วันพุธ, 6 พฤศจิกายน 2567

สอง-สามนายกฯ สำคัญไฉน

เป็นที่น่าสังเกตว่า กระบวนการยุติธรรม ที่ถูกโจมตี ถึง ความไม่เป็นธรรม นับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ในเวลาเดียวกับที่กระบวนการยุติธรรมเข้มงวดเอาจริงกับ คดีความตามกระบวนยุติธรรม ทั้งจากคนในกระบวนการยุติธรรม บุคคลการเมือง ผู้มีอิทธิพล คนมีสี ระหว่างหน่วยงานรัฐกับหน่วยงานรัฐ กระทรวงกับกระทรวง ตำรวจกับตำรวจ อัยการกับตำรวจ ป.ป.ช.กับรัฐบาล บ้างก็ว่ากำลังจะเกิด นิติสงคราม บ้างก็ว่ากำลังจะเกิด วิกฤติวงจรอุบาทว์ ไปจนถึงวิกฤติจากกระบวนการยุติธรรมการที่ สำนักงานอัยการสูงสุด นำโดย ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ต้องแถลงถึงสองประเด็นใหญ่คือ การพิจารณาดำเนินคดีอาญา ข้อกล่าวหาความผิดเข้าข่าย ม.๑๑๒ ของทักษิณ ชินวัตร และกรณีที่เกี่ยวกับพนันออนไลน์ เครือข่ายมินนี่ ที่มีนายตำรวจใหญ่ระดับรอง ผบ.ตร. ถูกตั้งข้อกล่าวหาร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงการคุกคามการทำหน้าที่ของอัยการขบวนการสอบสวนจะประกอบด้วยตำรวจและอัยการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นไปในทางเดียวกัน แต่กรณีนี้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคลากรในกระบวนการสอบสวน และผู้ถูกคุกคามก็อยู่ในกระบวนการสอบสวน ที่จะมีผลต่อการพิจารณาคดีในการส่งฟ้องต่อศาลยุติธรรม จึงมีผลกระทบกับกระบวนการยุติธรรมเป็นพิเศษการเมือง การละคร สากกะเบือยันเรือรบ จะถูกดึงไปเอี่ยวกับการเมืองหมด แม้แต่การโหวตคว่ำ ชื่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ไม่ให้นั่งเก้าอี้ ป.ป.ช. เพราะขาดคุณสมบัติ ในที่ประชุมสว.ก็ไปโยงว่า เพราะลุงคนหนึ่ง ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับ สว.แล้ว แต่ลุงอีกคนยังมีบทบาทใน สว. เป็นเพราะนายตำรวจคู่รักคู่แค้น และถูกร้องอยู่ใน ป.ป.ช.ด้วย ไม่ยอมให้ผ่านแน่นอน ว่ากันเป็นตุเป็นตะ ทำให้คนที่จะเข้าสู่ตำแหน่งในองค์กรอิสระ รู้สึกว่าไม่ค่อยจะเป็นอิสระจะว่าไปแล้ว โครงการชิ้นโบแดงของรัฐบาล ดิจิทัลวอลเล็ต ที่ยังเข็นครกขึ้นภูเขาอยู่ตอนนี้ ไม่ได้ถูกคัดค้านจาก ฝ่ายค้านหรือฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม แต่ถูกค้านแบบนิ่มๆจาก องค์กรตรวจสอบภาครัฐ ล่าสุด ป.ป.ช. ให้คำแนะนำเข้าไปใน คณะรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ตรงๆ รัฐบาลควรศึกษาวิเคราะห์การดำเนินนโยบาย รวมทั้งชี้แจงความชัดเจนเป็นรูปธรรม ว่าผู้ใดได้รับประโยชน์จากโครงการ จะไม่ตกแก่พรรคการเมือง นักการเมือง หรือเป็นการเอื้อประโยชน์กับบุคคลรายใดรายหนึ่ง หรือกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพมากกว่าผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายที่อาจจะเข้าข่ายการทุจริตเชิงนโยบายแทงข้างหลังทะลุหัวใจเพราะฉะนั้น จะมาด้อยค่านายกฯสองคนสามคม ก็ไม่ใช่ สาระสำคัญอะไร เป็นแค่วิวาทะ ไปตอบโต้ให้ความสำคัญก็ยิ่งไร้สาระเข้าไปใหญ่ ความสำคัญอยู่ที่การแสดงภาวะผู้นำมากกว่าถ้ามีภาวะผู้นำจะเป็นนายกฯคนที่เท่าไหร่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม