รอง ผวจ.เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลัง “ยาย” เดินทางจาก จ.อุตรดิตถ์ เข้าร้องขอความช่วยเหลือ “เพจสายไหมต้องรอด” ยืมเงินกู้นอกระบบต้องจ่ายดอกวันละ ๓ พันบาท สุดท้าย “ตา” ซึ่งเป็นสามี ยอมจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย เพื่อเอาเงินฌาปนกิจใช้หนี้ ผบ.ตำรวจย้ำคดีนี้ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดจริงจัง และขยายผลไปยังนายทุน เจ้าหนี้ทุกรายที่กระทำความผิดวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์, นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังกะพี้ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ ประชุมและดำเนินการสอบถามข้อมูลและเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ รวมไปถึงญาติพี่น้องของครอบครัวป้า อายุ ๖๐ ปี ที่เดินทางจาก จ.อุตรดิตถ์ เข้าร้องขอความช่วยเหลือ “เพจสายไหมต้องรอด” หลังยืมเงินกู้นอกระบบ ต้องจ่ายดอกวันละ ๓ พันบาท สุดท้ายลุง ซึ่งเป็นสามียอมจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย เพื่อเอาเงินฌาปนกิจมาใช้หนี้ พร้อมเรียกตัวเจ้าหนี้ ๒ ราย นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีประชาชนของจังหวัดอุตรดิตถ์ คือ ยายไหม (นามสมมติ) ราษฎร ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้ไปร้องทุกข์ต่อเพจสายไหมต้องรอด ว่าได้กู้ยืมเงินนอกระบบ ส่งดอกรายวันละ ๓,๐๐๐ บาท เป็นสามีเหตุให้สามี (คุณตา) ยอมจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย เพื่อเอาเงินฌาปนกิจมาใช้หนี้ เบื้องต้นได้เรียกผู้นำท้องถิ่น และญาติของผู้ร้องเรียนใสให้รายละเอียด ทราบว่า วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายทรัพย์ (นามสมมติ) อายุ ๕๙ ปี สามีของคุณยายได้เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย (ผูกคอ) หลังจากหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และไม่ได้แจ้งถึงเรื่องหนี้สิน พร้อมรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา จากนั้นวันที่ ๘ ธันวาคม ที่ผ่านมา คุณยายได้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ที่ที่ว่าการอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ด้วยตัวเอง ระบุมีเจ้าหนี้ ๒ ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการเรียกเจ้าหนี้เจรจาไกล่เกลี่ย ขณะที่คุณยายยังอยู่ที่กรุงเทพฯ ทราบว่าเตรียมตัวเดินทางกลับ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ จึงทำให้ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดเชิงลึก มูลหนี้ แต่ได้เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และน้องสาวของยายมาให้รายละเอียดเรื่องหนี้สินแล้ว ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงโศกนาฏกรรม กรณีคุณตาปลิดชีพตนเอง ให้ยายเอาเงินฌาปนกิจไปใช้หนี้นอกระบบ ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียล เหตุเกิดในเขตพื้นที่ สภ.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการมายัง ผบ.ตำรวจให้ตำรวจร่วมดำเนินการกับฝ่ายปกครอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดำเนินการตามกฎหมาย และลงไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตามนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรมผบ.ตำรวจได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.๖. ให้ พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ร่วมประชุมหารือกับ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี พ.ต.อ.พีระเพชร อุบลจิตต์ รอง ผบก ภ.จว.อุตรดิตถ์, ว่าที่ พ.ต.อ.ณัทรภณ ทรงไทย ผกก.สภ.วังกะพี้, นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการดำเนินการคดีดังกล่าวโดยจะมีการบูรณาการร่วมกันลงพื้นที่บ้านคุณยาย เพื่อทำการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น ส่วนทางคดีให้ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐาน เบื้องต้นติดตามเจ้าหนี้ ๑ ราย คนทวงหนี้ได้ ๑ ราย มาสอบสวนแล้ว เตรียมดำเนินคดีและขยายผลไปยังเจ้าหนี้ หรือคนทวงหนี้รายอื่นๆ หากพบการกระทำผิด จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย และจะร่วมกับฝ่ายปกครองนำลูกหนี้ เจ้าหนี้ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ต่อไปทั้งนี้ ผบ.ตร. ยืนยันว่า เป็นเรื่องสลดใจที่เกิดขึ้นในสังคมเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบ ได้ย้ำไปแล้วว่าคดีนี้จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดจริงจัง และต้องขยายผลไปยังนายทุน เจ้าหนี้ทุกราย ที่กระทำความผิด ที่สำคัญต้องร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงช่วยเหลือเยียวยาคุณยาย ดูแลสภาพจิตใจ ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวคุณยาย และนำเข้าสู่ขบวนการไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้กำชับไปยังทุกพื้นที่ ให้ตำรวจจับมือฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ เพิ่มความเข้ม ตรวจสอบทุกมิติ สอบถามลูกหนี้ เจ้าหนี้ที่ลงทะเบียน ว่ามีเหตุความรุนแรง ถูกข่มขู่หรือไม่ หรือมีเหตุที่ผิดปกติวิสัยหรือไม่อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก และให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้าน พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตำรวจได้ติดตามหาเจ้าหนี้ เบื้องต้น ๔ ราย เจอตัว และดำเนินการสอบสวนแล้ว ๒ ราย คือ บุคคลทวงถามหนี้ หรือหมวกกันน็อก และเจ้าหนี้ปล่อยเงินในหมู่บ้าน สอบปากคำถึงจำนวนหนี้สิน อัตราดอกเบี้ยและวิธีการทวงถามหนี้ ส่วนเจ้าหนี้ซึ่งเป็นเจ้าของเงินจริงๆและเสียงบุคคลทวงหนี้โหดตามคลิปที่ปรากฏตามสื่อ ที่เรียกว่า “สุดหล่อ” อยู่ระหว่างการติดตามตัว ได้ที่อยู่แล้ว ทางราชการไม่ได้นิ่งนอนใจ ตอนนี้รอในส่วนของผู้เสียหาย มาให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะตั้งข้อกล่าวหา
