“พิชิต ชื่นบาน” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โยน กระทรวงยุติธรรม ตอบ ปม “ทักษิณ” พ้นโทษ หวั่น คลาดเคลื่อน เชื่อ ไม่ถูกอายัดตัวปมคดี มาตรา ๑๑๒ ยันไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม ฝากคิดทำให้สังคมแตกแยกหรือไม่เมื่อเวลา ๐๙.๑๕ น. วันที่ ๖ ก.พ. ๖๗ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษว่า เรื่องนี้ต้องสอบถาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมถึงกรมราชทัณฑ์ เพราะจะทราบถึงขั้นตอนและระเบียบเป็นอย่างดี แต่ตนยังไม่ทราบว่า นายทักษิณ มีชื่อได้รับการพักโทษ แต่หากมีชื่อได้รับการพักโทษจริงๆ ขั้นตอนต่างๆ คงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ตนไม่อยากพูดอะไรไปกลัวจะคลาดเคลื่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยืนยันว่า ยังไม่ได้คุยและได้พบกับนายทักษิณ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษแล้วออกมาในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์นี้ นายพิชิต กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการนับระยะเวลากำหนดของกรมราชทัณฑ์ และคงไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะไปนับเมื่อถามถึงกระแสข่าวนายทักษิณจะถูกอายัดตัวในคดีมาตรา ๑๑๒ นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่าไม่มี ข่าวค่อนข้างจะคลาดเคลื่อน ส่วนที่มีการระบุว่า เป็นคดีในปี ๕๙ นั้น เป็นกรณีที่ท่านพูดที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร และเท่าที่ตรวจสอบในขณะนั้นที่ท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายจับ ท่านไม่มีโอกาสได้แก้ตัวหรือชี้แจง เพราะฉะนั้นคิดว่า ยังไม่มีความเป็นธรรมกับท่าน เพราะในกฎหมายนั้นกำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ แต่กรณีดังกล่าวท่านอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้มีโอกาสที่จะชี้แจงในส่วนที่เป็นคุณว่า ท่านไม่ได้กระทำความผิด และคิดว่ากระบวนการนี้ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว แต่เป็นรายละเอียดในชั้นของพนักงานสอบสวนและอัยการ ก็คงไม่อยากจะให้เป็นข่าว เพราะจะทำให้เป็นกระแสและเกิดความคลาดเคลื่อนกับสังคมได้ ซึ่งคิดว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องตามกระบวนการยุติธรรมปกติ และท่านได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วเมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าคดีมาตรา ๑๑๒ อยู่ในระหว่างชี้แจงและสอบสวนว่า นายทักษิณไม่ได้กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่ามีหลายประเด็นที่ท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเหตุเกิดต่างประเทศ และคลิปที่นำมาเผยแพร่เป็นเพียงบางท่อน บางตอน ไม่ใช่ทั้งหมด ตนไม่อยากกล่าวหาว่า เป็นการตัดต่อ และยังมีบางส่วนที่ขาดหายไป ในหลายเรื่องทราบว่า ก็ยังไม่ได้มา รวมถึงการสอบสวนผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์ท่านก็ไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้ พระราชบัญญัติความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศ ในการสอบสวน ตนไม่ทราบว่า พนักงานสอบสวนหรืออัยการได้ดำเนินการขั้นตอนนี้แล้วหรือยัง เพราะเป็นกฎหมายสากล ไม่ใช่ว่า มีข่าวแล้วมาสรุปความกันว่ากระทำผิดผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่า หากออกมาแล้ว จะไม่ถูกอายัดหรือถูกควบคุมตัว นายพิชิต เอามือตบอก พร้อมระบุว่า มั่นใจว่า ทำถูกต้องทุกอย่างล้านเปอร์เซ็นต์ และได้รับโทษ ๑ ใน ๓ ครบกำหนดเรียบร้อย เมื่อถามว่า จะได้ออกมาในเดือน กุมภาพันธ์นี้ แน่นอนใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ยิ้มแต่ไม่ตอบคำถามเมื่อถามว่า หากนายทักษิณได้รับการพักโทษ กรณีนี้ไม่สามารถขยับตัวได้ใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่าเรื่องหมายจับและกระบวนการต่างๆ มีการดูแลแล้ว คงไม่มีหมายอะไรมาจับท่านหรอก พนักงานสอบสวนและอัยการได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว คงไม่ปล่อยปละละเลย เพียงแต่ว่าเราไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะว่ามันมีสังคมอีกส่วนหนึ่งต้องการที่จะทำให้เกิดบางอย่าง และทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ยืนยันว่ากระบวนการ ในการดำเนินการกรณีนายทักษิณมันเป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ที่ท่านไม่เคยได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเลยขอให้สบายใจได้เมื่อถามว่า หากนายทักษิณได้พักโทษ มันจะครอบคลุมคดีอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า การพักโทษเป็นไปตามหมายแดง ที่นำท่านเข้ามาสู่ประเทศไทยว่ามีกี่คดี ตรงนี้คือตัวตัดสิน ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาถกเถียงกันว่า นายทักษิณได้รับโทษหรือยังนั้น ขอยืนยันในประเด็นข้อกฎหมายว่าตอนที่ท่านเดินทางกลับประเทศไทยและถูกนำตัวไปศาล ศาลจะออกใบแดงแจ้งโทษ ส่วนกระบวนการบังคับโทษเราต้องแยก ขณะนี้มีหลายฝ่ายมากล่าวหาว่านายทักษิณทำลายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมได้ยุติแล้ว ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ขณะนี้เขาเรียกว่ากระบวนการบังคับโทษและบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมมันได้สิ้นสุดไปตั้งแต่ศาลได้ออกใบแดง ซึ่งอยากให้จำไว้สองคำคือการบังคับโทษและบริหารโทษ ท่านอยู่ในกระบวนการนี้ ไม่ใช่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ทุกคนเห็นต่างได้ แต่อยากให้ไปดูข้อกฎหมาย นี่คือขั้นตอนที่นายทักษิณอยู่ ดังนั้น เรื่องการพักโทษก็ดี หรือที่มีข่าวว่ามีการออกระเบียบราชทัณฑ์เพื่อให้คุมขังอยู่ด้านนอกเรือนจำ มันเกิดไม่ได้ มันเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครกล้ากระทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าไม่เข้าใจว่าขั้นตอนนี้คืออะไรเราก็จะพูดกันไปเรื่อยและหาจุดจบ อันนั้นเรียกว่ามีวาระซ่อนเร้นนายพิชิต กล่าวว่า การบังคับโทษหรือการบริหารโทษ เป็นการดำเนินงานโดยคณะบุคคล ไม่มีคนหนึ่งคนใดทำได้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็ทำไม่ได้ อยากให้รับฟังข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมได้เข้าใจ และได้คิดวิเคราะห์ ว่า เราจะเป็นตัวทำให้สังคมแตกแยกหรือไม่ ยืนยันว่า นายทักษิณ ยังยึดมั่นในหลักนิติรัฐ และนิติธรรม และท่านได้เข้าสู่กระบวนการการรับโทษ และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพักโทษและการบริหารโทษก็ต้องดูให้เหมาะสมกับฐานะ รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และสุขภาพของท่าน