เรื่องการตรวจสอบการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ทักษิณ ชินวัตร ในกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะ กระทรวงยุติธรรม และ กรมราชทัณฑ์ ถูกโฟกัสมากที่สุด และกำลังจะถูกโยงมาเป็นชนวนการเมืองระลอกใหม่ก่อนอื่นกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นว่าการฯ ยังตอบคำถามไม่ชัดเจนถึงขั้นตอนการปฏิบัติต่อ ทักษิณ ที่พักรักษาตัวอยู่ชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันแรกที่เดินทางกลับประเทศไทย มามอบตัวในฐานะนักโทษ และรับคำพิพากษาจากศาลยุติธรรมเข้าสู่กระบวนการขอลดโทษ และอยู่ในระหว่างการรับโทษ จะครบกำหนดการรับโทษ ๒ ใน ๓ วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะมีการขอพักโทษ หรือการควบคุมตัวนอกเรือนจำ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ต่อไปเนื่องจากได้รับการร้องขอจาก ทักษิณ อยู่ในภาวะการเจ็บป่วยที่ร้ายแรง ต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ตามที่กรมราชทัณฑ์ กำหนดช่วงเวลาเอาไว้ ไม่เกิน ๖๐ วัน ไม่เกิน ๑๒๐ วัน โดยการพิจารณาอนุญาตให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ ที่จะทำความเห็นถึง ผบ.เรือนจำ และ ผบ.เรือนจำก็จะเป็นผู้อนุญาตต่อไปเพราะฉะนั้น กระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแล กรมราชทัณฑ์ จะดูแลภาพการทำงานทั่วไป อำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับ ผบ.เรือนจำ และ ผบ.เรือนจำ ก็ต้องรับฟังความเห็นทางการแพทย์จาก แพทย์เจ้าของไข้ หรือ แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้งดังนั้น ทักษิณ ที่ปฏิบัติตามขั้นตอนการเข้ารับการรักษาโดยได้รับอนุญาตจาก ผบ.เรือนจำ จึงไม่สามารถจะไปเอาผิดอะไรกับ ทักษิณ ถึงแม้จะมีความเคลือบแคลงใจในกระบวนการขั้นตอนต่างๆ แค่ไหนก็ตาม ในเมื่อกฎหมายเปิดช่องเอาไว้ทุกอย่างผบ.เรือนจำ ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะต้องปฏิบัติตาม ความเห็นของแพทย์ แพทย์ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบได้เพราะ มีหน้าที่วินิจฉัยอาการป่วยคนไข้ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวและไม่สามารถเข้าไปล่วงล้ำคำวินิจฉัยของแพทย์ได้ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ตาม สุดท้ายก็คงเป็นกระทรวงยุติธรรมที่อ้างได้ว่าตามระเบียบแล้ว เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ไม่สามารถเข้าไปล้วงลูกได้ทีนี้ ปัญหาจะตีกลับมาที่ กลุ่มความเคลื่อนไหว ที่ออกมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ยกตัวอย่าง กรรมาธิการตำรวจ ที่มี ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน เคลื่อนไหวกรณีนี้เป็นพิเศษพากรรมาธิการไปดูข้อเท็จจริงที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ขึ้นไปชั้น ๑๔ แต่ไม่ได้พบ ทักษิณ พบแค่ผู้คุมกับหมอ และพบว่าชั้น ๑๔ มี ทักษิณ รักษาอาการอยู่คนเดียวไม่มีคนอื่นนอกจากนี้กล้องวงจรปิดเสียทั้งด้านในและด้านนอกห้องกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ข้างทำเนียบรัฐบาล ตั้งเวทีปราศรัยขอให้มีการตรวจสอบว่า ทักษิณ อาการหนักจริงหรือป่วยการเมือง เรียกร้องให้นำตัว ทักษิณ กลับเข้าเรือนจำ ส่วนม็อบจะจุดติดหรือไม่ยังไม่รู้ทั้งหมดที่เรียงลำดับเหตุการณ์และข้อเท็จจริงต่างๆมาจนถึง ณ จุดนี้ ผลลัพธ์สุดท้ายคือชนวนการเมือง ระหว่างทักษิณกับคนที่ไม่ เอาทักษิณ รวมทั้งคู่รักคู่แค้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรักษาจุดขายเอาไว้ให้ได้ก้าวข้ามทักษิณไม่พ้นอยู่ดี.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม
เรื่องที่เกี่ยวข้อง