รอน เดอซานติส ผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวแล้ว และหันไปให้การสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ยุติการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และให้การสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพียงสองวันก่อนการเลือกตั้งขั้นต้นครั้งสำคัญในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทำให้นิกกี้ เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตสหประชาชาติ เป็นผู้ท้าชิงคนสุดท้ายของทรัมป์ ในการเสนอชื่อชิงตำแหน่งของพรรครีพับลิกันการตัดสินใจของเดอซานติส เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ให้กับทรัมป์ในรัฐไอโอวา แม้เดอซานติสถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่มีแนวโน้มมากที่สุดของพรรครีพับลิกันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนนี้ การถอนตัวของเดอซานติส ยังทำให้เฮลีย์จะต้องต่อสู้กับทรัมป์ ซึ่งยังคงกุมอำนาจต่อผู้ลงคะแนนเสียงของพรรครีพับลิกัน แม้จะต้องเผชิญกับการดำเนินคดีทางอาญาถึง ๔ คดี นอกจากนั้น ผู้สนับสนุนของเดอซานติส ดูเหมือนจะหันไปให้การสนับสนุนทรัมป์มากกว่าจะเป็นเฮลีย์ โดยในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประมาณ ๒ ใน ๓ ของผู้สนับสนุนเดอซานติส อ้างว่าทรัมป์เป็นตัวเลือกที่สองของพวกเขา ในวิดีโอยาวเกือบห้านาทีบน X ซึ่งเผยแพร่เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ นายเดอซานติส กล่าวว่า ได้ยกเลิกการหาเสียงทุกอย่างแล้ว เขากล่าวว่าเขาสนับสนุนนายทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีคะแนนนำอย่างชัดเจน หลังจากชนะการชิงชัยครั้งแรกในรัฐไอโอวาด้วยคะแนนเสียง ๕๑% นายเดอซานติส กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าผู้ลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของพรรครีพับลิกัน “ต้องการให้โอกาสแก่โดนัลด์ ทรัมป์อีกครั้ง”ในการหาเสียงเมื่อวันอาทิตย์ที่เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ทรัมป์กล่าวชื่นชมเดอซานติส และกล่าวว่า เขารอคอยที่จะทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครตจากการสำรวจพบว่าทรัมป์มีคะแนนนำเหนือเฮลีย์ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์เป็นเลขสองหลัก และหวังว่าชัยชนะครั้งที่สองติดต่อกัน จะทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนของพรรคในท้ายที่สุด นอกจากนี้ เขายังมีคะแนนนำในรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งจะลงคะแนนเสียงในวันที่ ๒๔ ก.พ. และหากเฮลีย์พ่ายแพ้ในรัฐบ้านเกิดของเธอ ซึ่งเธอดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐระหว่างปี ๒๕๕๔ ถึง ๒๕๖๐ มีแนวโน้มว่าจะส่งผลเสียต่อการรณรงค์หาเสียงของเธอเมื่อต้นปีที่แล้ว เดอซานติสถือเป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนสำคัญ และเป็นทายาททางการเมืองของทรัมป์ จากรูปแบบการต่อสู้และมุมมองด้านอนุรักษนิยม แต่การสนับสนุนของเขาลดลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากกลยุทธ์การหาเสียงที่มีข้อบกพร่อง และสร้างความรู้สึกไม่สบายใจกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการหาเสียง และไม่สามารถสร้างความสั่นคลอนต่อฐานเสียงส่วนใหญ่ของทรัมป์ในพรรคได้จากการสำรวจส่วนใหญ่พบว่าพรรครีพับลิกันมากกว่า ๗๐% มีความคิดเห็นในแง่บวกต่อทรัมป์ ทำให้เดอซานติสต้องพยายามเกลี้ยกล่อมผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังคงชื่นชมทรัมป์ รวมถึงผู้ที่ไม่ชอบทรัมป์ แต่เดอซานติสกลับไม่เคยประสบความสำเร็จในการบอกกับผู้สนับสนุนทรัมป์ส่วนใหญ่ ว่าทำไมเขาจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า.ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
