"นายกฯนิด" ปัดแทรกแซงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขอให้ไปทบทวนคิดถึงหัวอกประชาชน

นายกฯเมินครหาแทรกแซงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ย้ำให้อยู่กับความ เป็นจริงดีกว่าชี้ย้อนไป ๑๐ ปี ขึ้นค่าแรงมาแค่  ๓๗ บาท หรือ ๑๒% ลั่นรับไม่ได้ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ขึ้นค่าจ้าง ๒ บาท ซื้อไข่ไก่ ๑ ฟองได้หรือเปล่ายังไม่รู้ วอนเอกชนขยับอีกนิดเพื่อศักดิ์ศรีของประชาชน เชื่อไม่ทำให้ถึงขั้นหายนะ หัวชนฝากดค่าไฟต่ำกว่า ๔.๒๐ บาทต่อหน่วย กพช.เคาะ ๑๗ ล้านบ้านใช้ไฟน้อยกว่า ๓๐๐ หน่วย ต่อเดือน จ่ายค่าไฟ ๓.๙๙ บาทเท่าเดิม “เศรษฐา” ปิดประตูเติมเสียงพรรคร่วมรัฐบาล มั่นใจ ๓๑๔ เสียงมากพออยู่แล้ว “อนุทิน” ส่งกำลังใจให้ “เฉลิมชัย” เคลียร์ศึกใน ปชป. ยันไม่ได้มองเป็นคู่แข่งในสนามการเมือง “นายกฯนิด” ตีกรรเชียงดันปรองดอง คลอดกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของสภาฯ ภท.ท่องคาถาห้ามแก้ ม.๑๑๒รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง พยายามอย่างยิ่งที่จะเร่งออกมาตรการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอัตราค่าไฟฟ้า ที่นายกฯระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะพยายามดูแลให้ต่ำกว่า ๔.๒๐ บาทต่อหน่วย ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีข้อเสนอช่วยเหลือผู้ใช้ไฟน้อยกว่า ๓๐๐ หน่วยต่อเดือน ไปหาแนวทางทำให้ยังคงค่าไฟได้ที่หน่วยละ ๓.๙๙ บาทเท่าในปัจจุบันนายกฯเชื่อมือ “ตุุ๋ย” กดค่าไฟลง ๔.๑๐ บาทเมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น.วันที่ ๑๓ ธันวาคมที่ห้องแกรนด์ ฮอลล์ ๒๐๓ ชั้น ๒ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “SUS TAINABILITY FORUM ๒๐๒๔” เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า พลังงานสะอาด เรื่อง Net Zero หรือเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์สำคัญที่สุด ไทยโชคดีมีนักธุรกิจ มีผู้นำด้านความคิด สื่อมวลชนให้ความสำคัญเรื่องนี้ SDGs index หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยได้ลำดับที่ ๔๓ ของโลก เป็นจุดขายใหญ่ที่สุดที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อีกประเด็นคือค่าไฟฟ้า ทุกคนเดือดเนื้อร้อนใจอยู่พอสมควร รัฐบาลจึงต้องดึงค่าไฟลงมาในระดับที่แข่งขันได้ ได้คุยกับหลายหน่วยงาน เป้าหมายที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน ตั้งไว้ อยากให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ ๔.๑๐ บาทต่อหน่วย เชื่อว่าน่าจะทำได้รับหนักใจภาวะเศรษฐกิจปีหน้าจากนั้นเวลา ๐๙.๐๐ น. นายเศรษฐาตอบคำถามถึงคำนิยามของเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๗ ว่า “หนักใจ” ส่วนตัวคิดว่าเศรษฐกิจช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติ ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ค่าแรงที่ยังต่ำอยู่ ยังมีอีกหลายๆเรื่องเต็มไปหมด เมื่อถามว่าหลายฝ่ายห่วงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะมีกระทบต่อการลงทุน นายเศรษฐากล่าวว่า ห่วงใยตลอด แต่ไม่ได้ห่วงใยว่าจะมีผลกระทบต่อการลงทุน เพราะการลงทุนเรื่องพลังงานสะอาดเชื่อว่ามีความสำคัญมากกว่า ต้องเร่งเจรจา FTA เราให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และต้องให้ความสำคัญกับช่องทางการค้าตามแนวชายแดน ต้องมีบุคลากรที่พร้อมจะทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน มีแรงงานคุณภาพ ส่วนการตรึงราคาค่าไฟวันเดียวกัน เวลา ๑๑.