วันศุกร์, 8 พฤศจิกายน 2567

สตม.พัฒนาระบบสืบสวน รับนโยบายท่องเที่ยวไทย

02 มี.ค. 2024
54

หลังวิกฤตการณ์โรคโควิด-๑๙ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเปิดประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ช่วงปี ๒๕๖๕ นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ๔๖.๙๑ ล้านคน การเดินทางเข้าประเทศของคนต่างชาติเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยเพิ่มขึ้นไปด้วย แต่ตรงข้ามการเดินทางเข้ามาของคนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นเป็นโอกาสของอาชญากรชาวต่างชาติเล็ดลอดเข้ามาก่อเหตุได้ง่ายขึ้นเช่นกันไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งการพนันออนไลน์ แก๊งหลอกลวงออนไลน์ แก๊งล้วงกระเป๋า แก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ แก๊งขนคนต่างชาติผิดกฎหมาย และกลุ่มอาชญากรหนีคดีสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่หลักในการควบคุมและคัดกรองคนต่างชาติที่เดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร ตรวจสอบการพักอาศัยอยู่ในประเทศของคนต่างชาติเรียกได้ว่าทำหน้าที่เป็นเหมือนประตูของประเทศที่คอยเปิด–ปิดรับผู้คนต่างชาติเข้าไทย การสกัดกั้น คัดกรอง ป้องกันไม่ให้คนต่างชาติที่มีพฤติกรรมมาก่ออาชญากรรมหรือก่อเหตุร้ายเข้าประเทศ ควบคุมคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศ ใช้ข้อมูลพักอาศัยอยู่ในประเทศ ข้อมูลการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆในประเทศ เพื่อติดตามดูแลคนต่างชาติให้อยู่ในประเทศไทยและให้ความช่วยเหลือคนต่างชาติได้ทันเหตุการณ์ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. มีนโยบายเข้มเพื่อภาพรวมการท่องเที่ยวไทยการสกัดกั้น ป้องกันไม่ให้คนต่างชาติที่มีพฤติกรรมก่อคดีเข้าประเทศ ลดโอกาสก่อเหตุ บันทึกข้อมูลเป็นบุคคลต้องห้าม หรือบุคคลเฝ้าระวัง ร่วมมือจากหน่วยงานองค์การระหว่างประเทศ Interpol และ UNคัดกรอง คนต่างชาติที่เดินทางไม่ถูกต้องออกจากกลุ่มคนต่างชาติที่เดินทางถูกต้อง ทั้งเรื่องเอกสารเดินทาง ลักษณะพฤติกรรม ทำให้โอกาสก่ออาชญากรรมลดลงหรือเรียกว่า แยกคนไม่ดีออกจากคนดี ควบคุม ข้อมูลเดินทางเข้าออกนอกประเทศ ข้อมูลพักอยู่ในประเทศ เพื่อให้ติดตามดูแลคนต่างชาติอยู่ในไทยการปราบปราม สืบสวน จับกุมอาชญากรทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยที่ร่วมกับชาวต่างชาติก่ออาชญากรรมและเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมในต่างประเทศด้วย การยับยั้ง การออกนอกประเทศของคนต่างชาติที่ก่อคดีเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ การผลักดัน ส่งกลับและผู้ลี้ภัยที่กระทำผิดกฎหมายในไทยกลับภูมิลำเนา ช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปยังประเทศที่สาม เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าพล.ต.ท.อิทธิพล มอบ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. มากำหนดแนวทางในการปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนต่างชาติ ตั้งแต่เดือน ตุลาคมจับกุมผู้ร่วมขบวนการระดับต่างๆหลายราย นำข้อมูลที่รวบรวมมาวิเคราะห์แผนประทุษ กรรม แนวโน้ม ปัจจัยต่างๆ เพื่อป้องกัน สกัดกั้นหรือส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยกันสกัดกั้น ป้องกันพล.ต.ต.