วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

ไฟไหม้บ้านไม้โบราณ ๑๐๐ ปี ของที่ปรึกษาราชสกุลอาภากร เพลิงเผาวอดทั้งหลัง

25 ม.ค. 2024
63

ระทึกกลางดึก เกิดเหตุไฟไหม้บ้านไม้โบราณ ๑๐๐ ปี ในซอยพหลโยธิน ๒/๑ ของ “พล.ร.ต.กรีฑา” ที่ปรึกษาราชกุลอาภากร ผู้เขียนหนังสือ “หมอเทวดา” เพลิงได้ลุกลามบ้านใกล้เคียงอีก ๕ หลัง โดยเผาวอดทั้งหลังเสียหาย รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เป็นอัตชีวประวัติของ “เสด็จเตี่ย”เมื่อเวลา ๐๔.๐๐ น. วันที่ ๒๕ ม.ค. ๖๗ พ.ต.ท.พรชัย โรจน์วิภาต  สว.สอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดินแดง รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน เรือนประชาชน เหตุเกิดซอยพหลโยธิน ๒/๑ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อมรถน้ำ ๕ คัน ของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพหลโยธินสถานีฯ ลาดยาว และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ ๒ ชั้น สมัยโบราณเก่าแก่ ปลูกติดกันหลายหลัง อายุเกือบร้อยปี บ้านต้นเพลิงบ้านเลขที่ ๑๕๒/๓ มีแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากและลุกลามบ้านติดอยู่ด้านหลังบ้านไม้ ๒ ชั้น เลขที่ ๑๕๒ เป็นบ้านของ พล.ร.ต.กรีฑา พรรธนะแพทย์ อายุ ๙๑ ปี ที่ปรึกษาราชกุลอาภากร ผู้รวบรวมและเรียบเรียงหนังสือ “หมอพรเทวดา” อัตชีวประวัติของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ หรือ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ไหม้เสียหายทั้งหลังและยังลุกลามบ้านใกล้เคียง อุปสรรคเป็นซอยแคบรถน้ำเข้าไม่ถึงเจ้าหน้าที่ลากสายยางเป็นระยะเกือบร้อยเมตร ระดมฉีดน้ำนานประมาณ ๔๐ นาที เพลิงสงบ ไฟไหม้บ้านวอดไป ๕ หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนายชลธิศ พรรธนะแพทย์ อายุ ๕๘ ปี ลูกชายของ พล.ร.ต.กรีฑา กล่าวว่า ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านร้องตะโกนว่าไฟไหม้ เมื่อชะโงกหน้าออกมาดูก็เห็นแสงเพลิงสีแดงมาจากชั้น ๒ ของบ้านร้างเก่าแก่อายุ ๑๐๐ ปี ที่ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ตนและภรรยารีบพาพ่อที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และคนในบ้านรวม ๔ คน และรถอีก ๒ คันออกมา ส่วนทรัพย์สินที่เหลือเอาออกมาไม่ทัน เพียงแวบเดียว ไฟก็ลามมาลุกไหม้บ้านของตนเสียหายเกือบทั้งหมดเพราะเป็นบ้านไม้ รวมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เป็นอัตชีวประวัติของ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ยนายชลธิศ เผยอีกว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตนพยายามแจ้งเจ้าของที่ดังกล่าวให้รื้อบ้านออก เพราะเมื่อไม่มีคนดูแล สภาพบ้านก็ทรุดโทรมเป็นอย่างมาก หลังคาถล่มลงมา สร้างความเสียหาย มีแมวจรจัดและสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษต่างๆ เข้ามาอาศัย ส่งกลิ่นเหม็น ยิ่งหน้าฝน ทำให้ฝนชะล้างสิ่งสกปรกไหลมาที่บ้านของตน จนได้รับความเดือดร้อน ยังไม่รวมถึงสายไฟที่ชำรุด เกรงจะเกิดไฟไหม้ โดยครั้งล่าสุดที่แจ้งเจ้าของที่ไปให้มารื้อถอนบ้าน ก็เป็นช่วงก่อนปีใหม่ไม่นาน แต่เจ้าของที่ก็เพียงมารื้อถอนหลังคาที่ถล่มใส่บ้านของตนออกเท่านั้น และไม่ได้ทำอะไรต่อ จนมาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ อยากเรียกร้องให้เจ้าของที่ออกมารับผิดชอบบ้านทุกหลังที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้นสาเหตุของเพลิงไหม้ยังต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากต้นเพลิงเกิดในบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย หลังจากนี้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดินแดง จะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำต่อไป