วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย (ตอนที่ ๒)

27 ม.ค. 2024
33

สถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นเคยได้ประกาศว่า ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างไวรัสโคโรนาใหม่ ด้วยวิธีการต่างๆจาก Ralph Baric ที่ North Carolina มานานแล้วการสอบสวนของรัฐสภาสหรัฐฯในเรื่องการสร้างไวรัสใหม่ที่เกิดขึ้นในปี ๒๐๒๒ ซึ่งสามารถดูได้จาก YouTube เนื่องจากมีความยาวมากจึงได้มีการจัดแบ่งเป็นตอนที่หนึ่งและสอง •First senate hearing on gain of function research since start of pan demic-part ๑ and ๒ (๒๐๒๒) •https://www.youtube.com/live/koUvMznvsqs?si=Mm๙gTDRQuty๓m๑RJและ •https://www.youtube.com/live/rinfVVWwwyY?si=๒nC๙glZUP๐VLoCW๙ และต่อเนื่องกันจนถึงปัจจุบัน จนมีความสำเร็จในการแปรญัตติที่จะระงับทุนของ NIH และหาตัวคนที่รับผิดชอบการเสียชีวิตของมนุษย์หลายล้านคนการสอบสวนของวุฒิสภาความมั่นคงของมาตุภูมิ ในวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๐๒๒ (ตอนที่สองใน YouTube) พบว่า การทดลองสร้างไวรัสใหม่ให้รุนแรงกว่าเดิมนั้น เริ่มตั้งแต่ปี ๒๐๐๒ ถึง ๒๐๐๓ และจนกระทั่งในปี ๒๐๑๑ มีรูปแบบการสร้างไวรัสที่เป็นมาตรฐานนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นพยานและให้หลักฐาน ได้แก่ Richard H Ebright จากสถาบัน Waksman มหาวิทยาลัย Rutgers Steven Quay จาก Atossa Therapeutics และ Kevin M Esvelt จาก MIT Steven Quay เป็นพยานให้การ และให้หลักฐานของการที่โควิดเกิดจากการปรับแต่งให้เกิดโรคในคน และไม่ได้มาจากธรรมชาติ Steven ให้การต่อรัฐสภาตั้งแต่มิถุนายน ๒๐๒๑ และ ๓ สิงหาคม ๒๐๒๒ (YouTube ตอนที่หนึ่ง)รัฐสภาได้ลำดับเหตุการณ์การศึกษา สร้างไวรัสใหม่ที่มีการยุติในปลายสมัยโอบามา และ NIH ได้รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่โดยให้ทุนแก่ North Carolina และ ด็อกเตอร์Shi ซึ่งต่อมาได้ถูกให้ยุติ แต่กระนั้นมีการให้ทุนใหม่โดย NIH โดยไม่มีการให้ตรวจสอบจากกรรมการภายนอก จนกระทั่งเกิดการระบาดของโควิดRichard H Ebright ยืนยันว่ามีการยุติการให้ทุนของ NIH จริง แต่ NIH ยังทำต่อ คำอธิบายว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์ยังคงทำการวิจัยที่อันตรายเหล่านี้ คำตอบก็คือมีผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุนวิจัยหรือชื่อเสียงที่ได้จากการตีพิมพ์Kevin ได้สนับสนุนในการให้ยุติกระบวน การศึกษาสร้างไวรัสใหม่ ทั้งนี้ด้วยหลักฐานที่เชื่อมโยงการเกิดโควิดและการให้ทุนกับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น ทั้งนี้สามารถที่จะกลายเป็นอาวุธทำลายร้ายแรง หรือ weapon of mass destruction ด็อกเตอร์Robert Redfield ผู้อำนวยการ CDC ในช่วง ๒๐๑๘ ถึง ๒๐๒๑ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นในฐานะที่อยู่ในคณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดี เช่นเดียวกับ Fauci ได้แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการที่ Fauci ปฏิเสธโควิดจากห้อง lab ทั้งที่มีหลักฐานคัดค้านกับการเกิดตามธรรมชาติ และกล่าวซ้ำในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๐๒๓ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ที่มีชื่อเสียง ได้กล่าวเปิดโปง Daszak ประธานองค์กร EcoHealth alliance มาแล้ว จากการที่ท่านเป็นประธาน Lancet Commission และได้ตั้ง Daszak ในการสืบหาต้นตอของโควิดtt ttปรากฏว่า Daszak โกหกมาตลอด (ใช้คำว่า Lie) นอกจากนั้น ยังเปิดเผยว่า Ian Lipkin จาก Columbia ซึ่งทำหนัง contagion ในปี ๒๐๑๑ และเป็นผู้ที่มาเยี่ยมที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพหลายครั้งระหว่างที่เราได้รับทุนจากสหรัฐฯ เป็นอีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ EcoHealth alliance และพยายามล้มล้างทฤษฎีการเกิดจากแล็บ และทำให้เป็นทฤษฎีสมคบคิด…ในวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๐๒๓ รัฐสภาสอบสวน Samantha Powell ของ USAID การให้ทุนกับสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่น…วันที่ ๕ มีนาคม ๒๐๒๓ รัฐสภาสหรัฐฯสืบสวนกรณีบทความในวารสารเนเจอร์ (Proximal Origin) ที่ตีพิมพ์ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ หลังจากเกิดโควิดได้สองเดือน จากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ และพบว่า Fauci มีการร่างบทความ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อ โดยในงานนี้เป้าหมายคือ การดิสเครดิต “โควิดเกิดจากแล็บ” รวมทั้ง Jeremy Farrah (Oxford Welcome Trust) และปัจจุบัน เป็น Chief Scientist ของ WHO ตั้งแต่ ๒๐๒๓ ได้เกี่ยวข้องกับรายงานตีพิมพ์ฉบับนี้แต่ไม่ได้มีชื่ออยู่บันทึกจากสภาคองเกรส ในวันที่ ๕ มีนาคม ๒๐๒๓ ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ที่ Fauci และ Collins และอย่างน้อยอีก ๑๑ คน ที่ได้มีการประชุมผ่าน conference call และตัว Fauci และ Collins ได้ถูกเตือนว่า โควิดอาจจะเกิดจากสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นโดยการตั้งใจที่จะสร้างไวรัสใหม่สามวันหลังจากนั้น นักวิทยาศาสตร์สี่คนที่ร่วมประชุมได้ร่างบทความ Proximal origin และส่งดราฟต์ให้ Fauci และ Collins เพื่อตรวจทานและแก้ไขก่อนที่จะส่งไปยังวารสารเนเจอร์ในวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๐๒๐ หลังจากที่ตีพิมพ์ในวารสารแล้ว Collins ได้อีเมล ถึง Fauci แสดงความผิดหวังว่า เนื้อหายังไม่รุนแรงพอที่จะล้มล้างโควิดมาจากแล็บ และต้องการให้ NIH กดดันมากขึ้น ดังนั้นในวันต่อมา Fauci ได้สำทับในการให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาวว่า โควิดไม่ได้เกิดจากแล็บ และเป็นทฤษฎีสมคบคิดบันทึกของรัฐสภาสหรัฐฯจากการสอบสวนชัดเจนว่า มีการพยายามล้มล้างและป้ายสีว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด โดยบทความที่ตีพิมพ์นั้นถือเป็นภารกิจสำคัญ และ Kristen Andersen Scripps research ถึงกับเขียนไปหาวารสารเนเจอร์ ในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ให้แสดงสิ่งรอบด้านที่น่าจะเป็นต้นกำเนิดโควิดที่แท้จริง แต่อย่างไรก็ตาม กลับได้พูดในสาธารณะว่า โควิดนั้นมาจากตัวนิ่ม หรือลิ่น pangolin และมาจากธรรมชาติแน่จากการสอบสวนของรัฐสภาพบว่า การกล่าวอ้างโควิดมาจากตัวนิ่มหรือตัวลิ่นนั้น Andersen เองก็ไม่ได้เชื่อหลักฐานจาก pangolin ว่าจะสามารถล้มล้าง การหลุดออกมาจากแล็บได้ และตัว Lipkin เอง ในขณะที่ร่างบทความในเนเจอร์นั้นได้ให้ความเห็นและเหตุผลว่า โควิดนั้นยังสามารถมาจากสถาบันอู่ฮั่นได้ จากการที่สถาบันมีการศึกษาไวรัสโคโรนา จากค้างคาวมาอย่างยาวนาน รวมทั้งการเกิดในมนุษย์รายแรกทำให้ไม่สามารถตัดการเกิดจากแล็บได้ด็อกเตอร์Holmes