“ภูมิธรรม” ร่วมเปิดม่านเวที “สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖” ระดมภาคีพิจารณา ๓ ระเบียบวาระ “ระบบสุขภาวะทางจิต-การบริหารจัดการน้ำ-ส่งเสริมการพัฒนาประชากร” เดินหน้าสร้างความเป็นธรรมในสังคม พร้อมด้วยกิจกรรมเสวนา นิทรรศการ เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกมากมายที่จัดขึ้นตลอดสองวันเต็ม เมื่อวันที่ ๒๑ ธ.ค. ๒๕๖๖ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ พ.ศ. ๒๕๖๖ ภายใต้ประเด็นหลัก (ธีม) “ความเป็นธรรมด้านสุขภาพ โอกาสและความหวังอนาคตประเทศไทย” โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพทั่วประเทศที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ คอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทยทุกคน โดยเฉพาะการสร้างและพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ รวมถึงสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพในระยะยาวให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมของคนทุกกลุ่ม อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน พร้อมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ขึ้นเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมานายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของ คสช. ที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ยังคงมีบทบาทสำคัญในการดูแลด้านยุทธศาสตร์และนโยบายภายใต้คำว่าระบบสุขภาวะ ที่ครอบคลุมทั้ง ๔ มิติ คือ กาย จิต ปัญญา และสังคม พร้อมด้วยกลไกและเครื่องมือต่างๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะ หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีtt tt”สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ถือเป็นกระบวนการที่ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างนโยบายสาธารณะ ที่นำไปสู่การตอบโจทย์แก้ไขปัญหาด้านสุขภาวะและคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนได้ ในขณะที่ประเด็นหลักของสมัชชาฯ ในช่วง ๒ ปีนี้ ซึ่งมติต่างๆ มุ่งให้ความสำคัญไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ยังนับว่ามีความสอดคล้องตรงกันกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ยึดเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน” นายภูมิธรรม กล่าวทั้งนี้ นายภูมิธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่ายสมัชชาสุขภาพทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมภายในงานยังได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ “สานพลังหน่วยงาน องค์กรภาคี เครือข่าย ร่วมขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะสู่ความเป็นธรรมด้านสุขภาพและสังคม” โดยจะร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในสังคมให้เกิดเป็นพลังขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ ทั้ง ๓ มติ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพให้เกิดขึ้นในสังคมไทยสำหรับกิจกรรมหลักของงานที่จัดขึ้นต่อเนื่องระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ธ.ค. ๒๕๖๖ จะเป็นการร่วมกันพิจารณาระเบียบวาระสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ รวม ๓ มติ ประกอบด้วยมติที่ ๑ “ระบบสุขภาวะทางจิตเพื่อสังคมไทยไร้ความรุนแรง” มีกรอบทิศทางนโยบาย (Policy Statement) ในการที่จะพัฒนาระบบสุขภาวะทางจิต ที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วนและทุกระดับของสังคม อันครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาทักษะสุขภาพจิตส่วนบุคคล พฤติกรรม วิถีชีวิต การเยียวยารักษา ไปจนถึงการออกแบบและพัฒนานโยบายที่เป็นไปตามหลักสากล ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเอื้อต่อการมีสุขภาวะทางจิตที่ดีสำหรับทุกคนในประเทศไทยtt ttมติที่ ๒ “การส่งเสริมความเข้มแข็งกลไกการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่” มีกรอบทิศทางนโยบายในการที่จะส่งเสริมความเข้มแข็งกลไกการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม ในลักษณะหุ้นส่วนของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และกลุ่มเครือข่าย โดยมีแผนบูรณาการกับ คณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด องค์กรผู้ใช้น้ำ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนในระดับพื้นที่มติที่ ๓ “การส่งเสริมการพัฒนาประชากรให้เกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ” มีกรอบทิศทางนโยบายในการที่จะพัฒนาเด็กให้เกิดและเติบโตเป็นทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพ อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยการดำเนินการผ่าน ๑. การสร้างแรงขับเคลื่อนทางสังคมครั้งใหญ่ให้เห็นถึงความสำคัญ ๒. การมีนโยบายที่เป็นมิตรกับครอบครัว ที่เอื้อต่อการมีและดูแลบุตร ๓. การนำแนวคิดชุมชนนำ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเอื้อต่อกระบวนการเรียนรู้ในการเลี้ยงดูและพัฒนาเด็ก ๔. การพัฒนาระบบสนับสนุนเพื่อเป็นฐานในการวางนโยบายที่มีประสิทธิภาพในระยะต่อไป ด้าน นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า หัวใจสำคัญที่จะเกิดขึ้นจากเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ ตลอดช่วงสองวันนี้ คือการรับรองฉันทมติและแสดงถ้อยแถลงเพื่อร่วมกันขับเคลื่อน ๓ มติ ที่ล้วนเป็นนโยบายสาธารณะที่มุ่งตอบโจทย์ประเด็นปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งปลายทางของมติเหล่านี้จะถูกนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการตามบทบาทและหน้าที่ต่อไป นพ.สุเทพ กล่าวว่า ในส่วนกิจกรรมของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ ช่วงวันที่ ๒๑-๒๒ ธันวาคมนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญอีกมากไม่ว่าจะเป็นการร่วมฟังปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Institutionalizing Social participation for Health and Well-being” โดย Ms.Saima Wazed ว่าที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEARO Regional Director Elect) และประธานมูลนิธิ Shuchona Foundation (SF) ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “สานพลังรับมือสังคมสูงวัย ภารกิจร่วมของทุกคน” โดย นพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งจะมีการประกาศเจตนารมณ์และพิธีลงนามความร่วมมือ “การลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs)” ระหว่างหน่วยงาน ภาคี และผู้ประกอบกิจการร้านอาหารด้วย tt ttนอกจากนี้ภายในงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ ยังมีกิจกรรมและนิทรรศการที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งเวทีเสวนาและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่หลากหลายกว่า ๑๕ หัวข้อ อาทิ ความมั่นคงทางอาหาร การใช้ยาอย่างสมเหตุผล ผังเมือง คนรุ่นใหม่ ระบบหลักประกันสุขภาพ การคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน สุขภาวะทางจิต สังคมสูงวัย นวัตกรรมนโยบายสาธารณะ บุหรี่ไฟฟ้า สถานชีวาภิบาล เป็นต้น