๐๐ น.จะประชุมกันปราบยาเสพติด ๔ ปี ต้องสะเด็ดน้ำเมื่อถูกถามถึงมาตรการปราบปรามยาเสพติดว่า ต่อไปนี้จับกุมได้พิสูจน์ได้ให้เก็บยาเสพติดไว้แล้วเผาทันที โดยวันที่ ๒๖ ธันวาคมจะประกาศเผายาเสพติดครั้งใหญ่ เมื่อถามต่อว่า มี KPI หรือดัชนีชี้วัดผลงานใน ๔ ปีนี้ รัฐบาลเศรษฐาจะพลิกโฉมการแก้ปัญหายาบ้าอย่างไร นายกฯตอบว่า ปัญหาลดไป ๕๐% หรือหมดไปพบว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้ต้องให้ KPI ว่า ภายใน ๔ ปีนี้จะต้องหมดไปเมินครหาแทรกแซงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนายเศรษฐากล่าวถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่า ทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ประกาศออกไป อย่างพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ปรับขึ้นเพียง ๒ บาท ไข่ไก่หนึ่งฟองจะได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ฟังดูแล้วมันรับไม่ได้ ลึกกว่านั้นคือปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมและความแตกแยก จะอ้างเรื่องมติคณะกรรมการไตรภาคีหรือนายกฯไม่มีอำนาจแทรกแซง คุณจะพูดอะไรคุณพูดได้หมด แต่เราอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงดีกว่าว่ามันเหมาะสมหรือเปล่าที่ค่าแรงขึ้นไปขนาดนั้น จะทำให้ธุรกิจถึงกับหายนะหรือไม่ หากขึ้นค่าแรงที่เหมาะสม รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของตน การลดค่าใช้จ่าย ลดค่าไฟ การเปิดตลาดใหม่ๆ การเจรจาสนธิสัญญาการค้าและดึงนักลงทุนใหม่เข้ามา เชื่อว่าถึงจุดหนึ่งจะเป็นที่พอใจของภาคธุรกิจ เป็นขวัญและกำลังใจ คืนความชอบธรรมให้ประชาชนฐานราก ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนเรื่องกฎหมายตนมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิเป็นอีกเรื่องหนึ่งขยับขึ้นอีกนิดเพื่อศักดิ์ศรี ปชช.นายกฯกล่าวด้วยว่า ไปดูแล้วกันขึ้นค่าแรง ๓๐๐ บาทมา ๙ ปีที่แล้ว วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย ๓๓๗ บาท ๑๐ ปีให้หลังขึ้นมาแค่ ๓๗ บาท หรือขึ้นไปประมาณ ๑๒% ถ้าลูกท่านจบจากเมืองนอก ๑๐ ปีที่แล้วเงินเดือน ๓๐,๐๐๐ บาท ถ้าทุกวันนี้เงินเดือน ๓๓,๗๐๐ บาท รับได้หรือไม่ บางจังหวัดขึ้น ๒ บาทบางโซนขึ้น ๗ บาท ๕ บาท หลายท่านเป็นรัฐมนตรีมาจากภาคประชาชนและการเลือกตั้งรับได้ไหมค่าแรงขึ้นแบบนี้ ความหวังฝากไปยังภาคธุรกิจว่าการขึ้นค่าแรงออกไปอีกนิดนึง ไม่ทำให้ท่านเกิดหายนะหรอก แต่จะส่งผลมิติบวกมากกว่า พูดคุยกันด้วยวาจาที่รับกันได้ในจำนวนเงินที่เดินไปข้างหน้าด้วยกันได้ ขอให้ภาคเอกชนดูแลประชาชนให้สมเกียรติสมศักดิ์ศรี เดินออกไปทำงานตอนเช้าแล้วกลับบ้านมาตอนเย็น มีอาหารการกินเหมาะสมอยู่บนโต๊ะ ฝากด้วยแล้วกันฝัน ๔ ปีปริญญาตรีเงินเดือน ๒.