เห็นด้วยกับ Lipkin และติดต่อกับ Farrar โดยพูดว่าโควิดแม้จะใกล้เคียงกับซาร์ส แต่มีลักษณะแปลกออกไปเหมือนกับมีการปรับแต่งเพื่อให้เข้ามาในมนุษย์และแพร่กระจายออกไป ทั้งนี้ด้วยหลักฐานทางระบาดวิทยาที่น่ากังวลLipkin อีเมลหา Farrah และขอบคุณที่จัดการเรื่องบทความพร้อมกับบอกว่า มีข่าวลือในประเทศจีนเองว่า มีการสร้างโควิดเป็นอาวุธชีวภาพ Farrah ตอบว่าทราบแล้ว รวมทั้งมีข่าวในสหรัฐฯเองด้วย ดังนั้น ต้องรีบปล่อยบทความนี้ไปให้เร็วที่สุดและจะเป็นคนกดดันวารสารเนเจอร์เองtt ttรวมทั้งแก้ไขคำพูดในบทความให้รุนแรงขึ้นว่า ไม่มีทางที่โควิดจะเกิดขึ้นจากการปรับแต่งทางแล็บ โดยตัว Andersen เอง ได้ตอบว่า “ชัวร์” (sure)Kristen Andersen และ Robert Garry จาก ร.ร. แพทย์ Tulane ในเวลาต่อมาถูกหมายเรียก และสาบาน คำให้การต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ๒๐๒๓ และมีการลำดับไทม์ไลน์ของบทความ Proximal origin รวมทั้งเปิดเผยความเชื่อมโยงของการให้ทุนจากสหรัฐฯPaul A Gosar กรรมาธิการใน Natural resources และในการกำกับดูแล และหาคนรับผิดชอบ (oversight and accountability) ได้มีบันทึกถึงกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพนตากอน ในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๐๒๓ ถึงเรื่องการที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยังคงให้ทุนกับ EcoHealth alliance ต่อ และการที่มีความสำเร็จในการแปรญัตติที่จะยุติสองทุนในปีงบประมาณ ๒๐๒๔ ของ NIH ที่ให้ต่อ EHA หรือ EcoHealth alliance ในการหาไวรัสโคโรนาและทำการสร้างไวรัสใหม่แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยังคงให้ทุนองค์กรนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่หลายกระแสชี้ไปในทางการเกิดโควิดจากการสร้างไวรัสใหม่ของสถาบันไวรัสอู่ฮั่น และแม้แต่ผู้ตรวจการยังได้มีบันทึกแสดงให้เห็นถึงความประพฤติที่ผิดพลาดขององค์กรนี้ในการใช้ทุนจาก NIH ที่ส่งไปสถาบันไวรัสอู่ฮั่นGosar ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแจงข้อมูลเกี่ยวกับการให้ทุนต่อ EHA จำนวนเงินทั้งหมดที่ให้โครงการ และที่ยังมีการให้ทุนอย่างต่อเนื่อง การให้ทุนการวิจัยในเรื่องการต่อต้านอาวุธที่มีการทำลายล้างสูง ให้รายงานผู้ที่ทำงานร่วมกับองค์กรนี้โดยให้ชื่อทั้งหมด รายละเอียดของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นทุนโดยตรงหรือเป็นทุนที่แยกย่อยออกไป ให้รายงานทุนที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯให้ผ่าน EHA ไปยังต่างประเทศ ให้รายงานว่ายังมีโครงการใดอีกบ้างที่เกี่ยวข้องกับการสร้างไวรัสใหม่ที่ยังดำเนินอยู่และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยังคงที่จะทำการศึกษาการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงขึ้นอีกหรือไม่Gosar นอกจากส่งบันทึกให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแล้ว ยังส่งให้ NIH สถาบันวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯและ USAID และกล่าวว่า EHA ไม่สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนใดๆทั้งสิ้น หลังจากเหตุการณ์โควิดที่เกิดขึ้นที่อู่ฮั่น และคำสัญญาในการรับทุนว่าจะทำการคาดคะเนและป้องกันโรคระบาด แต่อาจจะเป็นคนที่ก่อขึ้นมาเองด้วยซ้ำ.หมอดื้อคลิกอ่านคอลัมน์ “สุขภาพหรรษา” เพิ่มเติม