วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

สลด น้องขี่จยย.ไปรับพี่สาวกลับบ้านเยี่ยมยาย ถูกรถยนต์ชนดับคาที่ ๓ ศพ

09 ธ.ค. 2023
111

สามพี่น้องที่เพชรบูรณ์ มียายและย่าคนเดียวกัน วันหยุดพี่สาวจะกลับมาเยี่ยมยายที่เลี้ยงดูมา ขี่จยย.พากันไปรับซ้อนสามกลับบ้าน ถูกรถยนต์อีซูซุพุ่งชนเสียชีวิตทั้ง ๓ ศพ วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้า อุบัติเหตุ ๓ พี่น้อง ขี่รถจักรยานยนต์บ้าน เกิดอุบัติที่บริเวณจุดกลับรถบ้านหนองแดง บนทางหลวงหมายเลข ๒๑ สายสระบุรี-หล่มสัก ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ถูกรถยนต์อเนกประสงค์ ๗ ที่นั่ง ยี่ห้อ ISUZU ทะเบียน กษ ๑๗๘๖ ลพบุรี พุ่งชน รถ จยย. ของทั้ง ๓ คน จนร่างกระเด็นไปคนละทิศละทาง แขนขา ผิดรูป เสียชีวิตทั้ง ๓ คนได้แก่ น.ส.นันทิกา แผลงสะกา อายุ ๒๐ ปี น.ส.รุ่งนภา แผลงสะกา อายุ ๑๗ ปี และ ด.ช.จักรชัย แผลงสะกา อายุ ๑๔ ปี  ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณจุดกลับรถบ้านหนองแดง พบว่าสิ่งของภายในร้านไก่หมุนห้าลาว จุดที่รถชนเด็กกระเด็นเข้าไป กระจัดกระจาย ไม่พบเจ้าของร้าน นางเสนอ พงษ์สาวดี อายุ ๕๖ ปี อยู่หมู่ ๔ ซึ่งบ้านอยู่ถัดไปจากร้านไก่หมุนห้าลาว ได้พาเดินไปดูจุดเกิดเหตุ นางเสนอ กล่าว ตนได้พูดคุยกับคนขับรถยนต์ เขาบอกว่าเพิ่งเดินทางไปละหมาด ที่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี กำลังจะเดินทางกลับบ้าน ที่ ต.สว่างพัฒนา อ.ศรีเทพ มาด้วยกัน ๒ คน กับภรรยา ซึ่งภรรยาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ ตนจึงถามว่าไปชนอะไรมา คนขับบอกว่าชนรถมอเตอร์ไซค์ จึงถามว่าไหนล่ะคนที่ชน คนขับบอกว่าผมไม่เห็นเลย พอเดินไปดูเห็นเด็ก ๓ คน กระเด็นไปอยู่ในร้านไก่หมุน อยู่กันคนละทิศละทาง นางเสนอ ยังเล่าอีกว่า ตอนเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังสนั่นและตกใจมาก พอเดินออกไปดูพบว่าฝุ่นตลบ มีรถยนต์จอดอยู่แล้ว ยังรู้สึกกลัวว่าจะชนเข้ามาในบ้านไหม รีบเดินออกไปดู ก็เห็นเด็ก ๓ คน นอนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งจุดเกิดเหตุตรงนี้ชนกันบ่อย ก่อนหน้านี้ ราว ๒ เดือนที่ผ่านมา ก็มีอุบัติเหตุ เสียชีวิตคาที่ ยังคิดอยู่ว่าร้านไก่ย่าง จะกล้ากลับมาเปิดหรือเปล่า เพราะมีเด็กเสียชีวิตอยู่ตรงเตาไก่ย่าง ซึ่งเป็นจุดใกล้ๆ กัน เบื้องต้น ตนทราบว่าเด็กทั้ง ๓ คน มาจาก ต.พุเตย จะกลับบ้านคลองโป่ง พากันขับข้ามยูเทิร์นย้อนศร ขี่ไปทางเข้าบ้านหนองแดง แล้วถูกรถใหญ่ที่มาจากทางลำนารายณ์ พุ่งชน ถึงตอนนี้ยอมรับว่ายังรู้สึกกลัว เพราะตอนชนเสียงดังมาก รถจักรยานยนต์ของเด็ก พังกลายเป็นเศษเหล็กไปเลย เมื่อคืนก็ไม่กล้านอนบ้าน ต้องมานอนบ้านหลานต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดคลองโป่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งศพ สวดอภิธรรม ของ ๓ พี่น้อง โดยมีพ่อแม่ของเด็กทั้ง ๓ คน ญาติพี่น้อง กำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ขณะที่ญาติ บอกว่าปกติ น้องชมพู่ จะเป็นคนเรียบร้อย ตั้งใจเรียน เลิกเรียนจะเข้าบ้านทำการบ้าน อยู่บ้านไม่ออกไปไหน ซึ่งทุกคนก็แปลกใจว่าทำไมเมื่อวาน น้องชมพู่ ถึงออกจากบ้าน ถ้าน้องชมพู่ ไม่ออกจากบ้านก็คงไม่เสียชีวิตแบบนี้  ขณะที่ คุณยายเนย แผลงสะกา อายุ ๖๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๖๐ หมู่ ๑๔ บ้านคลองโป่ง ซึ่งเป็นทั้งยายและย่า ของทั้ง ๓ คน โดยคุณยายเนย เล่าว่า หลานทั้ง ๓ คน ตนเลี้ยงเองมากับมือ โดยทั้ง ๓ คน รักและผูกพันกันมาก อยู่กับตนที่บ้าน ส่วนคนโตคือ ขมิ้น หรือ น.ส.นันทิกา แผลงสะกา อายุ ๒๐ ปี แต่งงานมีครอบครัว ไปทำงานอยู่ที่ ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี หลานอีก ๒ ยังเรียนอยู่ คือน้องชมพู่ หรือ น.ส.รุ่งนภา แผลงสะกา อายุ ๑๗ ปี เรียนอยู่ชั้น ม. ๕ โรงเรียนชัยบาดาล และน้องก้อง หรือ ด.ช.จักรชัย แผลงสะกา อายุ ๑๔ ปี เรียนอยู่ ม.๒ โรงเรียนศรีเทพประชาสรรค์ จึงอยู่กับตนที่บ้าน โดยทุกคืน น้องก้อง จะมานอนด้วยกับตนตลอด เพราะเป็นคนขี้อ้อน เมื่อวานชมพู่ และก้อง บอกว่าจะไปรับขมิ้น ที่ ต.พุเตย มาหาตน เพราะคิดถึง จึงรีบทำกับข้าวไว้รอหลานๆ จน ๔ ทุ่ม หลานก็ยังไม่กลับมา จนมาทราบข่าวว่าหลานทั้ง ๓ คน เกิดอุบัติเหตุ ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตพร้อมกันทั้ง ๓ คนแบบนี้ เมื่อคืนตนก็นอนไม่หลับคิดถึงหลานๆ ทำใจไม่ได้ ขณะที่นางสาวณัฐธิดา แผลงสะกา อายุ ๓๖ ปี แม่น้องขมิ้น กล่าวว่า ตนเองทำงานอยู่ต่างจังหวัด ปกติก็คุยกับลูกสาวตลอด คุยกับเกือบทุกวัน มาทราบข่าวตอน ๔ ทุ่ม ญาติโทรบอก โดยตนเองมีลูกกับแฟนเก่า ๒ คน แฟนใหม่ ๒ คน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีลางบอกเหตุ ลูกพูดว่าอยากเห็นแม่ อยากเห็นพ่อ อยากเห็นน้อง เวลาโทรมาไม่ได้รับ ก็จะแชตทิ้งไว้ ส่วนตนหากว่างก็จะเดินทางกลับมาเยี่ยมโดยวันนี้ตั้งใจลางานไว้แล้ว จะกลับมาหาลูก มาหาแม่ แต่กลับเกิดเหตุร้ายก่อน ด้านนางสาวสุจิตรา ศรีมาตร อายุ ๓๔ ปี แม่น้องชมพู่ เล่าว่า ตนมีลูกคนเดียว คือคนที่เสียชีวิต ลูกเรียนอยู่ชั้น ม.๕ เมื่อวาน มารู้ข่าวตอนที่ลูกเสียแล้ว ว่า ไปรับพี่คนที่ตาย ก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีลางบอกเหตุร้ายอะไร พูดคุยกันปกติ ตนนั้นไม่ได้อยู่กับลูก เพราะไปทำงานต่างจังหวัด ลูกสาวอยู่กับย่า  ส่วนนายสันติชัย แผลงสะกา อายุ ๔๓ ปี พ่อน้องก้อง เล่าว่า เล่าว่า ลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.๒ ปกติอยู่บ้านกับลูกชายตลอด โดยเมื่อวานนี้ ลูกมาขออนุญาตออกไปรับพี่สาว ตนก็บอกไปว่าอย่ากลับดึก ขับรถให้ระวัง แล้วตนก็เอาลูกสาวกับลูกชายเข้านอน พอประมาณ ๓ ทุ่ม ลงมาถามแม่ ว่าเด็กกลับมายัง แล้วจึงโทรไปหาลูกแต่โทรไม่ติด ตนมีลูก ๔ คน คนตายเป็นคนที่ ๒ ก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไรทางด้านพนักงานสอบสวน เจ้าของคดียังไม่ได้สรุปว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากต้องรอหลักฐานเพิ่มเติมและสอบสวนคนขับอย่างละเอียดอีกครั้ง และต้องรอให้ทางครอบครัวของ ผู้ตาย ทั้ง ๓ คน จัดพิธีทางศาสนาให้เรียบร้อยเสียก่อน สำหรับ บังมุก คนขับรถยนต์ ได้ให้พี่ชาย นำเงินสด ๓ หมื่นบาท มาช่วยงานศพเป็นการเบื้องต้น ส่วนตัวบังมุก ทราบว่า วันนี้พาภรรยาไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาล จึงไม่ได้มา