“ภูมิธรรม” เผย ก.พาณิชย์ เตรียมเสนอหลายเรื่องสำคัญพัฒนาการค้าชายแดนอีสาน เข้า ครม.สัญจร หนองบัวลำภูพรุ่งนี้ พร้อมชงพิจารณาแนวทางคืนค่าตัดอ้อยสด หลังรัฐบาลชุดที่แล้วค้างจ่ายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2566 หรือ ครม.สัญจร ครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภู ว่า จะเข้าร่วมการประชุม ครม.สัญจร ในเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2566 ซึ่งประเด็นสำคัญที่จะมีการนำเสนอเข้าสู่การประชุมครั้งนี้ เป็นผลมาจากการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ 5 จังหวัด หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และเลย ดังนี้1. การขอขยายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคายให้ครอบคลุมถึงเขตนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อให้ผู้ประกอบการในนิคมฯ อุดรธานี ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับผู้ประกอบการในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย2. การส่งเสริม Logistics Park ในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้เป็น One Stop Service (OSS) 3. การจัดตั้งเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี (E-commerce)4. การประกาศเขตพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีให้เป็นเขตศุลกากร“การผนวกหนองคายและอุดรธานีอยู่ร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการผนึกกำลังสร้างความเข้มแข็ง ในการเป็นประตูมังกรที่มีศักยภาพในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศที่ดูแลเรื่องนี้ จะช่วยผลักดันอย่างเต็มที่”ขณะเดียวกัน จะนำเสนอให้ ครม. พิจารณาในการหาช่องทางจ่ายเงินคืนค่าตัดอ้อยสด ที่ชาวไร่อ้อยได้ช่วยลดมลพิษ PM 2.5 ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วติดค้างจ่ายให้ชาวไร่อ้อย โดยกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม จะช่วยกันดำเนินการให้แล้วเสร็จทันทีที่มีการจัดสรรงบประมาณใหม่เป็นที่เรียบร้อยนายภูมิธรรม ระบุต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สำรวจปัญหาผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ทำให้เกิดถนนขาด ประชาชนเดือดร้อน สัญจรไม่สะดวก รวมถึงสำรวจปัญหาข้อร้องเรียนเรื่องการจัดสรรเอกสารสิทธิที่ดินทำกินให้ประชาชน พื้นที่ ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู และยังมีการเข้าร่วมประชุมแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ และผู้แทนจากภาคเอกชน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัด เตรียมความพร้อมในการนำเสนอโครงการให้ ครม. พิจารณานอกจากนี้ ยังได้มีการมอบหมายให้ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่และจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อช่วยขยายการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ การเจาะตลาดการค้าชายแดนและผ่านแดน โดยผลจากกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้เกิดการเจรจาธุรกิจการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการไทย ที่พร้อมเจรจาการค้ากับต่างประเทศจำนวน 53 ราย (จากจำนวนผู้เข้าร่วม 320 ราย).
พณ. จ่อชงปมค้างจ่ายค่าตัดอ้อยสด เศรษฐกิจ-การค้าชายแดน เข้า ครม.สัญจร 4 ธ.ค.
เรื่องที่เกี่ยวข้อง