๕ หมื่นเมื่อถามถึงเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี ๒๕,๐๐๐ บาท จะเริ่มได้เมื่อไหร่และมีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกฯกล่าวว่า เรื่องเงินเดือนขั้นต่ำ ปัจจุบันอยู่ที่ ๑๕,๐๐๐ บาท มาหลายปีแล้ว เมื่อ ๒ อาทิตย์ที่แล้วนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ ประกาศไปชัดเจนว่าจะขึ้นอย่างไร คาดหวังภายใน ๔ ปีจะขึ้นไปถึง ๒๕,๐๐๐ บาท ถือว่าพอประกาศออกไป ได้รับการยอมรับที่ดีพอสมควร เป็นมาตรฐานที่ดีที่ภาคเอกชนจะนำไปปฏิบัติ และขึ้นค่าจ้างให้คนไทย มีรายได้ที่เหมาะสม มีศักดิ์ศรีในการที่จะไปทำงาน ส่วนการแก้หนี้นอกระบบ ไม่แน่ใจรัฐบาลก่อนหน้านี้ทำอะไรมาบ้าง คนเราทำงานมาแทบเป็นแทบตาย ตากแดดตากฝนได้ค่าแรงขั้นต่ำเท่านี้ เป็นหนี้ ๑ หมื่นบาท ใช้ไปแล้ว ๓ หมื่นบาท แต่เงินต้นยังอยู่ ไม่ถูกต้อง ฝ่ายความมั่นคงโดยตำรวจ ฝ่ายการปกครอง นายอำเภอเรียกมาพูดคุยจะทำ KPI (ผลชี้วัดความสำเร็จ) ที่ชัดเจนใครต้องทำอย่างไร จำนวนหนี้และจำนวนคนที่เป็นหนี้นอกระบบต้องลดลงทุกอำเภอและทุกจังหวัด ต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้เดินหน้าทำธุรกิจต่อไปได้ไทม์ไลน์แจกเงินดิจิทัล พฤษภาคม๖๗นายกฯยังตอบคำถามถึงความคืบหน้านโยบายเติมเงิน ๑ หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า ตามที่ได้ออกแบบผ่านกลไกให้ตรวจสอบได้ ผ่านทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา ผ่านสภาฯ เพื่อให้ฝ่ายบริหารถูกซักถาม และให้สังคมหมดข้อกังวล โดยจะเริ่มอย่างเร็วที่สุดในเดือน พฤษภาคม๖๗ แต่ในความคิดของตนอยากให้เร็วกว่านี้ แต่เพื่อให้ถูกต้องและสบายใจ จะเริ่มเงินดิจิทัลได้คือ เดือน พ.ค. ส่วนแหล่งเงินจะออกเป็น พระราชบัญญัติกู้เงิน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว โดยจะมีการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยอีก ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อนำไปดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และทำควบคู่กันไปกับดิจิทัลวอลเล็ต เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และจากที่ลงพื้นที่มั่นใจว่าประชาชนต้องการส่วนนี้tt ttย้ำจะดูแลค่าไฟต่ำกว่า๔.๒๐บ./หน่วยเมื่อถามว่าชาวบ้านอยากให้รัฐบาลลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า มากกว่าในปัจจุบันได้หรือไม่ นายกฯตอบว่า ราคาน้ำมันปรับตามราคาตลาดโลกอยู่แล้ว ส่วนค่าไฟจะดูแลให้ต่ำกว่า ๔.๒๐ บาทต่อหน่วย เชื่อว่าภาคอุตสาหกรรมจะพอใจ รัฐบาลต้องดูแลประชาชนเต็มที่ เบื้องต้นค่าไฟจะต่ำกว่าหน่วยละ ๔.๒๐ บาท ระยะยาวต้องดูโครงสร้างทั้งหมด ต้องบูรณาการร่วมกัน ไม่ใช่แค่ค่าไฟ ต้องสนับสนุนให้เกิดพลังงานสะอาดที่รับผิดชอบต่อสังคม รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฉะนั้นความสุขของพี่น้องประชาชน สิ่งที่ประชาชนอยากได้ รัฐบาลตระหนักและต้องทำให้ได้ให้คำมั่นว่ารัฐบาลนี้จะเอาความ ต้องการ ปัญหาของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง คณะรัฐมนตรีทุกท่านจะทำงานเต็มที่เต็มความสามารถ แก้ทุกปัญหาของพี่น้องประชาชนให้ได้กพช.สรุปต่ำกว่า ๓๐๐ หน่วยจ่าย ๓.๙๙จากนั้นเวลา ๑๑.