วันศุกร์, 8 พฤศจิกายน 2567

ประเด็นฉาว "กระเป๋าดิออร์" ฉุดคะแนนเสียงปธน.เกาหลีใต้ ก่อนการเลือกตั้ง

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเกาหลีใต้ถูกแอบถ่ายขณะรับกระเป๋าแบรนด์หรู “ดิออร์” เป็นของขวัญจากบาทหลวงรายหนึ่ง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก และอาจกระทบต่อการเลือกตั้งในเดือนเมษายนนี้ภาพจากกล้องที่ซ่อนอยู่ซึ่งเผยให้เห็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีใต้รับกระเป๋าดิออร์เป็นของขวัญ ส่งผลให้ประธานาธิบดียุน ซอกยอล และพรรครัฐบาลเผชิญเรื่องอื้อฉาว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทวงคืนเสียงข้างมากในรัฐสภาในการเลือกตั้งเดือนเมษายนนี้สมาชิกบางคนของพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) พรรคฝ่ายอนุรักษนิยมของนายยุน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีและ คิม กอนฮี ภรรยาของเขา ออกมาขอโทษสำหรับเหตุการณ์ที่เกาหลีใต้เรียกว่าเป็น “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับกระเป๋าดิออร์” และให้ออกมายอมรับว่า การรับกระเป๋าดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพื่อหวังให้เรื่องสงบลงสำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่าไม่มีข้อมูลที่จะเปิดเผย ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่าการเลือกที่จะนิ่งเงียบและการผลักให้หัวหน้าพรรคลาออกเนื่องจากการไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของสมาชิกบางคน ทำให้นายยุนเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ ที่อาจส่งผลให้พรรคพีพีพีได้รับความเสียหายในการเลือกตั้งวันที่ ๑๐ เมษายนนักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่เธอรับกระเป๋าเงินซึ่งมีราคา ๓ ล้านวอน (ราว ๘๐,๓๗๓ บาท) อาจเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการติดสินบน ขณะที่ผู้สนับสนุนนายยุนกล่าวว่า คิมตกเป็นเหยื่อของแผนการที่ผิดกฎหมายเพื่อทำลายและใส่ร้ายเธอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน หลังช่องในยูทูบช่องหนึ่งเผยแพร่คลิปวิดีโอที่บาทหลวงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีคนหนึ่งซ่อนกล้องไว้อย่างลับๆ ขณะที่เขาไปเยี่ยมคิมและยื่นกระเป๋าให้เธอบาทหลวงอับราฮัม ชอย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนทางศาสนากับเกาหลีเหนือ และเป็นผู้สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับเกาหลีเหนือ กล่าวว่า ในตอนแรกเขาต้องการพบปะกับคิม เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเกาหลีเหนือที่เข้มงวดของนายยุนชอยกล่าวว่า การพูดคุยเรื่องของขวัญราคาแพงกับคิม ซึ่งเป็นคนรู้จักของครอบครัว ซึ่งรวมถึงเครื่องสำอางของชาแนล ที่เขาอ้างว่าได้มอบให้เธอในการพบกันครั้งแรก ทำให้เขาเชื่อว่าของขวัญดังกล่าวเป็นวิธีเดียวที่จะดึงดูดความสนใจของเธอได้สำนักงานประธานาธิบดี ระบุว่า ไม่มีข้อมูลใดๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของชอย โดยเจ้าหน้าที่ประธานาธิบดีที่ไม่เปิดเผยชื่อ บอกกับสำนักข่าวยอนฮัปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ชอยจงใจเข้าหาคิมโดยมีเจตนาที่จะถ่ายคลิปอย่างผิดกฎหมาย โดยใช้ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเขา และของขวัญที่มอบให้ทั้งคู่ได้รับการจัดการและเก็บไว้เป็นทรัพย์สินของรัฐบาลหลังการพบกันครั้งแรก ชอยกล่าวว่าตนได้ร่วมมือกับผู้สื่อข่าวทางช่องยูทูบรายหนึ่งให้ถ่ายวิดีโอในขณะที่เขากำลังมอบกระเป๋าดิออร์ให้กับเธอระหว่างการพบกันรอบที่สองนอกจากนั้น คิม ยังเผชิญข้อกล่าวหาเรื่องปั่นหุ้นเมื่อประมาณ ๑๒ ปีที่แล้ว โดยเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติให้มีการแต่งตั้งอัยการพิเศษทำหน้าที่รื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาตรวจสอบพรรคพีพีพีคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งเป็นแผนการของพรรคประชาธิปไตยเกาหลี เพื่อขัดขวางการสอบสวนนายลี แจ-มยอง ผู้นำพรรค และข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตของเขา โดยนายยุนวีโต้ร่างกฎหมายดังกล่าวเนื่องจากมีแรงจูงใจทางการเมือง นอกจากนั้น เมื่อปี ๒๕๖๔ คิมได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณะหลังจากถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารด้านวิชาชีพและลอกเลียนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ในช่วงที่สามีของเธอกำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีความตึงเครียดระหว่างปธน.ยุนและพรรคพีพีพีทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่สมาชิกระดับสูงของพรรคออกมาเปรียบ คิม กอนฮี ว่าเหมือนกรณีของพระนางแมรี อังตัวเนตต์ ราชินีแห่งฝรั่งเศสที่โด่งดังจากความสุรุ่ยสุร่ายของเธอในการสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์ YTN ที่จัดทำในสัปดาห์นี้ ๖๙% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่านายยุนจำเป็นต้องอธิบายจุดยืนของเขาที่เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งการสำรวจอีกครั้งโดยสื่อสิ่งพิมพ์ทางการเงิน News Tomato ในเดือนธันวาคม พบว่า ๕๓% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าคิมกระทำการที่ไม่เหมาะสม ในขณะที่ ๒๗% บอกว่าเธอติดกับดักที่จงใจทำให้เธออับอาย.ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign