วันอังคาร, 5 พฤศจิกายน 2567

สงครามระเบิด สหรัฐฯ เปิดฉากโต้อิหร่านแล้ว ถล่มเป้าหมายทั่วอิรัก-ซีเรีย

04 ก.พ. 2024
54

สงครามจากฉนวนกาซา ลามถึงตะวันออกกลางแล้ว กองทัพสหรัฐฯ เปิดฉากตอบโต้อิหร่าน โจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนทั่วอิรักและซีเรีย หลังส่งโดรนพิฆาตโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดน ทหารอเมริกันตาย ๓ ศพCNN ชี้ การโจมตีครั้งนี้ของกองทัพสหรัฐฯ เป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดกว่าที่ผ่านมา ส่งเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิด B-๑ ถล่มเป้าหมาย ๘๕ จุดในอิรักและซีเรียรบ.อิรักและซีเรียออกมาประณามถูกสหรัฐฯ ละเมิดอธิปไตยอย่างโจ่งแจ้ง ขณะที่อิหร่านชี้ รัฐบาลไบเดนดำเนินยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาด ที่จะทำให้ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ ความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ทวีความรุนแรงและตึงเครียดมากยิ่งขึ้นในที่สุด รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจตอบโต้อิหร่านและกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรีย เปิดฉากปฏิบัติการทางอากาศครั้งใหญ่ โจมตีเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธหลายสิบแห่งทั่วอิรักและซีเรีย เมื่อวันศุกร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ หลังเกิดเหตุมีโดรนติดอาวุธถูกส่งมาโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเหตุให้ทหารอเมริกันสิ้นชีพ ๓ ศพ บาดเจ็บกว่า ๔๐ นายการเปิดฉากโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ถล่มเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนทั่วอิรักและซีเรียในครั้งนี้ เป็นการโจมตีที่มีขนาดใหญ่กว่าที่ผ่านๆ มา นับตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลในเดือนตุลาคม ปี ๒๕๖๖ และทำให้กลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่อิหร่านสนับสนุน เริ่มโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อประท้วงอิสราเอลที่ทำสงครามโจมตีฉนวนกาซา เป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ แล้วกว่า ๒๗,๐๐๐ ศพtt ttกองทัพสหรัฐฯส่งร่างทหารที่เสียชีวิต ๓ นาย กลับมาตุภูมิ หลังสิ้นชีพจากเหตุกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุน ส่งโดรนโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ‘ทาวเวอร์๒๒’ ที่จอร์แดน เมื่อ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๗ชนวนเหตุสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทั่วอิรัก-ซีเรียรัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจตอบโต้อิหร่าน ด้วยวิธี ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธ ‘ขบวนการอิสลามเพื่อการต่อต้านในอิรัก’ ที่อิหร่านสนับสนุน ส่งโดรนติดอาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ‘Tower ๒๒’ (ทาวเวอร์ ๒๒) ที่จอร์แดน ใกล้ชายแดนซีเรีย เมื่อ ๒๘ มกราคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต ๓ ศพ บาดเจ็บกว่า ๔๐ นาย  การโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ‘ทาวเวอร์ ๒๒’ ในจอร์แดน ถือเป็นการสร้างความสูญเสียแก่ชีวิตของทหารอเมริกันมากที่สุดในรอบเกือบ ๓ ปี และเป็นการสูญเสียทหารอเมริกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดสงครามในฉนวนกาซาประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศว่า ‘ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบในการก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ จะต้องถูกคิดบัญชีในเวลาและวิธีการที่สหรัฐฯ เลือกเอง’ tt ttประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯสำหรับการโจมตีจอร์แดน ถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากได้โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ทั่วตะวันออกกลางถึง ๑๖๕ ครั้ง เพื่อต่อต้านอิสราเอลที่ทำสงครามในฉนวนกาซา โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่ารัฐบาลอิหร่านได้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน และการฝึกทักษะการสู้รบการใช้อาวุธให้แก่กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ในตะวันออกกลาง มีรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้รับรายงาน ทาวเวอร์ ๒๒ ในจอร์แดนถูกโจมตีแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนได้ประชุมฉุกเฉินเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม ที่ผ่านมา และอนุมัติให้กองทัพสหรัฐฯ ตอบโต้ โดยเฉพาะไบเดนได้ ‘เปิดไฟเขียว’ อนุมัติให้กองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธในอิรักและซีเรีย หลังจากได้ร่วมประชุมกับคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติระดับสูง ที่ห้องยุทธการ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๙ มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น เหมือนกับที่ได้ร่วมประชุมฉุกเฉินครั้งแรกหนึ่งวันก่อนหน้า หลังทราบข่าว ‘ทาวเวอร์ ๒๒’ โดนกลุ่มติดอาวุธโจมตีtt ttกองทัพสหรัฐฯส่งเครื่องบินรบโจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุน ทั่วอิรักและซีเรีย เมื่อ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินรบและ B-๑ ถล่มเป้าหมายทั่วอิรัก-ซีเรียทำเนียบขาวแถลงว่า ได้ส่งเครื่องบินรบ รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-๑ ไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน ทั่วอิรักและซีเรีย ๘๕ จุด โดยใช้เวลาโจมตี ๓๐ นาที และใช้กระสุนและระเบิดยิงแบบนำวิถี จำนวนกว่า ๑๒๕ ลูก ถล่มเป้าหมายต่อมา รัฐบาลอิรักแถลงว่า การโจมตีของสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอิรักอย่างน้อย ๑๖ ศพ และมีผู้บาดเจ็บ ๒๕ ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมีพลเรือนรวมอยู่ด้วยกองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีพื้นที่หลายแห่งของอิรักใกล้ชายแดนซีเรีย และมีเป้าหมายโจมตีระบบพื้นฐานของกลุ่มติดอาวุธ ‘al Hashd al Shabi’ หรือขบวนการ ‘Popular Mobilization Units’ (PMU)ในเมืองอัล-คาอิม โดยกลุ่มติดอาวุธ ‘ขบวนการ PMU’ นั้น เป็นกองกำลังกึ่งทหาร นิกายชีอะห์ ที่สำคัญในประเทศอิรักขณะที่สำนักข่าว ‘SANA’ ของทางการซีเรีย รายงานว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีเป้าหมายในพื้นที่ของเมืองเดียร์ เอซซอร์, อัล บูคามัล และอัล มายาดิน รวมทั้งพื้นที่รอบชายแดนระหว่างซีเรียกับอิรักต่อมา จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อรัฐบาลอิรักแล้วว่า มีแผนจะโจมตีเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ก่อนจะลงมือปฏิบัติการโจมตี โดย จอห์น เคอร์บี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ไม่รู้จำนวนสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ถูกสังหาร หรือบาดเจ็บที่แน่ชัด ทั้งในอิรักและซีเรีย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอิรักปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าวของสหรัฐฯ และชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อความคิดเห็นของผู้คนระหว่างประเทศtt ttอาคารหลังหนึ่งในเมืองอัลคาอิม ในอิรักได้รับความเสียหายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐฯเมื่อ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗อิหร่าน อิรัก และซีเรีย ร่วมประณามสหรัฐฯรัฐบาลอิรักและซีเรียได้ออกมาประณามการโจมตีของกองทัพสหรัฐฯ ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตย และเสี่ยงต่อการทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามมากขึ้นกระทรวงการต่างประเทศของซีเรียกล่าวประณามสหรัฐฯ ว่า ละเมิดอธิปไตยของซีเรียอย่างโจ่งแจ้ง เช่นเดียวกับโฆษกกองทัพอิรักที่ประณามการโจมตีของสหรัฐฯ ว่า เป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรียส่วนกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านได้ออกมาประณามสหรัฐฯ ที่โจมตีอิรักและซีเรียว่า ‘เป็นการดำเนินยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาด’ เพราะการโจมตีอิรักและซีเรียจะไม่ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์อื่นใดตามมา นอกเหนือไปกว่าการทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางตึงเครียดและไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้นผู้เขียน: อรัญญา ศรีจันทรนิตย์ที่มา : CNN, BBC