๓๐ น. นายเศรษฐาได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หลังการประชุมเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานแจ้งยกเลิกการแถลงข่าว เพื่อนำผลการประชุม กพช.ให้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อน ขณะที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายกฯ ได้พูดใน ๒ เวที ทุกคนหนักใจพอสมควรจากข่าวค่าไฟหน่วยละ ๔.๖๘ บาท นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน บอกว่า ไม่เหมาะสม พยายามจะช่วยดูแลหลายมาตรการให้ลดลงมาได้ นายกฯขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำข้อเสนอให้ค่าไฟต่ำลงกว่าหน่วยละ ๔.๒๐ บาทให้ได้ แต่ให้ดูความเหมาะสม ไม่อยากให้ผลกระทบเชิงลบเกิดขึ้นกับความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยสำหรับภาคธุรกิจตลาดทุน ภาคประชาชน นักลงทุนต่างชาติ ระหว่างนี้มีผู้โทร.เข้ามาล็อบบี้หลายคน แต่เรายึดมั่นเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ข้อเสนอที่จะช่วยเหลือบ้านที่ใช้ไฟน้อยกว่า ๓๐๐ หน่วยต่อเดือน ๑๗ ล้านหลัง นายพีระพันธุ์ไปหาแนวทางทำให้ยังคงค่าไฟได้ที่หน่วยละ ๓.๙๙ บาทเท่าปัจจุบัน เป็นข้อสรุปที่ดี เห็นควรจะทำอย่างยิ่ง คงต้องหยุดสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานฟอสซิล ไปลงทุนพลังงานสะอาดที่เหมาะสม ให้ประชาชนได้ใช้พลังงานราคาถูกลงtt ttมอบหมาย“พีระพันธุ์” เป็นคนชี้แจงผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายเศรษฐา เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีการประชุมไปเมื่อ ๑๑.๓๐ น.ที่ผ่านมา ตอนแรกจะมีการแถลงข่าวหลังการประชุม ก่อนมีการแจ้งยกเลิกการแถลงข่าวไป โดยนายกฯบอกสั้นๆว่า “ให้รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน เป็นผู้พูด เพราะยังมีขั้นตอนเล็กๆน้อยๆ ผ่าน คณะรัฐมนตรีอีก”มั่นใจ ๓๑๔ เสียงเยอะพออยู่แล้วอีกเรื่อง ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ตอบคำถามระหว่างร่วมงานเสวนาหัวข้อ“คนไทยถาม นายกฯเศรษฐาตอบ” ถึงสถานการณ์การเมืองในปี ๒๕๖๗ ว่า คิดว่าการเมืองมีเสถียรภาพพอสมควร ปัจจุบันบรรยากาศทางการเมือง เชื่อว่า สามารถพูดคุยและโอภาปราศรัยกันได้ดี มีการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ผู้สื่อข่าวถามว่าการบริหารงานเพิ่งผ่านมา ๓ เดือน ทำไมมีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯประเมินว่าจะมีการปรับ คณะรัฐมนตรีช่วงเวลาใด นายกฯกล่าวว่า “ขอเป็นคำถามต่อไปครับ เมื่อถามว่าหลังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เกิดกระแสข่าวว่าจะมาร่วมรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ไปก้าวก่ายในพรรคอื่นและเขาเองต้องเคารพการตัดสินใจของเขา ปัจจุบันเรามี ๓๑๔ เสียง มันเยอะอยู่แล้ว ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล และให้เกียรติพรรค ปชป.ด้วย เชื่อว่าเป็นการบริหารจัดการภายในของเขา นายเฉลิมชัยเพิ่งเข้ามาได้ ๒-๓ วันเอง ต้องให้โอกาสเขาทำงานและบริหารพรรคไปก่อนโบ้ยชง ก.ม.