วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

กปช.ถกขันนอต NBT เพิ่มเรตติ้ง-ช่วยสื่อฯ สานผลงานรัฐบาลเข้าถึงประชาชน

“สมศักดิ์-พวงเพ็ชร” ถก คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ ยกระดับ “เอ็นบีที” เพิ่มเรตติ้ง หวังสื่อสารผลงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชน หลังพบช่องเอกชนเน้นนำเสนอข่าวชาวบ้าน เรียกเรตติ้ง-ให้สัดส่วนงานรัฐบาลน้อย พร้อมจี้ช่วยแก้เฟกนิวส์-สื่อสารเร็วขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ ก.พ. ๖๗ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ (กปช.) โดยมี นางพวงเพ็ชร ชุดละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นางสุดฤทัย เลิศเกษม รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์, นสพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมประชุมโดย นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ได้มีการหารือถึงการประชาสัมพันธ์ผลงานของภาครัฐ เพื่อยกระดับให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารจากรัฐบาลโดยตรง และรอบด้าน เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา กรมประชาสัมพันธ์ โดยช่องเอ็นบีที ยังไม่สามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารของภาครัฐไปยังประชาชนได้อย่างครอบคลุม จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะหากดูจากการรายงานเรตติ้งทีวีดิจิทัลพบว่า ช่องเอ็นบีที อยู่ในลำดับที่ ๑๗ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสามารถยกระดับให้มีเรตติ้งที่ดีขึ้นได้ เพื่อให้มีประชาชนมาติดตามข้อมูลข่าวสารมากขึ้น”ที่ประชุมมีการสะท้อนว่า ปัจจุบันผลงานของรัฐบาล ทีวีดิจิทัลของภาคเอกชนให้เวลาสัดส่วนการนำเสนอเพียงเล็กน้อย เพราะต้องให้น้ำหนักข่าวชาวบ้านที่ทำให้เรตติ้งสูง ดังนั้นผลงานของรัฐบาลก็จะถูกนำเสนอลดลงไปด้วย ซึ่งขณะนี้ ช่องเอ็นบีที ก็กำลังมีการปรับตัว โดยมีการปรับการนำเสนอช่วงเวลาข่าว และรูปแบบรายการ เพื่อจะได้เป็นอีกช่องทางสำคัญของรัฐบาลที่จะได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชน รวมถึงต้องยอมรับว่าเวลามีเรื่องที่สังคมสงสัย ส่วนราชการจะไม่ค่อยออกมาชี้แจง ซึ่งใช้การส่งเอกสารข่าวชี้แจงแทน ทำให้ภาครัฐดูไม่ค่อยดี ผมจึงฝากให้ช่วยกันสื่อสารด้วยความรวดเร็ว อย่าปล่อยให้ประชาชนเข้าใจผิด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขณะที่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ขณะนี้ ช่องเอ็นบีที กำลังทำงานอย่างเต็มที่ในการปรับรูปแบบการนำเสนอให้ประชาชนหันมาติดตามมากขึ้น ซึ่งขอยืนยันว่าให้ความสำคัญกับเรตติ้งเป็นอย่างมาก เพราะตนได้สั่งการในที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าให้มีการปรับเปลี่ยนในหลายส่วน เพราะการทำงานด้านข่าวสารต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะการแก้ข่าวเฟกนิวส์ที่พบว่าปัจจุบันมีจำนวนมาก ดังนั้นการสื่อสารของรัฐบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากทำให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้นก็จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนเข้าใจผิดได้.