทำอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๑๘๗ ดังนั้น ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม จึงสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง อีกทั้ง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยมติเสียงข้างมาก วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๕) ตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคสอง คือ วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาอ่านคำวินิจฉัยคดีนี้ไปกว่า ๑ ชั่วโมง และผู้สื่อข่าวจะรายงานคำพิพากษาฉบับเต็มจากศาลรัฐธรรมนูญในเวลาต่อไป.
หุ้นบุรีเจริญพ่นพิษ มติศาลรัฐธรรมนูญ "ศักดิ์สยาม" สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี
เรื่องที่เกี่ยวข้อง