นายกรัฐมนตรี Kick-off มอบสัญญาเช่า นำร่องโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ให้กับประชาชนชาวอุดรฯ ใช้ประโยชน์ที่ดินกองทัพ เนื้อที่กว่า ๑๐,๐๐๐ ไร่ ยื่นเอกสารแล้วกว่า ๔๓๔ ราย ๕๘๔ แปลงวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ภายใต้โครงการนำร่อง “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งเป็นที่ดินของกองทัพที่จะนำไปให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ โดยรัฐบาลใช้เวลาเพียง ๓ เดือนเศษ หลังนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายไปเมื่อครั้งไปเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและวิสาหกิจชุมชน ที่ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอโดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาแจกที่ดินทำกินให้กับประชาชนในวันนี้ จึงอยากจะขอเล่าเรื่องพื้นฐานก่อนว่า ที่อยากจะทำเรื่องนี้เพราะเรื่องสิทธิทำกินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหม และกองทัพทุกเหล่าทัพต่างร่วมมือกัน เนื่องจากมีพื้นที่อยู่เยอะ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีได้พูดคุย และศึกษาข้อมูลในเชิงลึกกับทุกคนแล้ว อีกทั้งตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับแม่ทัพทุกเหล่าทัพ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ที่อยากจะให้ที่ดินทำกินกับประชาชน และภายในเวลาแค่ ๔-๕ เดือน กองทัพได้ทำงานอย่างรวดเร็ว มีคนได้รับประโยชน์กว่า ๕๐๐ ครอบครัว และจะไม่หยุดยั้งที่จะทำงานต่อไป ซึ่งที่ต่อไปก็จะเป็น จ.นครพนม จ.สมุทรปราการ และ จ.กาญจนบุรี รวมไปถึงกองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็จะมีส่วนร่วมด้วยนอกจากนี้เรื่องระบบชลประทานกับเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการ ซึ่งจะต้องให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่แจก จะมีน้ำใช้ ซึ่งไม่ใช่ให้แค่พื้นที่อย่างเดียว ต้องให้พี่น้องประชาชนมีสิทธิทำมาหากินได้อย่างเต็มที่ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ รัฐบาลเข้าใจปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดี และจะขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้กับประชาชนต่อไป สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ ๒๔ ปกครองดูแลที่ดิน และมีกรมทหารปืนใหญ่ที่ ๓ เป็นหน่วยที่ใช้ประโยชน์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า ๔๐,๐๐๐ ไร่ โดยเดิมทีเป็นพื้นที่ที่ทหารใช้ในการซ้อมรบและยิงปืนใหญ่ ซึ่งขณะนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ตรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้วไม่อยู่ในเขตอันตราย สามารถนำไปให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้กว่า ๑๐,๐๐๐ ไร่ โดยล่าสุดได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาจัดให้เช่าตามหลักเกณฑ์ ระเบียบ และกฎหมายราชพัสดุเรียบร้อยแล้ว และมีประชาชนยื่นเอกสารแล้วกว่า ๔๓๔ ราย ๕๘๔ แปลงนอกจากนี้ภายหลังความสำเร็จของ “หนองวัวซอโมเดล” กองทัพก็จะมีการขยายการใช้พื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มเติม เช่น บ้านแก่งประลอม และ บ้านพุราด อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ของกองทัพไทย, อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ของกองทัพเรือ และพื้นที่สนามบินนครพนม ของกองทัพอากาศ เป็นต้น