นิรโทษเป็นเรื่องของสภาฯนายเศรษฐายังกล่าวถึงประเด็นการเสนอร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมว่า การปรองดองระหว่างประชาชนทั้งประเทศ เชื่อเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเกิดขึ้นได้ในรัฐบาลชุดนี้จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพ รัฐบาลนี้ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มี สส. ฉะนั้นเรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของรัฐสภาและฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อถามว่าเคยมีความพยายามนิรโทษกรรมมาแล้วหนึ่งครั้ง มองว่าจะแตกต่างกับครั้งนี้อย่างไร นายกฯกล่าวว่า แต่ละกรรมต่างวาระกันไป เรามีการเรียนรู้ว่าเรื่องอะไรที่สังคมรับได้และรับไม่ได้ ฉะนั้นเชื่อว่ารัฐสภา ฝ่ายนิติบัญญัติทราบดีอยู่ ทุกท่านมาจากการเลือกตั้ง และทุกคนฟังเสียงประชาชน ฉะนั้นเชื่อว่าทุกคนเรียนรู้มาแล้วtt ttนายกฯเที่ยวงานกาชาดคึกคักเมื่อเวลา ๑๙.๐๐ น. ที่สวนลุมพินี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง สวมเสื้อผ้าไทยสีฟ้า เดินเยี่ยมชมงานกาชาด ๒๕๖๖ ครบรอบ ๑๐๐ ปี ภายใต้แนวคิด “รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้” ระหว่างวันที่ ๘-๑๘ ธ.ค. มีรัฐมนตรีร่วมคณะ อาทิ นายไชยยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง โดยนายกฯร่วมกิจกรรมการกุศลตามบูธต่างๆอย่างอารมณ์ดี อาทิ ตักไข่นำโชค ที่บูธสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้รางวัลปลอบใจ นายกฯกระเซ้าว่า “ดีเลย ช่วงนี้ต้องการการปลอบใจบ้าง” จากนั้นแวะ บูธ กทม. ล้วงปิงปองหรรษาได้คูปองหมายเลข ๓ นายกฯเลือกแป้งฝุ่นกระป๋อง เยี่ยมชมบูธอุปนายิกาสภากาชาดไทยชมผลิตภัณฑ์โครงการหลวง สร้างป่าสร้างรายได้ ชิมน้ำมะขามป้อม ออกปากชมว่า “รสชาติดี อร่อย สรรพคุณชุ่มคอแก้ไอ” ก่อนซื้อผักกาดดองวังสระปทุมของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายกฯยังได้เยี่ยมชมบูธโครงการทหารพันธุ์ดีของมูลนิธิชัยพัฒนา โดยนายกฯควักเงินซื้อข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ เกษตรอินทรีย์ และไข่เค็มใบเตย ระหว่างที่นายกฯเดินเยี่ยมชมงานกาชาดได้กล่าวว่า “รู้สึกครึกครื้นดีกับหลายกิจกรรม” พร้อมร่วมบริจาคที่บูธกาชาด ซื้อสลากกาชาด โดยนายกฯเดินร่วมงานอยู่นาน ๑ ชั่วโมง“เสี่ยหนู” ส่งใจไม่มอง ปชป.เป็นศัตรูนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกพรรค ปชป.ไหลออกจำนวนมาก หากจะมาร่วมกับพรรค ภท.จะรับหรือไม่ว่า พรรค ภท.ยังไม่คิดเรื่องนี้ เวลาใครมีปัญหาหรือไม่อะไร ถ้าเป็นพรรคพวกกันเราต้องแสดงความเห็นใจส่งกำลังใจไปให้อะไรที่เราช่วยเหลือได้ควรต้องช่วย มันไม่มีองค์กรไหนที่ตั้งขึ้นมาแล้ว ไม่มีอุปสรรคหรือผ่านฉลุยไปตลอด พรรคใหญ่หรือเล็กล้วนแล้วแต่ประสบอุปสรรค เพียงแต่ผู้บริหารแต่ละพรรคจะฟันฝ่าใช้ประสบการณ์ บารมีความสามารถก้าวข้ามไปได้อย่างไร “ผมสนิทกับท่านเฉลิมชัย รักกันมากด้วย ทำงานร่วมกันมาในรัฐบาลตั้ง ๔ ปี ต้องให้กำลังใจท่าน เราต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่ได้มองเป็นคู่แข่งบทบาทหน้าที่หาเสียงเลือกตั้งเป็นบทบาทของแต่ละพรรค ไม่มีนายเฉลิมชัยก็มีคนอื่นอีก อย่าไปคิดว่าเป็นคู่แข่งกันเลย ได้โทร.ไปแสดงความยินดีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามกระเซ้าว่าได้พูดคุยชักชวนมาร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “โอ้ย ไม่มีอย่าเพิ่งเลยให้ท่านได้บริหารจัดการให้เรียบร้อยก่อน”ท่องคาถาห้ามแตะห้ามแก้ ม.๑๑๒นายอนุทินกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ชทพ. เสนอแนะให้มีการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในนามพรรคร่วมรัฐบาล รอว่าจะมีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ ภท.เราไม่มีปัญหากับกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ถ้าแก้ก็ไม่ได้ ส่วนที่พรรค พท.เสนอตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อศึกษา ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ เมื่อถามว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผลักดันเรื่องนิรโทษฯ จนรัฐบาลมีปัญหากังวลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “นานไปแล้วจำไม่ได้ ตอนนั้นผมยังไม่เข้าการเมืองเลยมั้ง เอาปัจจุบันดีกว่า”tt tt“ท็อป” ชี้พรรคร่วม รบ.ต้องคุยกันก่อนนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าหากพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลอาจมีการปรับ คณะรัฐมนตรีว่า ต้องแล้วแต่แนวทางของพรรค พท.พรรคใหญ่ ต้องดูว่าต้องนำพรรคไปเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่ และพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะปรับหรือไม่ หรือแม้แต่พรรคใหญ่เองจะปรับอย่างไร แต่ถึงอย่างไรท้ายที่สุดพรรคร่วมรัฐบาลต้องมาพูดคุยหารือกันก่อนว่าหากเข้ามาแล้วจะปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือมีแนวทางอย่างไร ทุกพรรคมีสิทธิและแนวทางจะดำเนินการรทสช.ชงร่าง พระราชบัญญัติประกบนิรโทษฯนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า จุดยืนเรื่อง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของพรรค รทสช.ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรม แต่พรรคเห็นด้วยหากจะให้ประชาชนที่มีเจตนาบริสุทธิ์ใช้สิทธิเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ปี ๒๕๔๘-๒๕๖๕ ไม่ต้องรับผิด โดยยกเว้น ๓ กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ ความผิดมาตรา ๑๑๒ ความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกลุ่มที่กระทำผิดต่อชีวิตผู้อื่นจนทำให้ถึงแก่ความตาย ขณะนี้พรรค รทสช. โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. เป็นผู้ร่างกฎหมายใช้ชื่อว่า พระราชบัญญัติสร้างสรรค์สังคมสันติสุข เพื่อนำเสนอประกบไปด้วย โดยเนื้อหารายละเอียดทั้งหมดได้ดำเนินการภายใต้จุดยืนหลักของพรรค คือ การสร้างความสามัคคีปรองดองก้าวไกลลุยขอเลื่อนถก พระราชบัญญัติงบฯ ๖๗เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานนสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ขอหารือ โดยขอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ที่นัดพิจารณาวาระแรกในวันที่ ๓ มกราคม๒๕๖๗ ออกไปก่อน เพื่อให้ สส.ใช้เวลาพิจารณาเนื้อหาในร่าง พระราชบัญญัติอย่างถี่ถ้วน เพราะขณะนี้ร่าง พระราชบัญญัติยังไม่ส่งมาให้สภาฯ และเชื่อว่าไม่กระทบให้การพิจารณาให้ล่าช้า เพราะในวาระ ๒-๓ สามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามปฏิทินได้ปชป.จี้เร่งคลอดหวั่นชนถกงบฯ ๖๘ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรี ธรรมราช และรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๗ จะทันหรือไม่ ต้องถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ที่ควรเร่งรัดเรื่องนี้ เพราะหากปล่อยให้ไม่มีงบประมาณใช้เศรษฐกิจจะแย่ นายกฯอย่าเอาเวลาคิดเรื่องจะกู้เงินและไปต่างประเทศ หรือคิดเป็นศรีธนญชัยในแต่ละวัน ตามไทม์ไลนจะใช้งบฯได้ในเดือน พฤษภาคมแต่กว่าเงินจะอัดฉีดในระบบเศรษฐกิจก็ประมาณเดือน ส.ค. ดังนั้น นายกฯต้องเร่งรัดให้สภาฯ พิจารณาให้ทันในวันที่ ๓-๔ มกราคม๖๗ เพราะต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน ๑๐๕ วัน ที่จะครบในช่วงเดือน มีนาคมถึงต้น เมษายนกว่าจะประกาศใช้เดือน พฤษภาคมหากล่าช้ากว่านี้จะไปชนกับร่าง พระราชบัญญัติงบฯ ปี ๖๘ทีมอเวนเจอร์โบกมือลาทิ้งไปอีกคนวันเดียวกัน นายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หนึ่งในทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจของพรรคและเป็นกรรมการทีมเศรษฐกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรคเป็น รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคต่อนายทะเบียนพรรค ปชป. โดยระบุถึงเหตุผลสั้นๆว่า “ข้าพเจ้านายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เลขที่สมาชิกพรรคหมายเลข ๖๒๔๑๐๐๐๖๕๘ ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคตั้งแต่วันที่ ๑๗ มิถุนายน๒๕๖๒ ในฐานะกรรมการทีมเศรษฐกิจ ภายใต้ทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจ ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องด้วยปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค ข้าพเจ้าจึงประสงค์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”tt ttพท.ยังไม่คุยส่งคนชิงพื้นที่ “ไอซ์ รักชนก”นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก ๖ ปี น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โดยไม่รอลงอาญา ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หาก น.ส.รักชนกไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ทำให้พ้นสมาชิกภาพความเป็น สส.ทันที พรรค พท.จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ว่าพรรค พท.ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ เนื่องจากต้องรอกระบวนของศาลให้สิ้นสุดก่อนว่า น.ส.รักชนกจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ก.ก.ติงราชทัณฑ์ขังนอกคุกไม่เท่าเทียมวันเดียวกัน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ ถูกวิจารณ์ออกระเบียบกำหนดสถานที่คุมขังอื่นๆ นอกเหนือจากเรือนจำได้ เอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า กังวลใจต่อวิธีการสรรหาคณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขังว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่สัดส่วนคณะทำงานกว่าร้อยละ ๘๐ เป็นข้าราชการ ทั้งสัดส่วนคนนอกยังมาจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์แต่งตั้ง ทราบดีถึงปัญหานักโทษล้นเรือนจำ แต่ที่สังคมตั้งคำถามคงไม่พ้นเรื่องบังคับใช้ให้เกิดความเท่าเทียม โดยเฉพาะนักโทษคดีการเมืองนักการเมือง นักกิจกรรม ผู้มีอำนาจ คนรวยมีเส้นสาย ต่อให้ผู้ต้องขังเป็นนักโทษชั้นดีและเข้าเกณฑ์ หากไม่มีเงินและอำนาจอาจไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเท่าเทียม ต้องยอมรับว่าความยุติธรรมในประเทศล่าช้า แต่กับบางคนมาถึงก่อนเสมอคปท.บี้ รพ.ตำรวจยึดจรรยา-กฎหมายเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น. ที่อาคารมงคลกาญจนาภิเษก โรงพยาบาลตำรวจ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ นัดหมายแนวร่วมจัดชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ “๑๒๐ วันความยุติธรรมหายไป” ทั้งนี้ กลุ่ม คปท.ได้เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงผู้บริหาร รพ.ตำรวจ ผ่าน พ.ต.อ.หญิง พรรวสี บูรณากาญจน์ นายตำรวจเวรอำนวยการขอให้พิจารณา ทบทวนการอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต พักรักษาตัวที่ชั้น ๑๔ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ ๘๘ พรรษา นายพิชิตกล่าวว่า อีกไม่กี่วัน นายทักษิณรักษาอาการป่วยที่ รพ.ตำรวจครบ ๑๒๐ วัน ขอให้ รพ.ตำรวจยึดหลักจรรยาบรรณแพทย์และรักษา กฎหมาย เพราะสร้างคำถามมากมายให้สังคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ว่า นายทักษิณอยู่ระหว่างพักฟื้น ขั้นตอนนี้นำกลับ ไปพักฟื้นที่ รพ.ราชทัณฑ์ได้ ด้านนายนัสเซอร์กล่าวว่า กรณีนายทักษิณไม่เข้าข่ายระเบียบ วันที่ ๑๔ ธันวาคมจะไปทวงถามกรมราชทัณฑ์ยังยืนยันให้อยู่นอกเรือนจำต่อหรือไม่ผู้ช่วย สส.ปัดถูกชกไม่เกี่ยวซื้อเก้าอี้เมื่อเวลา ๑๒.๓๐ น. ที่รัฐสภา นายกรณ์พงศ์ ธีรวงษ์ภัทรกุล ผู้ช่วย สส.ของนายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรค พท. แถลงถึงกรณีนายอิทธิพล (สงวนนามสกุล) บุกไปชกในทำเนียบรัฐบาลว่า ผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันเพิ่งเจอกันเมื่อวันที่ ๑๒ ธ.ค. แต่แรงจูงใจเป็นเพราะตนไปกล่าวว่าผู้ก่อเหตุอาจเข้าข่ายมิจฉาชีพ เพราะเป็นเจ้าของอู่ซ่อมและแต่งรถ มีหัวหน้าอัยการมาซื้อประกันงานซ่อม แต่ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าปลายสายที่คุยด้วยเป็นผู้ก่อเหตุที่อ้างเป็นเจ้าของรถ เมื่อทราบจึงได้นัดเจ้าของรถตัวจริงมารับรถ ได้บอกกับคนที่อู่ว่าคนที่คุยด้วยอ้างเป็นเจ้าของรถ และยังอ้างเป็นทีมงานนายสมคิด เชื้อคง ที่ปรึกษานายกฯ อาจเข้าข่ายมิจฉาชีพ ทางอู่จึงโทร.ไปหาผู้ก่อเหตุนัดกันไปเจอที่ร้านกาแฟในทำเนียบฯ เมื่อผู้ก่อเหตุมาถึงได้กล่าวว่า “มึงว่ากูเป็นมิจฉาชีพใช่ไหม” แล้วลงมือทำร้ายทันที เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีปมขัดแย้งเรื่องเงินซื้อขายตำแหน่ง นายกรณ์พงศ์ตอบว่า ไม่มั่นใจแต่ได้ยินมาแบบนั้น แต่ตอนนี้เงิน ๒ ล้านบาท พี่ของตนจ่ายไปแล้วไม่รู้ แต่ไปอยู่ที่ใคร พอไปพูดคุยกันที่ สถานีตำรวจนครบาลดุสิต เชิญอัยการเจ้าของรถมาด้วยทำให้ทราบว่าอัยการกับผู้ก่อเหตุเป็นหนี้เป็นสินกัน อาจนำรถคันนี้ไปค้ำประกัน และใช้ตนเป็นเครื่องมือเอารถออก ยืนยันว่าตนและนายชูชัย รวมถึงพรรค พท.ไม่รู้เรื่องการซื้อขายตำแหน่งใดๆอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่