วันศุกร์, 8 พฤศจิกายน 2567

อินโดนีเซียปิดหีบ-เริ่มนับคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้ว

อินโดนีเซียปิดหีบ และเริ่มนับคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้ว เพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ต่อจากประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ที่ดำรงตำแหน่งมาครบ ๒ สมัยทางการอินโดนีเซียกำลังนับคะแนนเสียง หลังการปิดหีบเลือกตั้งเมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่ถือเป็นการเลือกตั้งแบบวันเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ต่อจากนายโจโก วิโดโด ซึ่งเป็นเป็นการแข่งขันระหว่างอดีตผู้ว่าการรัฐ ๒ คน คือ นายกันจาร์ ปราโนโว และนายอานีส บาสเวดาน ที่ต้องแข่งขันกับนายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และอดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษในสมัยอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นคาดว่าจะทราบผลในช่วงเย็นวันนี้ (๑๔ ก.พ.) โดยอิงจากการ “นับคะแนนอย่างรวดเร็ว” ของผู้สำรวจคะแนนเสียงอิสระ จากการสุ่มตัวอย่างตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในการเลือกตั้งครั้งก่อน การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในลักษณะนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความถูกต้องกฎหมายการเลือกตั้งห้ามไม่ให้เผยแพร่ผลการนับคะแนนอย่างรวดเร็วก่อนเวลา ๑๕.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศผลอย่างเป็นทางการภายในวันที่ ๒๐ มีนาคมเป็นอย่างช้าที่สุดขณะที่หลายฝ่ายมุ่งความสนใจไปที่การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และแผนการของนายโจโกวีที่จะทำให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้า และเร่งผลักดันโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รวมถึงแผนการย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่มูลค่าหลายแสนล้านบาท โดยผลการสำรวจความคิดเห็น ๒ ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคาดการณ์ว่านายปราโบโว ซึ่งให้คำมั่นว่าจะสานต่อโครงการของนายโจโกวี จะได้รับเสียงสนับสนุนที่ ๕๑.๘% และ ๕๑.๙% ส่วนนายอานีส และนายกันจาร์ อยู่ที่ ๒๗% และ ๓๑% ตามลำดับ และหากต้องการชัยชนอย่างเด็ดขาด ผู้สมัครจะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่า ๕๐% และต้องได้คะแนนเสียง ๒๐% จากครึ่งหนึ่งของจังหวัดทั้งหมดของประเทศการลงคะแนนเสียงในกรุงจาการ์ตาเริ่มต้นในช่วงเช้า ท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองทำให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ของกรุงจาการ์ตา หน่วยเลือกตั้งประมาณ ๗๐ แห่งได้รับผลกระทบ แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าได้ส่งผลกระทบต่อผู้ออกมาใช้สิทธิ์หรือไม่ โดยผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ ๗๕%หน่วยเลือกตั้งบางแห่งในจังหวัดชวากลาง และบาหลี ได้รับการประดับตกแต่งด้วยสีชมพู และสีขาว เนื่องในในวันวาเลนไทน์ ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งอื่นๆ ในจังหวัดชวาตะวันตก มีการแจกผลไม้ให้กับผู้ลงคะแนนเสียงที่รอการเลือกตั้งกลุ่มผู้ลงคะแนนเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อนายอานีส อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา และนายกันจาร์ อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง เพื่อให้มีการเลือกตั้งรอบที่สองในเดือนมิถุนายน ระหว่างผู้ได้คะแนนเสียง ๒ อันดับแรก โดยนายอานีสกล่าวที่หน่วยเลือกตั้งว่า “ผมอยากเน้นย้ำว่าเราต้องการการเลือกตั้งที่ซื่อสัตย์ และยุติธรรม เพื่อให้เกิดความสงบสุข”ทั้งนี้ หลังการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ ได้เกิดการจลาจลร้ายแรง เมื่อนายปราโบโว ซึ่งเคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาก่อน ได้แสดงความไม่พอใจต่อชัยชนะของ นายโจโกวี ทำให้ในปีนี้ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ คน เฝ้าระวังตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศนายอานีส หาเสียงโดยให้คำสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลง และป้องกันการถอยหลังของการปฏิรูปประชาธิปไตยที่ประสบความสำเร็จในรอบ ๒๕ ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองแบบเผด็จการของซูฮาร์โต ด้านนายกันจาร์ หาเสียงโดยสัญญาที่จะสานต่อนโยบายของนายโจโกวีต่อไป โดยในช่วงกว่าทศวรรษของการดำรงตำแหน่ง นายโจโกวี ได้พยายามดึงดูดการลงทุน โดยออกกฎหมายที่ทำลายกฎเกณฑ์เดิมๆ และแก้ไขกฎเกณฑ์ทางธุรกิจ ตามข้อมูลของธนาคารโลก ความพยายามของฝ่ายบริหารของเขาในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อส่งผลดีต่อประชาชนหลายล้านคน และรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นส่วนปราโบโว วัย ๗๒ ปี ให้คำมั่นที่จะสานต่อนโยบายของ นายโจโกวี และในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเขาจากคนที่เต็มไปด้วยความฉุนเฉียวให้กลายเป็นชายสูงอายุที่น่ารัก รวมถึงการเผยแพร่คลิปต่างๆ บนแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ทำให้เขาถูกใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีอายุต่ำกว่า ๔๐ ปี ซึ่งคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ๒๐๔.๘ ล้านคนอย่างไรก็ตาม การที่ นายโจโกวี ออกมาแสดงการสนับสนุน นายปราโบโว บวกกับข้อกล่าวหาที่ว่าเขาแทรกแซงคำตัดสินของศาลที่อนุญาตให้บุตรชายลงแข่งขันชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาไม่มีความเป็นกลางในการส่งบุตรชายเพื่อสืบทอดตำแหน่ง.ที่มา: Reutersติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign