วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

เพื่อไทย ติง ฝ่ายค้าน อย่าให้อคติบังตา ๘ วิสัยทัศน์ นายกฯ ดันไทยสู่ผู้นำ

โฆษกเพื่อไทย ติง ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “ศิริกัญญา” อย่าให้อคติบังตา ยัน ๘ วิสัยทัศน์ “นายกฯ เศรษฐา” ดัน ประเทศไทยสู่ผู้นำภูมิภาค ด้วย DNA นักบริหารมืออาชีพ วันที่ ๒๔ ก.พ. นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแสดงวิสัยทัศน์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในหัวข้อ IGNITE Thailand จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง พร้อมเสนอวิสัยทัศน์ผลักดันประเทศไทยเป็น ๘ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เป็นการยืนยันว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีประสบการณ์การบริหารประเทศมาหลายยุค มีนายกรัฐมนตรี ที่มีความรู้ ความสามารถ หลายคน เราคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน คือแคมเปญหลักที่เราใช้ในการหาเสียงและยังคงเดินหน้า แม้เป็นรัฐบาลมาเพียง ๖ เดือน แต่ผลงานประจักษ์ กลับมาเป็นที่ยอมรับเวทีนานาชาติสำหรับวิสัยทัศน์ ๘ ด้าน โดยนายกรัฐมนตรี นั้น มุ่งเน้นการวางรากฐานด้านเศรษฐกิจและอนาคตประเทศไทยไปสู่ผู้นำของภูมิภาค มีการวางช่วงระยะการดำเนินผลสำเร็จและยังมีเป้าหมายหรือตัวชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI ที่ชัดเจน ในขณะที่โครงการการลงทุนขนาดใหญ่ นายกรัฐมนตรี ได้เตรียมการเอาไว้สำหรับการดำเนินการศึกษาอย่างรอบคอบ โดยต้องการการพิจารณาร่วมกันไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ สภาผู้แทนราษฎร หรือการขอความเห็นที่เป็นประโยชน์จากองค์กรอิสระต่างๆ ด้วย ทั้งขยายท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง โครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งโครงการขนาดใหญ่นี้จะเดินไปควบคู่กับดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลกำลังผลักดันเต็มที่ส่วนที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่า ฟังแล้วไม่มีอะไรใหม่ ไม่เห็นเป็นรูปธรรมทั้ง ๘ ด้านว่าจะทำอย่างไร และกล่าวหาว่าแผนค่อนข้างลอยนั้น เป็นการกล่าวหาที่เต็มไปด้วยอคติ และไม่เปิดใจที่จะรับฟัง เพราะการประกาศ “วิสัยทัศน์” หรือ Vision คือ การมองภาพในอนาคต (Future Perspective) เป็นสิ่งที่ผู้นำบอกกับประชาชนและนานาประเทศ ถึงทิศทางของประเทศไทย และกำหนดจุดหมายปลายทางที่มีความชัดเจน มีพลัง และมีความเป็นไปได้ เช่น วางเป้าหมายเพิ่มระยะทางรถไฟทางคู่อีก ๒,๐๐๐ กิโลเมตร ภายในปี พ.ศ.๒๕๗๓, เพิ่มระยะทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและในภูมิภาค ๒.๕ เท่า ในปี พ.ศ.๒๕๗๓ และรถไฟฟ้าเชื่อม ๓ สนามบินไปถึงหนองคายในปี ๒๐๓๐ และอื่นๆ อีกมากมาย จึงอยากวิงวอนว่า ประชาชนรอความเจริญมานานมากแล้ว อย่าให้ความไม่รู้ บดบังความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการวางอนาคตให้ประเทศ“นายกรัฐมนตรี มี DNA ผู้บริหารมืออาชีพ นอกจากประกาศเป้าหมายของประเทศให้ประชาชนรับรู้แล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณไปถึงนักลงทุนที่ฟังอยู่ทั่วโลก ว่าประเทศไทยมีความพร้อมมาก นักลงทุนเมื่อได้ฟังแล้ว พวกเขาจะได้รับรู้ทิศทางการลงทุนในไทยอย่างไร ในเวลาเดียวกันยังเป็นการแบ่งงานให้แต่ละกระทรวงไปทำงาน แบ่งงบ ประมาณตามงาน เพื่อไทยเรามององค์รวม ภาพใหญ่ เราต้องการสร้างความเจริญกลับคืนสู่ประเทศ กลับมาเป็นผู้นำในภูมิภาค” นายดนุพร กล่าว