พันธนะเข้าร่วมประสานข้อมูลของกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติที่มีหมายจับกับทางสถานทูตต่างๆ เพื่อติดตามจับกุมและสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายต่างๆเข้ามาหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย ประชุมหาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศต่างๆหลายครั้ง โดยเฉพาะระบบการรวบรวมข้อมูลการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างชาติพล.ต.ต.พันธนะ พัฒนาระบบรวบรวมข้อมูลและแสดงผลในรูปแบบ Dashboard ช่วยให้การรวบรวมและตรวจ สอบข้อมูลที่พักของคนต่างชาติทำได้มีประสิทธิ ภาพ ควบคุมและติดตามคนต่างชาติได้อย่างรวดเร็วทุกพื้นที่ทำข้อมูลกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ บุคคลมีหมายจับ ข้อมูลสถานที่ สถานบริการ ชุมชนชาวต่างชาติ วิเคราะห์หาแผนประทุษกรรม แนวโน้ม หาวิธีการป้องกัน สกัดกั้น รูปแบบอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นการตรวจสอบและแสดงผลข้อมูลในรูปแบบ Dashboard ช่วยให้ทีมสืบสวนเข้าถึงข้อมูลและนำไปใช้ได้รวดเร็ว สนับสนุนส่งต่อข้อมูลหรือร่วมทำงานกับตำรวจพื้นที่สืบสวนผู้ต้องหาชาวต่างชาติเข้ามาก่อคดีสำคัญคดี “Black Money” สืบสวนจนรู้ตัวกลุ่มคนร้ายชาวผิวสีก่อเหตุหลอกลวงนักธุรกิจชาวพม่าร่วมลงทุนและลงมือฆ่าพื้นที่ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี หลบหนีไปต่างประเทศ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศควบคุมตัวกลุ่มคนร้ายไว้ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศแคเมอรูนก่อนหลบหนีไปยังประเทศที่สาม และสืบสวนคดี “แก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มไต้หวัน” รู้ตัวกลุ่มคนร้ายชาวไต้หวันคนไทยร่วมก่อเหตุ ประสานข้อมูลและความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยกับกัมพูชา จับกุมคนร้ายที่หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชากลับมาดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว ชุดสืบสวน บช.สตม.ขยายผลจับกุมขบวนการระดับสั่งการ ประสานงานทั้งในประเทศและนอกประเทศ กลุ่มนายทุนที่เกี่ยวข้องเป็นระบบ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมากยิ่งขึ้นพล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. กล่าวว่า “งานสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนดแนวทางในการทำงานให้ทันกับสถาน การณ์ที่เกิดขึ้น นำเทคโนโลยีเครื่องมือการสืบสวนสมัยใหม่มาใช้ อบรมบุคลากรให้มีความรู้ด้านเทคนิคการสืบสวนในยุคใหม่ มุ่งเน้นให้บุคลากรมีความรู้ความสามารถในการทำงานที่สูงขึ้นขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมต่างๆ ทำให้มีสถิติการจับกุมอาชญากรมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจับกุมผู้กระทำผิดที่เป็นขบวนการหรือกลุ่มแก๊ง”“นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือ ระหว่างประเทศ ได้มีการเดินทางไปประชุมหารือแสวงหาความร่วมมือกับกลุ่มประเทศต่างๆ เพื่อประสานขอข้อมูลกลุ่มคนร้ายที่มีหมายจับของต่างประเทศหรือหมายจับของตำรวจสากล นำมาสืบสวนติดตามจับกุมโดยดำเนินการตาม พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน และลงข้อมูลในระบบเพื่อสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายต่างๆเข้ามาหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย” นโยบายขับเคลื่อนของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ทำให้ชาวต่างชาติเกิดความมั่นใจความปลอดภัยในการเข้ามาเที่ยวเมืองไทย รองรับนโยบายการเปิดประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกปิดโอกาสอาชญากรต่างชาติใช้เมืองไทยเป็นฐานก่อคดี.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยสัปดาห์” เพิ่มเติม